6 ภาพกับคำแนะนำด้านแฟชั่นที่ปรับแค่นิดหน่อยก็ลุคกู๊ดแล้ว

เราได้เคยเอาบทความด้านแฟชั่นหลายหลายอย่างมาให้เพื่อนเพื่อนได้อ่านกันซึ่งเพื่อนเพื่อนของเราก็ยังคงสนุกที่จะได้เห็นแนวทางการแต่งตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างมากมากหรือเพียงแค่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยก็ทำให้ทุกอย่างมันดูสวยหรือดูดีขึ้นมาเลยซึ่ง นั้นเองคือสิ่งที่พวกเราชาวสัพเพเหระอยากจะบอกกับเพื่อนเพื่อนของเราว่าอันที่จริงแล้วแฟชั่นนั้นเป็นอะไรที่เข้าถึงได้ง่ายและใครๆก็สามารถที่จะทำให้ตัวเองดูดีขึ้นได้ด้วยสิ่งของต่าง ๆ ที่เรามีอยู่แล้วเพียงแค่เรานั้นต้องศึกษาและรู้ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องสักหน่อยเราก็จะแต่งตัวออกมาได้ดีแล้ว และขอบอกเลยนะว่ามันไม่ได้มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่สนใจเรื่องนี้เพราะ อันที่จริงการที่เราดูดีนั้นเป็นสิ่งที่ใครใครก็อยากที่จะเป็นและคนที่ดูดีนั้นใครใครก็อยากมองอย่างไรก็ตาม บางครั้งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพียงอย่างเดียวก็สามารถปรับปรุงรูปลักษณ์ของคุณ และทำให้ดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้นได้ ตามที่เพื่อนของเรา Irina Ponyakina นักสไตลิสต์ที่ได้ออกมาเขียนเรื่องราวและคำแนะนำง่ายที่ใครๆก็สามารถจะทำได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพลังของเครื่องประดับหรือการปรับเปลี่ยนแต่งเติมบางสิ่งเข้าไปนั้นสามารถเปลี่ยนอะไรได้มากขนาดไหน วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระได้ลองเอาบทความของคุณ Irina ที่ได้พยายามนำสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เธอได้พบว่ามันเป็นสิ่งที่หลายหลายคนทำซึ่งมันก็ไม่มีผิดหรือถูกหรอกในเรื่องของแฟชั่นการแต่งตัวนั้นแต่ว่าเราอยากจะมาบอกเคล็ดลับของการผสมผสานสิ่งต่าง ๆ เพิ่มเข้าไปเพื่อที่ว่าชุดที่คุณมีอยู่นั้นก็จะดูเปลี่ยนแปลงไปอยากมากมากเลย สิ่งแรกที่เราอยากจะบอกนั้นก็คือการแบ่งสัดส่วนของชุดนั้นสามารถทำให้คุณดูสูงหรือดูแตกต่างกันได้ © stylist / zen.yandex ไม่ว่าคุณจะเลือกชุดแบบไหนก็ตามเราอยากจะบอกว่าคุณต้องลองทำให้เสื้อหรือกระโปร่งของคุณอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมนั้นก็คือต้องให้ร่างกายส่วนล่างนั้นดูสูงหรือยาวกว่าซึ่งการทำแบบนั้นจะทำให้คุณคล่องแคล่วและคล่องตัวขึ้นแทนที่จะสร้างรูปลักษณ์ที่เป็นหนึ่งเดียว อย่างในรูปทางด้านซ้ายของเราด้วยเสื้อคอเต่าที่ปล่อยชายเสื้อยาวคลุม กระโปรงทรงดินสอ และรองเท้าบูทหุ้มข้อ สร้างเส้นแบ่งสัดส่วน ยิ่งไปกว่านั้นความยาวของเสื้อคอเต่าทำให้ขาดูสั้นลง ไปอีกซึ่งทำให้สัดส่วนจริงของคุณถูกมองข้ามไป.คราวนี้มาลองดูภาพทางขวากันเลยด้วยการเปลี่ยนกระโปรงให้ยาวขึ้นและเพิ่มเข็มขัดที่เป็นจุดสังเกตุหรือเส้นแบ่งเข้าไปอีกสักหน่อย ก็ทำให้นางแบบของเราดูสูงโปร่งขึ้นเลยนะ เสื้อผ้าที่พอดีตัวเกินไปจะทำให้คุณดูตัวใหญ่และอึดอัดกว่าที่เป็น ©stylist / zen.yandex ยังคงอยู่กันที่เสื้อคอเต่าของเราอยู่และครั้งนี้เราลองเปลี่ยนมาสวมกางเกงยีนส์ทรงที่เป็นที่นิยมและหลายหลายคนมีติดตู้อย่างแน่นอนซึ่งหากไม่มีภาพให้ดูเทียบกันแล้วละก็เราก็น่าจะเห็นว่าเพื่อนเพื่อนของเราหลายหลายคนก็มีการแต่งตัวสไตล์นี้กันอยู่ซึ่งอย่างที่เราบอกมันก็ดูดีในแบบของมันแต่เราสามารถเพิ่มบางสิ่งบางอย่างเข้าไปเพื่อทำให้มันดูดียิ่งขึ้นว่านี้ได้ อย่างแรกเลยคือชุดนี้เป็นชุดยาวทั้งเสื้อและกางเกงอยู่แล้วดังนั้นการเลือกสวมรองเท้าที่หุ้มข้อเท้าหรือรองเท่าที่มีทรงสูงขึ้นมาอีกจะยิ่งทำให้ดูขาสั้นเพราะมันดูติดกันไปหมดนั้นเอง สิ่งที่ควรทำอย่างแรกแลยคือลองเลือกรองเท้าส้นสูงที่เผยให้เห็นบริเวณหน้าเท้าจะทำให้ดูเรียวขึ้นมากมาก และด้วยเสื้อที่พอดีตัวและกางเกงที่พอดีตัวมันกลับทำให้ดูอึดอัดดังนั้นเราสามารถลองเปลี่ยนเสื้อที่ดูหลวมหรือ อาจจะเพิ่มเสื้อคลุมที่ดูสบายๆเข้าไปอีกหนึ่งตัวก็จะทำให้คุณดูดีขึ้นได้แล้ว อยากที่เราบอกไปตั้งแต่ตอนต้นว่าการแบ่งส่วนของเสื้อและกระโปร่งหรือกางเกงนั้นเป็นผลมากมากต่อความรู้สึกที่ได้เห็น © stylist / zen.yandex และเพื่อแสดงให้เพื่อนเพื่อนได้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดชัดกันไปเลยเราก็เลยลองเอา ชุดเดียวกันนี้แหละที่จะปรับแก้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างความยาวของเสื้อโดยให้เพื่อนเพื่อนลองชมภาพทางซ้ายดูก่อนว่าเราปล่อยชายเสื้อให้ยาวออกมาทำให้สัดส่วนของช่วงบนและช่วงล่างนั้นยาวพอพอกัน ซึ่งมันก็ธรรมดามากมากและเราก็เห็นหลายหลายคนทำกันแบบนี้แหละ ที่นี้ลองปรับง่ายๆเลยนะแค่เอาชายเสื้อของคุณเก็บเข้าไปในกระโปร่งเพื่อทำให้สัดส่วนของเสื้อนั้นดูน้อยกว่าความยาวของกระโปร่งและ พับแขนเสื้อที่ดูเทอะทะขึ้นไปสักหน่อยคราวนี้เพื่อนเพื่อนก็เห็นแล้วใช่ไหมละว่ามันดูดีขึ้นมากขนาดไหน แล้วทีนี้ครั้งหน้าที่เพื่อนเพื่อนขยับลุกขึ้นมาแต่งตัวก็ลองปรับความยาวของเสื้อให้ดูเหมาะสมสักหน่อยก่อนที่จะเดินออกจากห้องก็ทำให้คุณดูเปลี่ยนไปได้แล้วนะ…

Read More

12 ภาพสิ่งของที่ดีต่อใจและถูกดูแลไว้อย่างดี

เพื่อนเพื่อนพอจะบอกได้ไหมว่าอะไรบ้างที่คุณรู้สึกว่าเป็นสิ่งมีค่าที่ยากจะหาสิ่งอื่นเข้ามาทดแทนได้ หลายคนตอบแบบรวดเร็วว่าเป็นรถยนต์คันใหม่หรือโทรศัพท์รุ่นล่าสุดสักเครื่องซึ่งนั้นก็มีค่าในแบบที่มันเป็นจริงๆนั้นแหละแต่ถ้าหากเราบอกเพื่อนเพื่อนว่าคุณทุกคนล้วนมีสิ่งที่มีค่าแบบที่ตีราคาเป็นตัวเงินไม่ได้เลยคุณจะตอบว่าอะไรเพื่อนของเราบางคนยังคงยืนยันว่าของแบบนั้นมันไม่มีอยู่ในตัวหรืออยู่ที่ไหนของเค้าหรอกงั้นเราขอบอกให้เพื่อนเพื่อนลองนึกย้อนกลับไปอาจจะเป็นช่วงวัยเด็กสักหน่อยหรือบางคนก็อาจจะไปแค่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาละใช่แล้วพวกเราชาวสัพเพเหระกำลังกล่าวถึงความทรงจำในสิ่งของหรือเรื่องราวอันมีค่าที่เพื่อนเพื่อนได้มีมันหรือได้อยู่กับมันหรือมันอาจจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เพื่อนเพื่อนได้อยู่กับคนที่เรารักหรือรักเรามากมากก็ได้อย่างเช่น ภาพของบันไดเก่าๆที่หลายคนอาจจะแค่เดินผ่านแต่กับบ้างคนมันเป็นสถานที่ที่เค้าเคยนั่งเล่นกับคนที่เป็นห่วงเค้ามากที่สุด นั้นแหละคือสิ่งที่เราพยายามจะบอกว่าไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งงานของแม่หรือเกมบอยเก่าของพ่อ สิ่งเหล่านี้มันอาจจะตีราคาไม่สูงนักแต่กับความทรงจำที่อยู่ในของรักของเก่าเหล่านั้นต่างหากที่ทำให้คุณเท่านั้นที่มองเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้ถึงแม้ว่าเวลานั้นอาจมีพลังทำให้บางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปแต่เวลานั้นกับยิ่งทำให้ความทรงจำและความรักมีพลังที่จะคงอยู่กับเราแบบนานแสนนานแม้จะผ่านไปอีกหลายทศวรรษก็ตาม ซึ่งพวกเราเชื่อว่าไม่อะไรที่จะไม่มีคุณค่าหรือไม่มีความหมายเพียงแต่ว่าเรายังไม่ทราบถึงคุณค่าและความหมายในตัวมันต่างหากและถ้าหากเราได้รู้แล้วละก็เราก็คงจะมองสิ่งเหล่านั้นด้วยมุมมองอีกแบบหนึ่งอย่างแน่นอน 1. “1991 ถึง 2021 กลับมาที่บ้านที่ฉันโตมา” © StatandMelo / Reddit สิ่งนี้มันดูแทบไม่ออกเลยในตอนแรกที่เราพบมันซึ่งหลายหลายคนก็บอกให้เราโยนมันกลับไปไว้ที่เดิมแต่หลังจากที่เรานำมันมาขัดและทำความสะอาดมันก็กลับมาดูดีขนาดนี้ได้แล้ว © VeryCasualPCGamer / Reddit ชุดแต่งงานของเราที่เพื่อนหลายหลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นแบบที่ไม่ทันสมัยสักเท่าไหร่นักแต่เรากลับไม่เคยคิดแบบนั้นเลยเพราะตั้งแต่ตอนเราสามขวบและได้เห็นชุดนี้ครั้งแรกพร้อมกับเรื่องเล่าความรักของพ่อและแม่เราก็ฝันมาตลอดที่จะใช้ชุดนี้ในวันแต่งงานของเรา และตอนนี้มันก็เป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้มาเห็นเราแต่เราก็รับรู้ได้ว่าท่านยังโอบกอดเราผ่านชุดแต่งงานชุดนี้ของท่านนั้นเอง © PammyFromShirtTales / Reddit ครั้งแรกที่เราเห็นมันวางอยู่ในตู้เก็บของเราคิดว่ามันคือไมโครเวฟเพราะเรากำลังมองมันจากด้านหลังและพอหยิบมันออกมาจากตู้ก็พบว่ามันคือทีวีพร้อมเครื่องเล่นวีดีโอเทปซึ่งถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีเพราะมันเป็นของชิ้นแรกที่พ่อของเราเก็บเงินเพื่อให้ได้สิ่งนี้มานั่งดูในห้องของเค้า มันเหมือนเป็นความภูมิใจที่ได้มีอะไรจากน้ำพักน้ำแรงของเค้านั้นเอง © Cult7Choir / Reddit สำหรับใครหลายหลายคนสิ่งของที่มีราคาอาจจะเป็นสิ่งที่พวกเค้าห่วงแหนแต่สำหรับเรามันคือเจ้าแมวตัวนี้แหละถึงแม้จะอยู่กันมาแค่เดือนกว่าๆแต่มันก็เอาความรักทั้งหมดของเราไปครอบครองแล้ว © casslomb / Reddit โต๊ะทำงานภายในบ้านของพ่อเราไม่ได้มีที่วางคอมพิวเตอร์แต่กลับมาเจ้าเครื่องรับสิ่งสัญญาณวิทยุเครื่องนี้ตั้งอยู่ สำหรับเรามันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นแต่พ่อเล่าว่าเจ้าสิ่งนี้มันคือทุกอย่างตั้งแต่อุปกรณ์ในการรับส่งข่าวสาร หรือใช้ในการแจ้งข้อความเมื่อต้องการความช่วยเหลือ และมันยังเป็นสิ่งที่ใช้ติดต่อกับเพื่อนเพื่อนของพ่ออีกด้วยคิดไม่ถึงเลยว่าแต่การส่งเสียงไปมาแค่นั้นจะทำอะไรได้มากขนาดนี้ © Corwin1978 / Reddit แว่นส่องทางไกลคงเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ใส่งานแต่เราจะเก็บมันไว้อย่างดีที่สุดเพราะนี้คือสิ่งที่คุณย่าของเรามอบให้และเราก็นึกถึงวันดีดีที่ท่านได้พาออกไปเที่ยวเล่นและได้มองภาพของสิ่งต่างๆเหล่านั้นผ่านเจ้าแว่นส่องทางไกลอันนี้ © gliebette / Reddit มันอาจจะดูไม่ค่อยพอดีตัวสักเท่าไหร่แต่เสื้อโค้ทตัวนี้มันคือตัวที่เราชอบมากที่สุดเพราะแม่ของเราทำมันขึ้นมาให้เราตั้งแต่ปี 1973 และตอนนี้หลานสาววัย 22 ปีของเธอกำลังสวมมันอยู่และเราคิดว่ามันเป็นเหมือนการส่งต่อความรักจากรุ่นสู่รุ่นของเราเลย…

Read More

4 เรื่องบอกว่าเราไม่ควรเอาอะไรเข้าไปอ่านขณะเข้าห้องน้ำ

วันนี้พวกเราเพลินเพลินจะมาหยิบยกเรื่องใกล้ตัวมากมากของพวกเรามาให้เพื่อนเพื่อนฟังกันสักหน่อยกับเรื่องของการใช้ห้องน้ำนั้นเอง เพื่อนเพื่อนทราบกันไหมว่าจากการเก็บข้อมูลจากที่ต่างๆ มาแล้วทำการศึกษาทำให้พวกเราพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วเราใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำเพื่อไปทำธุระส่วนตัวนั้นนานมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ซึ่งเมื่อลองเอามาคำนวนเล่นๆกันก็คือต่อวันประมาณสามสิบนาทีนั้นเอง ซึ่งนั้นเกินกว่าที่เราเคยได้รับแนะนำจากหลายหลายที่ว่าให้เราใช้ห้องน้ำเพื่อทำธุระแบบถ่ายหนักนั้นอยู่ที่ราวๆ 10-15 นาทีต่อครั้งเท่านั้นหรือถ้าหากคิดในสัดส่วนต่อรอบสัปดาห์ก็คือประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาทีต่อสัปดาห์เท่านั้นซึ่งที่เราพบว่าหลายหลายคนนั้นมาใช้เวลาในห้องน้ำแบบยาวนานนั้นก็เพราะว่าคุณไม่ได้เข้าไปทำธุระเพียงอย่างเดียวแต่กลายเป็นว่าคุณได้หยิบเอาบางสิ่งบางอย่างเข้าไปด้วยนั้นเอง และหากคุณสงสัยว่าสิ่งนั้นคืออะไรเราก็บอกเลยว่ามันก็คือเจ้าโทรศัพท์มือถือที่เรามีติดตัวกันอยู่ตลอดเวลานั้นแหละคือคำตอบที่ทุกๆคนพกไปด้วย และไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจำนวนมากยอมรับด้วยรอยยิ้มว่าได้ใช้เจ้าโทรศัพท์ขณะอยู่ในห้องน้ำในระหว่างที่กำลังทพธุระอยู่ตลอดนั้นเอง ซึ่งพวกเราเพลินเพลินก็มิอาจบอกได้ว่าสิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่ควรหรือไม่ควรเพราะเราก็ยังทำเช่นเดียวกันในบางครั้ง แต่พวกเราอยากจะบอกเพื่อนเพื่อนว่าการที่คุณพกอะไรเข้าไปอ่านระหว่างทำธุระหนักของคุณนั้นอาจมีสิ่งที่ไม่คาดคิดกำลังเกิดขึ้นนอกจากการที่คุณเข้าห้องน้ำเกินเวลา 15 นาทีแล้วด้วย ข้อแรกเลยซึ่งหลายหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงมาก่อนนั้นก็คือเจ้าสิ่งที่เราเอาเข้าไปด้วยอย่างโทรศัพท์ของเรานั้นจะเป็นสนามเด็กเล่นของเหล่าสิ่งไม่พึงประสงค์ที่เรามองไม่เห็นนั้นเอง เพราะว่าเราต้องสัมผัสประตูและฝาชักโครกรวมไปถึงสิ่งต่างๆในห้องน้ำบางในระหว่างการเข้าไปใช้งานดังนั้นเมื่อคุณหยิบจับเจ้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอ่านหรือทำอะไรระหว่างนั่งในนั้นละก็มันก็จะสามารถถ่ายโอน สิ่งที่เรามองไม่เห็นจากมือของเราไปสู่บริเวณเครื่องโทรศัพท์ด้วยนั้นเอง หรือบางครั้งเมื่อคุณวางมันไว้ตามที่ต่างๆในห้องน้ำเพื่อล้างมือมันก็จะซึมซับเอาสิ่งที่เรามองไม่เห็นเข้ามาแล้ว ซึ่งคงไม่มีใครหรอกนะที่จะเอาเจ้าโทรศัพท์ลงไปล้างน้ำดังเช่นการล้างมือหรือเอาออกมาเช็ดทำความสะอาดหลังจากเข้าห้องน้ำดังนั้นสิ่งที่ติดอยู่มันก็จะกลับมาติดที่มือของเราต่อนั้นเอง ดังนั้นครั้งหน้าหากคุณพกบางสิ่งเข้าไปด้วยละก็ทางที่ดีตอนที่ออกมาถ้าสามารถเช็ดทำความสะอาดเจ้าสิ่งนั้นด้วยก็จะดีมากแต่อันที่จริงไม่ต้องเอาอะไรเข้าไปหรือไม่ต้องหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเลยจะดีกว่านะ การทำงานของระบบขับถ่ายถูกทำให้ไม่สมดุลย์ อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าระยะเวลาที่เหมาะสมในการขับถ่ายหนักนั้นควรจะอยู่ในช่วงหนึ่งนาทีและไม่เกินสิบห้านาทีจึงถือว่าการนั่งชักโครกครั้งนั้นเป็นเรื่องปกติ แล้วถ้าเราใช้เวลาในการนั่งที่นานกว่านั้นละมันจะเป็นอย่างไรเพื่อนเพื่อนหลายอาจจะคิดว่าไม่มีอะไรแต่อันที่จริงแล้วการใช้เวลานานกว่านั้นจะทำให้เกิดแรงกดดันต่อระบบขับถ่ายโดยไม่จำเป็น ซึ่งเมื่อคุณทำแบบนี้บ่อยๆจนกลายเป็นว่าใช้เวลานานแบบไม่คิดอะไรเลยแล้วละก็มันก็จะนำมาซึ่งปัญหาของระบบขับถ่ายอื่นๆอีกเยอะเลยละเพื่อนเพื่อน เพราะคุณมีเวลาอีกมากดังนั้นทำที่ละอย่างก็ได้ เพื่อนของเราบางคนบอกว่าการเข้าห้องน้ำนั้นช่างเป็นช่วงเวลาที่หายไปเฉยๆดังนั้นเพื่อนของเราจึงหยิบเอาหนังคือหรือเอกสารที่ต้องอ่านเข้าไปนั่งอ่านระหว่างที่ต้องเข้าไปทำธุระในห้องน้ำด้วยซะเลย แต่อันที่จริงแล้วการทำแบบนั้นกลับได้ผลตรงข้ามกันด้วยซ้ำเพราะนอกจากว่าคุณต้องมาค่อยพะวงกับการทำความเข้าใจเรื่องที่อ่านแล้วยังต้องมาค่อยคิดถึงเรื่องธุระในห้องน้ำอีกนั้นเองกลับจะทำให้คุณแทบจะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยด้วยซ้ำไปดังนั้นครั้งหน้าหากคุณกำลังต้องรีบอ่านหรือทำอะไรก็แล้วแต่แล้วดันต้องการเข้าห้องน้ำแล้วละก็ควรทำธุระให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงค่อยออกมาอ่านหรือทำธุระอื่นต่อไป การเข้าห้องน้ำทำธุระเพียงอย่างเดียวถือเป็นการฝึกฝนความอดทน เรามีข้อมูลที่บอกว่าอันที่จริงแล้วพวกเรากำลังถูกสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยีที่ใช้นำเสนอเรื่องราวต่างๆนั้นทำให้รู้สึกว่าเราต้องการข้อมูลหรือต้องการความเพลิดเพลินอื่นๆอยู่ตลอดเวลายิ่งในตอนที่เรารู้สึกว่าว่าง ซี่งอันที่จริงแล้วมันเป็นเพราะว่าสมาธิที่เราใช้ในการจดจ่อกับสิ่งที่เราทำตรงหน้านั้นลดลงหรือเรียกได้ว่าพวกเรานั้นถูกดึงดูดด้วยสิ่งอื่นๆได้ง่ายขึ้นนั้นเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวจากเพื่อนเพื่อนของเราผ่านระบบโซเชียลต่างๆ หรือเป็นข้อมูลที่สิ่งต่อกันทางอีเมล์ก็ตามนี้ยังไม่รวมไปถึงความสนุกจากการรับชมวีดีโอต่างๆ ที่เหล่าครีเอเตอร์ได้ทำออกมาเป็นคอนเทนต์ตามเรื่องต่างๆที่เราสนใจที่มีอย่างมากมายในทุกวันนี้นั้นเองดังนั้นการที่คุณสามารถเข้าไปนั่งทำธุระในห้องน้ำสักห้าถึงสิบนาทีได้โดยที่ไม่มีการนำหนังสือหรือโทรศัพท์เข้าไปเล่นก็ช่วยทำให้คุณได้ฝึกฝนการอดทนรอไปในตัวด้วยนะ ดังนั้นพวกเราชาวสัพเพเหระก็อยากจะบอกเพื่อนเพื่อนของเราว่า พวกเราเองนั้นก็ต้องรู้จักใช้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์กับเรามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการพักผ่อนด้วยการดูสื่อบันเทิงเหล่านี้ก็ยังสามารถทำได้แต่ก็ควรจะมีเวลาที่แน่นอนและแบ่งเวลาเพื่อไปทำอย่างอื่นที่เสริมความรู้ของเราในแต่ละวันด้วยนั้นจึงจะเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ที่เราจะหาได้จากสิ่งเหล่านี้อย่างแท้จริงนั้นเอง ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน

Read More

8 ภาพคนดังที่อายุกว่า 80 แล้วยังคงสดใสอยู่เสมอ

วันปีใหม่ผ่านไปแล้วตอนนี้ก็ต้องบอกว่าพวกเราเข้าสู่ช่วงปีของการทำงานกันอย่างพร้อมเพรียงกันเพราะว่าเรื่องของเวลานั้นไม่เคยที่จะหยุดอยู่นิ่งแต่มันยังคงก้าวเดินไปต่ออย่างไม่รอช้าและไม่เคยรอใครเลยอีกด้วยพวกเราชาวสัเพเหระทุกคนต่างรู้ดีว่าเวลามีเท่ากันแต่ว่าแต่ละคนจะใช้ไปอย่างไรก็แล้วแต่การเลือกตัดสินใจของคนเหล่านั้นแต่สิ่งที่ทำให้เรายังคงระลึกถึงเวลาที่ผ่านไปได้นั้นมันก็คือการทิ้งร่องรอยของเรื่องราวไว้ในสิ่งของและความทรงจำของเรานั้นเอง และวันนี้เรามีมีภาพของเหล่าคนดังที่กำลังจะเอามาแสดงให้เพื่อนเพื่อนได้เห็นว่า ถึงแม้จะผ่านเวลากันมานานแล้วเค้าเหล่านี้ก็ยังมีรอยยิ้มที่สามารถได้ใช้ชีวิตอย่างสวยงามในแบบที่ตัวเองเลือกนั้นเอง อย่างเช่น Betty White ยังคงเล่นตลกหลังจากอายุได้ 99 ปี ซึ่งความชื่นชมที่มีต่อเธอนั้นไม่มีขีดจำกัด และ Jane Fonda ยังเป็นสาวสวยที่น่าทึ่งเมื่ออายุ 83 ปี และผลงานทั้งหมดของเธอก็ประสบความสำเร็จ พวกเราชาวสัพเพเหระได้รวบรวม 15 ภาพคนดังที่ถึงแม้จะมีอายุมากกว่า 80 ปีแล้วแต่ก็ยังคงสนุกกับการได้ทำในสิ่งที่ตนเองเลือกและสิ่งที่ตนเองรักนั้นเอง ซึ่งมันสอนให้เรารู้ว่าความสนุกและรอยยิ้มในความรักในสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้นมันไม่ได้ถูกทำให้หายไปตามกาลเวลาแต่ยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่และความสุขยิ่งๆขึ้นไปอีกทุกครั้งที่เราได้ทำลงไป คนแรกต้องบอกเลยว่าสวยงามไม่แพ้ใครนั้นคือ Betty White ตอนอายุ 99 ปี © ASSOCIATED PRESS ที่ต้องขอเริ่มจากเธอคนนี้ก็เพราะว่าเราคิดว่าเธอนี้แหละคือตำนานที่แท้จริงเพราะ Betty White นั้นถึงแม้ว่าตอนที่เธอเกือบจะเก้าสิบแล้วก็ยังคงมีผลงานที่สร้างชื่อให้อีกด้วยย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นกันสักหน่อยว่าเธอเริ่มเข้าวงการเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับเหล่าผู้ชมทางบ้านทางทีวีอีกทั้งเธอยังทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอีกด้วยซึ่งผลงานที่เธอสร้างสรรค์ไว้ก็มีตั้งแต่ละครไปถึงรูปแบบเกมส์โชว์และวาไรตี้ต่างๆอีกด้วย ความลับของเธอคือ มองโลกในแง่ดีเช่นเคย ถึงแม้ว่าเธอจะจากเราไปแล้วแต่รอยยิ้มของเธอก็ทำให้เรายิ้มตามได้เสมอ Jane Fonda อายุ 83 ปี © Marten Pictures ไม่พูดถึงเธอคนนี้คงไม่ได้ เพราะ Jane Fonda  ถือเป็นหนึ่งในหลายหลายคนที่ทำให้วงการบันเทิงมีความหลากหลายอย่างทุกวันนี้ เราย้อนกลับไปมองความสำเร็จของเธอในปี พ. ศ. 2505…

Read More

13 ภาพคู่หวานการสลับชุดและเรื่องราวน่ารักในชุดที่ใส่

ปีใหม่ที่ขยับเข้าไปได้สองวันแล้วตอนนี้หลายหลายคนก็อาจจะกำลังสนุกกับการพักผ่อนจากการได้หยุดทำงานของปีเก่าๆ ช่วงเวลาสั้นๆที่ได้ชื่นชมบรรยากาศเย็นๆที่ทุกคนต่างก็มีความสุขกับคนข้างๆหรือกำลังนั่งสบายอารมณ์กับครอบครัวในวันที่แสนสบายแบบนี้ พวกเราชาวสัพเพเหระก็อยากจะหาอะไรน่ารักน่ารักมาให้เพื่อนเพื่อนที่กำลังอยู่ในบรรยากาศสบายสบายแบบนี้ได้อ่านกันสนุกสนุก แล้วก็ได้ไปพบกับเรื่องราวน่ารักน่ารักของเพื่อนเพื่อนของเราที่หลายหลายคนออกมาทำสิ่งเดี่ยวกันนั้นก็คือการถ่ายภาพของตนเองและคู่รักของตนในชุดเสื้อผ้าที่พวกเค้าได้สวมใส่อยู่แต่มันจะธรรมดาเกินไปถ้ามันมีเพียงแค่นั้นมันเลยต้องเพิ่มความสนุกและบททดสอบของเหล่าคู่รักเหล่านั้นสักหน่อยด้วยการที่ลองให้อีกฝ่ายสลับชุดของกันและกันนั้นเอง แล้วมาลองชมกันว่าใครกันบ้างนะที่ออกมาลองทำสิ่งเหล่านี้แล้วคู่ไหนกันบ้างที่มีชุดที่โดนใจเพื่อนเพื่อนของเรากันบ้าง ด้วยแนวคิดที่ต้องเรียกว่าเป็นการวัดใจและบอกถึงความกล้าของคู่รักในแนวคิดของการ Switcheroo ที่อยากจะมีชุดภาพเหมือนแต่ไม่เหมือนธรรมดาตรงที่ว่าเธอจะถ่ายภาพในที่เดิมและเป็นภาพคู่ของหนุ่มสาวหรือคู่ชีวิตที่มาเป็นแบบในวันนั้นไว้ก่อนหนึ่งภาพและอีกหนึ่งภาพที่มาเปรียบคู่กันนั้นจะเป็นภาพหลังจากที่ทั้งคู่ได้สลับชุดที่ใส่มาในวันนั้นกันแล้ว พวกเราได้เห็นหลายหลายอย่างผ่านมุมมองของภาพถ่ายเหล่านี้ บางคู่ยังคงยิ้มแย้มอย่างสนุกสนานและบางคู่ก็อาจจะแสดงความเขิลเล็กๆบนใบหน้าของกันและกันแต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นและคิดได้นั้นก็คือ เมื่อเราลองสลับเสื้อผ้าของแต่ละคนให้แก่กันแล้วมันก็มีบางที่จะไม่พอดีบางสิ่งมากไปบางสิ่งน้อยไปแต่ก็ต้องพยายามอยู่ในชุดนั้นๆให้ได้ มาเริ่มกันด้วยชุดคู่ที่ดูสบายๆของคู่แรกกันเลยดีกว่ากับชุดที่พร้อมสำหรับออกไปเผชิญกับอากาศเย็นๆแบบนี้ที่เรียกได้ว่าถึงแม้จะสลับกันใส่แต่ก็ยังดูลงตัวอยู่นะ © Hana Pesut มาต่อกันกับชุดที่สองกันเลยในชุดลำลองที่พร้อมจะออกมานั่งทานอาหารเช้าที่หน้าบ้านในสวนดอกไม้ดูแล้วก็ไปกันได้ทั้งคู่แม่จะสลับกันใส่และรองเท้าอาจจะสูงไปนิดก็ตาม © Hana Pesut ดูแล้วกระโปร่งอาจจะยาวกว่านี้ก็คงไปด้วยกันได้ดีนะ © Hana Pesut ต้องบอกว่าลุคนี้ไม่มีใครน้อยหน้าใครเลยก็ว่าได้ © Hana Pesut หนุ่มเซอร์ของเรานี้ไม่ว่าจะอยู่มาดไหนก็ยังเซอร์ได้นะถึงจะดูไม่มั่นสักเท่าไหร่ © Hana Pesut และความสนุกมันไม่ได้หยุดอยู่ที่คู่ของเรานั้นเป็นแค่แฟนเท่านั้นแต่อาจจะเป็นคู่ต่างวัยแบบนี้ก็ดูเข้ากันได้นะ © Hana Pesut สิ่งที่เราได้จากแนวคิดนี้ไม่ใช่ความสนุกหรือความสุขที่ได้เห็นภาพแบบนี้แต่เรายังได้อีกสิ่งหนึ่งมาด้วยนั้นก็คือเมื่อเราลองคิดดูว่าเสื้อผ้ามันก็เหมือนกับบทบาทหนึ่งที่ต่างฝ่ายต่างก็กำลังแสดงมันอยู่แล้วแน่นอนว่าเราไม่ได้เห็นหรือรู้สึกหรือรับรู้สิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่อยู่ภายในสิ่งเหล่านั้นได้ทั้งหมดหรอกเพราะเราก็แค่เห็นและคิดจากสิ่งที่เราเห็นเท่านั้นแต่การได้ลองไปสวมชุดหรือบทบาทของอีกฝ่ายนั้นก็อาจจะทำให้เราได้เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งคิดหรือทำอยุ่และเราก็จะได้เข้าใจกันมาขึ้นไปอีกด้วยซึ่งนั้นคือสิ่งที่พวกเราชาวสัพเพเหระนั้นได้จากการได้ชมภาพถ่ายชุดนี้นั้นเอง © Hana Pesut, © Hana Pesut, แล้วเพื่อนเพื่อนละลองมองดูสิ่งว่าเมื่อเราสลับกับสวมเสื้อผ้าและบทบาทต่าง ๆแล้วมันก็ไม่ได้พอดีหรือมันอาจจะไม่ได้ดูดีเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายได้สวมหรือได้ทำอยู่นั้นเอง © Hana Pesut นั้นแหละคือความนัยที่เราอยากจะสื่อสารกับเพื่อนเพื่อนของเราที่ได้อ่านบทความนี้กันว่ามันไม่มีอะไรที่เราจะทำให้พอดีกับทุกคนได้หรอกจริงไหมละ และสิ่งที่พอดีกับเรามันก็อาจจะไม่พอดีกับคนข้างข้างเราอีกด้วย © Hana Pesut, แล้วแบบนี้การที่เราจะอยู่ไปด้วยกันมันก็ต้องทำให้สิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับเราทั้งคู่ เราไม่ได้กำลังจะบอกว่าหาเสื้อผ้าที่พอดีกับคนทั้งคู่หรอกนะแต่เรากำลังจะบอกเพื่อนเพื่อนว่าเราก็แค่ยอมเราในความเป็นจริงของอีกฝ่ายและลองคิดในมุมมองของเค้าบ้างแล้วเราก็จะเข้าใจกันมากขึ้นว่าแต่ละคนมีเหตุผลที่ได้เลือกทำหรือเลือกไม่ทำเพราะอะไร ©…

Read More
Back To Top