November 2021

เพื่อนของเราหลายหลายคนเริ่มที่จะมีห้องพักหรือบ้านเป็นห้องตัวเองแล้วก็เริ่มที่จะเข้าไปสู่ความสนุกสนานของการปรับเปลี่ยนหรือมองหาของตกแต่งห้องเพื่อที่จะสร้างบรรยากาศแบบที่ชอบหรือห้องในฝันซึ่งแน่นอนว่าจุดเริ่มต้นนั้นก็เพียงแค่การหาของวางแต่งโต๊ะเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างกระถ่างต้นไม้หรือตุ๊กตาของเล่นและเมื่อเรารู้สึกสนุกสนานมากขึ้นก็เริ่มที่ขะมีความจำเป็นในการลองปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ โดยความพยายามจัดวางให้สวยงาม จนหลายคนถึงขนาดที่ว่าต้องการออกแบบและปรับปรุงพื้นที่ใหม่เลยก็มี ซึ่งมีเพื่อนของเรามากมายที่ได้ลองทำแบบนี้แต่กลับมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสถาณที่แสนสบายสวยงามได้ดังใจ และบางคนกลับกลับกลายเป็นว่าได้ห้องที่ดูแปลกแปลกไปเท่านั้นเอง พวกเราชาวสัพเพเหะได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่เราได้ทำลงไปนั้นมีหลายเรื่องที่ผิดพลาดไปจากการปรับเปลี่ยนห้องพักใหม่ซึ่งเราก็ได้รวบรวมมาให้เพื่อนเพื่อนได้อ่านกันเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ผิดซ้ำแบบเดี่ยวกับที่เราทำหรือบางอย่างเราก็มีวิธีการแก้ไขให้ด้วยเลพร้อมจะอ่านกันแล้วก็ไปเริ่มกันเลยดีกว่า ถ้าหากว่าห้องของคุณมีพรมปูพื้นห้องอยู่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ใหม่เป็นสิ่งที่ต้องคิดให้ถี่ถ้วน © Depositphotos.com สิ่งแรกที่ต้องคิดถึงเลยก็คือน้ำหนักของเฟอร์นิเจอร์กับพื้นพรมเพราะที่บริเวณขาตั้งของเฟอร์นิเจอร์นั้นอาจจะกดลงไปบนพรมทำให้เกิดร่องรอยและทำให้พรมเสียหายได้ ส่วนที่สองที่ต้องคำนึงถึงก็คือขนาดของพรมของคุณกับเฟอร์นิเจอร์ใหม่เหล่านั้นเหมาะสมกันนั้นก็คือเวลาที่วางเฟอร์นิเจอร์บนพรมแล้วควรจะเหลือพื้นที่แต่ละด้านประมาณ 12-18 นิ้วระหว่างขอบเฟอร์นิเจอร์กับขอบพรมเพราะจะทำให้รู้สีกไม่รกเกินไป หรืออีกทางหนึ่งสำหรับห้องขนาดเล็กที่ต้องการวางพรมให้สวยงามคือการจัดวางสิ่งของต่างๆไม่ให้มีเฟอร์นิเจอร์วางอยู่บนพรมเลยมันจะทำให้โปร่งสบายตามากกว่าแต่ถ้าจำเป็นต้องมีโต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆไว้กลางห้องละก็คุณอาจจะต้องเลือกที่จะไม่เอาพรมแทนจะดีกว่า การเลือกโทนสีและความเหมาะสมของเฟอร์นิเจอร์ในส่วนต่าง ๆ ให้เหมาะสมกัน © Depositphotos.com, © Depositphotos.com ก่อนที่เพื่อนเพื่อนจะได้เลือกเครื่องใช้ต่าง ๆ เราขอแนะนำว่าให้คุณรอให้ทุกอย่างในห้องที่เป็นเฟอร์นิเจอร์บิวอินหรือการสร้างใหม่ทำเสร็จให้เรียบร้อยก่อนเพราะว่าสิ่งที่คุณเห็นในตอนออกแบบกับความเป็นจริงนั้นอาจจะแตกต่างกันได้เพราะสีที่ใช้จริงกับที่มีในตอนทำมันอาจมีการเปลี่ยนแปลงและ ระหว่างการทำงานเหล่านั้นคุณก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนแบบตามไปด้วยเพื่อที่จะได้เข้าใจมากขึ้นเราลองคิดถึงการทำห้องครัวใหม่สักห้องหนึ่งที่คุณต้องทำทั้งเคาน์เตอร์และหาเครื่องใช้ในครัว หากคุณไปมองหาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้พร้อมพร้อมกันกับการทำห้องครัวแต่บังเอิญต้องเปลี่ยนสีที่ต้องใช้เวลาที่ทุกอย่างมารวมกันก็อาจจะเกิดความแตกต่างแบบในภาพทางขวาได้ ซึ่งในภาพคือตัวอย่างที่เกิดขึ้น ไหนไหนก็กล่าวถึงห้องครัวแล้วก็ขอบอกเพิ่มอีกสิ่งหนึ่งก็คือระยะห่างที่เหมาะสม © Depositphotos.com ถ้าบ้านของคุณมีห้องครัวและเคาน์เตอร์กลางห้องครัวถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเวลาที่จะทำอาหารได้มากมากเพราะมันจะมีพื้นที่เตรียมอาหารและทำความสะอาด อย่างไรก็ตามมันจะมีประโยชน์เฉพาะในกรณีที่ห้องครัวใหญ่จริงๆ แต่หากห้องมีขนาดเล็กมันจะเปลืองพื้นที่มาก ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินไปเลือกที่จะมีหรือไม่มีเคาน์เตอร์กลางห้องครัว ให้คุณลองวัดระยะห่างจากขอบชองกำแพงหรือตู้ที่อยู่โดยรอบก่อนเพราะอย่างน้อยคุณควรจะมีระยะห่างสัก 40 เซนติเมตรเพราะว่าคุณจะได้เดินไปมาได้สะดวก การจัดโชนพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้งภายในห้องน้ำ © Depositphotos.com ในเมื่อเรามีพื้นที่ของห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่มากพอ เราขอเสนอให้มีการจัดพื้นที่ของโซนเปียกสำหรับอาบน้ำหรือซักล้างและมีส่วนกันที่ชัดเจนไม่เปิดโล่งจนเกินไปเพื่อความเป็นส่วนตัวและรู้สึกสบายใจเวลาใช้งาน และที่เราแนะนำให้แยกพื้นที่ออกเพราะเป็นเรื่องของความสะดวกและปลอดภัยเพราะกรณีที่พื้นเปียกคุณก็อาจจะลื่นได้ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีระดับความสูงแบบต่าง ๆ © Depositphotos.com สิ่งนี้เป็นเรื่องง่าย…

สำหรับเพื่อนเพื่อนที่กำลังต้องออกมาทำงานเป็นครั้งแรกหรือใครที่กำลังคิดจะเปลี่ยนงานอยู่ในตอนนี้สิ่งหนึ่งที่พวกเราจะต้องพบเจอนั้นก็คิดการสัมภาษณ์งานนั้นเองแล้วไม่ว่าคุณจะสัมภาษณ์งานมากี่ครั้งแล้วในชีวิตที่ผ่านมาก แต่ก็ยังคงมีเรื่องแปลกใหม่จากคำถามของเหล่าผู้ที่เดินเข้ามาตั้งคำถามเหล่านั้น พวกเขาจะยังคงทำให้เราได้ประหลาดใจอยู่เสมอด้วยคำถามที่เรียบง่ายและการพูดที่นุ่มนวลแต่กลับยากมากและสร้างสิ่งที่เราจะต้องขบคิดไปหลายชั้นเลยก็ยังมีซึ่งเพื่อนเพื่อนของเราหลายคนก็คงอดใจที่จะบอกเล่าถึงเรื่องราวเหล่านี้แก่คนอื่น ๆ ได้ไม่นานนักหรอกนั้นถึงเป็นที่มาของเรื่องราวที่เรากำลังจะเล่าให้คุณได้ฟังกันนั้นเอง ซึ่งชาวสัพเพเหระนั้นทราบอยู่เต็มที่อยู่แล้วว่าเวลาเป็นผู้ที่ต้องค่อยนั่งตอบคำถามต่าง ๆ นั้นมันช่างตื่นเต้นและทำให้เรางงได้เสมอทั้งที่คำถามเหล่านั้นบางครั้งแทบจะเป็นเรื่องที่เราถนัดมากมากแต่ก็หลงลืมไปได้เมื่อต้องเข้าไปอยู่ในห้องสัมภาษณ์และยิ่งเจอกับคำถามที่แปลกๆแล้วละก็มันก็ยิ่งทำให้เรางงขึ้นไปอีกขั้นแต่เพื่อนเพื่อนของเราก็ยังรับมือได้และอยากจะแบ่งปันเรื่องราวเหล่านี้ไว้ให้บนโลกออนไลน์ มาชมกันเลยดีกว่านะ เรื่องแรก เราเริ่มสัมภาษณ์กันเลยเหรอ ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นวันที่ดีของเราเมื่อต้องเดินทางไปที่บริษัทแห่งหนึ่งเพื่อรับการสัมภาษณ์ทุกอย่างวันนั้นเริ่มต้นได้ดีมากมากเราไปถึงก่อนเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงซึ่งเมื่อเราเข้าไปแจ้งที่พนักงานต้อนรับก็ได้รับคำตอบอย่างเป็นมิตรจนกระทั้งเราไปนั่งค่อยที่ห้องเล็ก ๆ แล้วสิ่งนี้ก็เริ่มขึ้นเมื่อพนักงานยกกาแฟมาให้เราระหว่างนั้นพนักงานก็เริ่มพูดกับเราว่า พนักงาน : ทำไมคุณถึงสนใจบริษัทของเราละ เรา : ฟังแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรและตอบว่ากลับไปว่า “เพราะเราอยากทำงานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย และเรามั่นใจว่า บริษัทนี้ตอบโจทย์ของเรา” พนักงาน : นั้นหมายความว่าคุณได้เลือกเราแล้ว เรา : นั้นก็ไม่เชิงนะเพราะการที่ใครสักคนจะได้เข้าไปอยู่และทำสิ่งต่างๆ ร่วมกับเพื่อนใหม่ๆ ได้เราคงต้องได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันก่อนซึ่งผมอยากจะเรียกว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เราทั้งสองฝ่ายได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันมากกว่าการที่เป็นคนเลือกหรือถูกเลือกนะ (หลังจากนั้นเราก็คุยกันอีกเล็กน้อย) แล้วเธอก็เดินออกไปหลังจากนั้นพนักงานต้อนรับก็เข้ามาและบอกให้เราเตรียมเอกสารการเข้าทำงานและบอกรายละเอียดที่จำเป็น สรุปแล้วการสัมภาษณ์เริ่มขึ้นและจบลงไปแล้ว เพราะงั้นจงเตรียมพร้อมที่จะตอบคำถามอย่างเป็นมิตรไว้เสมอ เรื่องที่สอง เตรียมพร้อมเสมอ ก่อนที่จะย้ายมาทำงานที่ใหม่เรายังจำครั้งแรกที่ไปสัมภาษณ์งานได้ดีเพราะตอนนั้นทางบริษัทส่งคำถามมาให้เราทางอีเมล์จำนวน 10 ข้อเป็นคำถามง่าย ๆ ที่ถามถึงสิ่งที่ชอบและให้อธิบายถึงตัวเองสั้น ๆ ซึ่งหนึ่งในคำตอบของเราก็คือ “เข้ากับคนง่ายและใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ” พอถึงวันที่ต้องไปสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง มีคนหนึ่งหัวเราะขึ้นมา และถามฉันว่า พนักงาน A…