10 ภาพกับความเรียบง่ายสไตล์อามิชที่ดำเนินไปด้วยความสุข

วันนี้เราชาวสัพเพเหระไปพบเรื่องราวที่ดูสบาย ๆ ซึ่งเพื่อนของเราหลายหลายคนเคยบอกว่าการได้ลองหยุดพักวางจากสิ่งที่มีเดินให้ช้าลง หรือไม่มีโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัวปล่อยให้เราได้อยู่ในช่วงที่เป็นตัวของตัวเองบ้างถือว่าเป็นการพักผ่อนและเติมพลังให้กับตัวเองซึ่งฟังดูแล้วมันก็เข้าท่ามากมากแต่คงทำได้สักไม่กี่วันหรอก เพราะทุกวันนี้เราเหมือนกำลังวิ่งแข่งอยู่ตลอดเวลาแน่นอนว่าเพราะทุกอย่างมันรวดเร็วขึ้นมากเราจึงต้องทำให้ตัวเราเองรวดเร็วตามไปด้วยนั้นเอง แต่ถ้าเราจะบอกเพื่อนเพื่อนว่ายังมีที่แห่งหนึ่งซึ่งยังคงเดินหน้าไปด้วยความเรียบง่ายและไม่ต้องการอะไรมากนอกจากความสุขละแถมทุกวันที่นี้ก็ยังดำเนินไปแบบเรียบง่ายไม่เร่งรีบตามแบบที่เราบอกให้เพื่อนเพื่อนได้ฟังในช่วงต้นละเพื่อนเพื่อนจะสนใจไปอยู่บ้างไหม ใช่แล้วเรื่องราวที่เรากำลังจะบอกให้เพื่อนเพื่อนได้ทราบกันเป็นเรื่องราวของชุมชน ชาวoามิชซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อาศัยและตั้งขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยที่นี้ไม่ใช้ไฟฟ้าหรือแม้กระทั้งโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก็ไม่มีพวกเขายังคงใช้ม้าในการเดินทางและขนของเดินไปซูเปอร์มาร์เก็ตภายในกลุ่ม โดยที่หากเพื่อนเพื่อนสนใจก็สามารถไปทัวร์สำหรับชมชุมชนของพวกเขาได้ พอได้ยินแบบนี้แล้วทำให้เราอยากเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่ใช้มาตั้งแต่ยุค 1700 ที่อยู่ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างไร

มีเรื่องราวต่าง ๆ น่าสนใจมากมากเกี่ยวกับพวกเขาซึ่งเราจะค่อย ๆ อธิบายให้เพื่อนเพื่อนฟังนะพร้อมแล้วก็ไปเริ่มกันเลยดีกว่า

©Depositphotos
ข้อแรกเลยที่นี้เป็นชุมชนปิดของชาวoามิชที่ได้รับการบันทึกไว้ว่ารูปแบบต่าง ๆ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 100-200 ปีก่อน เพื่อนเพื่อนยังสามารถนั่งเกวียนม้าบนถนนแต่ก็สามารถมองเห็นรถยนต์สมัยใหม่ได้บ้างบางครั้ง เป็นที่ทราบกันดีว่าชาวอามิชแทบไม่สนใจในการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ พวกเขาใช้ชีวิตตามรูปแบบที่ทำต่อต่อกันมาโดยแยกออกจากโลกปัจจุบัน พวกเขายังชอบลงมือทำงานด้วยกันกับคนครอบครัวดังนั้นที่นี้หนึ่งครอบครัวจึงมีลูกเฉลี่ยประมาณ 6 คน มีชาวอามิชมากกว่า 300,000 คนและส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามกฎและประเพณีของพวกเขาแตกต่างกันไปแต่ล่ะกลุ่ม
©Depositphotos
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง แต่เขาก็ยังสามารถเป็นผู้โดยสารได้เช่นกัน การนั่งรถประจำทาง รถไฟ หรือรถยนต์ของคนอื่นที่ต้องการให้พวกเขานั่ง เพราะมันช่วยให้พวกเขาเข้าถึงสถานที่ที่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถม้าที่มี
ชาวอามิชไม่ใช้จักรยาน แต่รถสกู๊ตเตอร์แบบใช้แรงส่งจากขากลับได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจากรถม้า ซึ่งคนหนุ่มสาวจำนวนมากใช้ขี่ไปโรงเรียน และจริงๆแล้วพวกเขาเรียกว่าสกูตเตอร์อามิช ซึ่งมีบริษัทพิเศษที่ผลิตสกูตเตอร์เหล่านี้
©Depositphotos
จุดหลักเลยที่ทำให้ที่นี้ยังคงความเรียบง่ายอยู่เพราะมีกฎที่ว่าจะไม่มีการใช้ไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถใช้วิทยุ ทีวี หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ แต่เราก็ยังสามารถพบการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับให้อุปกรณ์ที่จำเป็นบางอย่างทำงานได้ นอกจากนี้ในบางกลุ่มยังใช้เครื่องยนต์แบบเก่าในการซักผ้า และจักรเย็บผ้า ตู้เย็น เตา เครื่องทำน้ำอุ่น และโคมไฟ และใช้แก๊สบรรจุขวด ถึงรูปแบบบางอย่างจะดูย้อนยุคแต่กับบางอย่างก็ยังสามารถทำได้เช่นการทานอาหารในร้านสมัยใหม่อย่างไก่ทอด หรือ เบอร์เกอร์ ดังนั้นหากคุณได้ลองแวะเวียนมาที่นี้คุณอาจจะพบรถม้าไปอยู่ที่ลานจอดรถเพื่อหยุดพักทานเบอร์เกอร์หรือไก่ทอดอยู่ก็ได้
©Depositphotos
ซึ่งสิ่งเหล่านี้และผู้คนที่นี้ล้วนมีทางเลือกเป็นของตัวเองเพราะ จะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า Rumspringa เป็นช่วงที่ชาวอามิช เริ่มช่วงวัยรุ่นและเป็นช่วงการตัดสินใจที่สำคัญมาก นั่นคือจะอยู่ในชุมชนหรือจากไป ในช่วงเวลานี้คนหนุ่มสาวสามารถมีชีวิตที่ต้องการ พวกเขาได้ลองไปทุกที่ที่ต้องการ และทำหลายๆสิ่งที่ต้องเคยถูกห้ามใทำนชุมชน ซึ่งมันจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ล้วนขึ้นอยู่กับแต่ละคนโดยที่ครอบครัวจะยังคงติดต่อกันหรือไมก็ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวเช่นเดียวกัน
© TLC / Youtube
ซึ่งเราพบว่าชาวอามิชราว 90% จะยังคงเลือกที่จะกลับไปที่ชุมชนของพวกเขา แต่บางคนก็เริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนกับผู้คนอื่นๆในโลกอย่างเช่น Kate Stoltz เป็นหนึ่งในดาราของรายการ Breaking Amish และออกจากชุมชนหลังการแสดง ปัจจุบัน Kate เป็นนางแบบนักออกแบบและดาราทีวีที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก
.
©Depositphotos
เราพบว่าผู้คนที่นี้นั้นมีความพิเศษบางอย่างโดยที่พวกเขาจะมีอายุเฉลี่ยนานกว่าคนทั่วไปอีกถึง 10 ปีอาจจะเป็นเพราะความสบายใจที่ทำให้เป็นแบบนี้ก็ได้ซึ่งยังไม่มีข้อมูลอะไรบอกได้
และหากเพื่อนเพื่อนพบตุ๊กตาที่เป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะมันเป็นไปตามหลักการณ์ที่ยึดมั่นต่อต่อกันมา
© ChesPal (Debra Heaphy) / Wikimedia
ชาวอามิชจำนวนมากอยู่ในเพนซิลเวเนีย ที่ซึ่งมีสะพานปกคลุมด้วยหลังคาแบบที่เราเคยเห้นในหนังย้อนยุคมากกว่า 200 แห่ง และในปี 1800 มีราว 1,500 แห่ง และเมือง Lancaster County เป็นเมืองมีชื่อเสียงเป็นพิเศษในเรื่องสะพานเหล่านี้ มันมีทั้งหมด 29 แห่ง และมีทัวร์พิเศษสำหรับผู้คนที่อยู่นอกชุมชนอามิชอีกด้วย
ที่นิยมสร้างสะพานที่มีหลังคาคลุมเนื่องจาก ในช่วงราว 2 ศตวรรษที่แล้ว ไม้มีราคาถูกพอสมควรและถูกใช้ในการก่อสร้าง กระบวนการสร้างค่อนข้างแพง ดังนั้นจึงมีการสร้างหลังคาเพื่อป้องกันสะพานจากฝนและยืดอายุการใช้งาน
© Derek Ramsey (Ram-Man) / Wikipedia
ในทุกวันนี้บางชุมชนเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทำให้ชุมชนกลายเป็นที่ๆดึงดูดนักท่องเที่ยว หลายแห่งจัดร้านขายของที่ระลึกออนไลน์ ในขณะที่ร้านอื่น ๆ มีบริการขี่รถม้า ทำให้คุณสามารถรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านอามิชได้
Ordnung ซึ่งเป็นชื่อของชุดแต่งกายปรกติสำหรับชาวอามิช และที่นี้ยังไม่สวมใส่เครื่องประดับต่าง ๆ กันอีกด้วย นี่คือสาเหตุที่พวกเขาไม่สวมแหวนแต่งงาน ผู้หญิงอามิชจะไม่ตัดผม พวกเขาจะมวยผมเป็นประจำและสวมหมวกคลุมศีรษะเพราะทรงผมไม่ได้ช่วยให้การทำงานและการทำแบบนี้ยังทำให้มันง่ายขึ้นอีกด้วย
© Gabor Kovacs Photography / Shutterstock
เมื่อเราอ่านและได้ทราบรายละเอียดต่าง ๆ แบบนี้แล้วยิ่งทำให้เรามองย้อนกลับมาถึงพวกเราเองชาวสัพเพเหระเลยว่าทุกวันนี้เรายังพยายามทำให้ตัวเองมีความสุขอยู่ด้วยการเดินเข้าไปหาบางอย่างหรือว่าเรากำลังเดินหันหลังให้กับความสุขกันแน่ ถ้าเพื่อนเพื่อนมีอะไรที่น่าสนใจแบบนี้ก็ส่งมาให้เราได้นะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ

Back To Top