6 สิ่งที่สามารถยืดเวลาให้เครื่องซักผ้าอยู่กับคุณไปได้อีกนาน

นอกจากการทำงานนอกบ้านแล้วอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเราต้องเผชิญกับมันก็คือเรื่องการดูและทำความสะอาดที่พักและเสื้อผ้าของเรานี้แหละที่เหมือนกับลูปที่ทำแล้วมันแทบจะไม่มีวันจบกันเลย แต่ก็ยังดีที่สมัยนี้นั้นมีเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ถูกคิดและสร้างสรรค์ออกมาอย่างดีให้กลายเป็นเหมือนผู้ช่วยของเราในการดูแลทำความสะอาดบ้านอย่างเจ้าหุ่นยนต์ที่สามารถวิ่งไปรอบๆห้องของเราเพื่อดูดฝุ่นได้เอง อีกทั้งยังมีรุ่นที่สามารถถูบ้านให้เราได้อีกด้วย แล้วเราคิดว่าอีกหน่อยเราอาจจะมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่สามารถเอามาช่วยทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้นไปอีก และสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้เราก็มีแล้วนั้นก็คือเจ้าเครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องซักผ้านั้นเอง สำหรับคนที่ไม่ชอบซักผ้าด้วยมือแบบเราแล้วละก็ต้องขอบอกเลยว่าเครื่องซักผ้านี้มันช่างสุดยอดจริงๆ เพราะเดียวนี้มันสามารถสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างลึกซึ้งเพราะมีรูปแบบการซักสำหรับผ้ามากมายหลากหลายชนิด ทั้งผ้าแบบนุ่นนวลหรือผ้าแบบแข็งๆก็สามารถซักได้หรือจะเลือกระดับอุณหภูมิของน้ำก็ยังสามารถเลือกได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส และเหนือสิ่งอื่นใดอุปสรรค์หนึ่งเดียวของการซักผ้าก็คือสายฝนนั้นก็มิอาจขัดขวางการซักผ้าได้อีกต่อไปเพราะตอนนี้เจ้าเครื่องซักผ้ามีความสามารถที่จะอบผ้าให้แห้งก็มีออกมาให้เห็นกันได้อย่างมากมาย

แต่สิ่งของต่างๆมันก็มิอาจอยู่คงทนถาวรมันต้องเสื่อมสถาพไปตามเวลาและการใช้งาน ซึ่งมันก็ไม่แปลกเลยถ้ามันถึงเวลาที่จะต้องผุพังแล้วต้องจากเราไป แต่เรากลับพบว่าเพื่อนของเราหลายหลายคนนั้นต้องลาจากกับเครื่องซักผ้ากันก่อนเวลาอันควรถึงขนาดที่ว่าบางคนเปลี่ยนมันทุกหนึ่งหรือสองปีก็มี ดังนั้นวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยเราเรื่องราวดีดีของการดูแลรักษาเจ้าเครื่องซักผ้าให้อยู่กับเราไปได้ตามที่สมควรจะอยู่นั้นเอง

มาเริ่มจากสิ่งที่เราต้องใช้เลยนั้นก็คือเจ้าผงซักฟอกนั้นเอง
อย่างแรกเลยนะเพื่อนเพื่อนต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าไม่ว่ามันจะเป็นแบบน้ำหรือแบบไหนก็ตามการที่คุณใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าก่อนที่จะเริ่มซักผ้าแต่ละรอบเป็นปริมาณมากมากนั้นมันไม่ได้ทำให้เสื้อผ้าของคุณสะอาดมากขึ้นตามปริมาณที่ใส่ลงไปหรอกนะ เพราะหน้าที่ของเจ้าผงซักฟอกนั้นมันก็คือตัวลดแรงตึงผิวและตัวชำระล้างคราบสกปรกที่แกะอยู่ตามเนื้อผ้าซึ่งเมื่อผสมเข้ากับน้ำและซึ่มผ่านเสื้อผ้าก็จะทำให้น้ำสามารถซึ่มผ่านผ้าและดึงเอาคราบสกปรกออกไปจากน้ำที่ไหลผ่านไปนั้นเอง และถึงแม้จะใส่จำนวนมากมากมันก็ไม่ได้ช่วยทำให้อะไรมันดีขึ้นในทางที่เราคสรทำเวลาที่เจอกับเสื้อผ้าที่สกปรกมากมากก็คือการซักรอบที่สองหรือรอบที่สามแทนการซักครั้งเดียวแต่ใส่ผงซักฟอกจำนวนมาก เพราะการที่คุณเลือกใช้เกินปริมาณที่เหมาะสมนั้นมันส่งผลต่อเครื่องซักผ้ามากกว่าเพราะปริมาณฟองที่มากเกินไปจะทำให้ท่อต่อและจุดต่าง ๆ เกิดการอุดตันได้ง่ายและเป็นที่มาของการจากไปของเครื่องก่อนเวลาอันควร

สำหรับผ้าบางชนิดคุณต้องใส่ถุงซักผ้า

เรื่องง่าย ๆ ที่หลายคนมองข้ามไปนั้นก็คือการแบ่งผ้าเป็นสัดส่วนและการใช้ถุงซักผ้าในการซักผ้าชิ้นเล็กๆ เพราะสิ่งที่เราเจอก็คือมีเครื่องซักผ้าจำนวนมากที่ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจาก มีผ้าชิ้นเล็กๆเข้าไปอุดตันตามจุดระบายน้ำของเครื่องซักผ้านั้นเอง ดังนั้นการใช้ถุงซักผ้าจึงเป็นตัวช่วยทำให้การซักผ้าของคุณเป็นไปได้ด้วยความสะดวกสบาย

สำหรับเครื่องซักผ้าที่สามารถถอดตัวกรองได้เอง
เพื่อให้แน่ใจว่าการซักผ้าของคุณจะเป็นไปด้วยความราบรื่นสิ่งที่คุณต้องทำก่อนก็คือการคัดแยกผ้า และตรวจสอบตามกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงก่อน เพราะมันอาจจะมีเศษกระดาษและเศษเหรียญเล็กๆน้อยๆค้างอยู่ซึ่งเมื่อเข้าไปซักแล้วจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้และแต่ตัวเครื่องซักผ้านั้นก็มีตัวกรองมาให้เพื่อว่าคุณอาจจะหลงลืมเศษกระดาษชิ้นเล็กเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มันไปอุดตันและมีกลิ่น และเจ้าสิ่งนี้นั้นเองที่คุณจะต้องทำความสะอาดมันด้วยอย่างน้อยๆ ก็เดือนหรือสองเดือนครั้ง เพื่อที่การระบายน้ำจากเครื่องซักผ้าจะสามารถทำได้สะดวกและดีเหมือนใหม่อยู่เสมอ

ทำไมเราไมสามารถใส่ทุกอย่างลงไปพร้อมๆกันได้
เราขอแนะนำเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากมากเลยนั้นก็คือ การแยกประเภทและชนิดของผ้าโดยถ้าเรามีเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าแตกต่างกันเป็นจำนวนมาก เราควรแยกประเภทในการซักด้วยเหตุผลสองอย่าง นั้นก็คือผ้าแต่ละชนิดก็มีวิธีการซักที่แตกต่างกันซึ่งเราสามารถเลือกการซักที่เหมาะสมได้ และอย่างที่สองก็คือปริมาณที่เหมาะสมในการซักผ้าแต่ละอย่างนั้นไม่เท่ากันนั้นเองโดยมาตราฐานแล้ว สำหรับผ้าฝ้ายและผ้าลินินให้ใส่ 3/4 ของเครื่อง สำหรับวัสดุสังเคราะห์ให้โหลด 1/2 ของเครื่อง สำหรับขนสัตว์ให้ใส่ 1/3 ของเครื่อง ครั้งหน้าเพื่อนเพื่อนก็ลองทำตามดูและจะเห็นเลยว่าความสะอาดของเสื้อผ้านั้นต่างจากเดิมอย่างแน่นอน

สิ่งนี้คือสิ่งที่เพื่อนเพื่อนควรจะตรวจสอบตั้งแต่ครั้งแรกและอย่างน้อยเดือนละครั้ง
นั้นก็คือการวางเครื่องซักผ้าให้ได้ระดับนั้นเอง เพราะหลักการของเครื่องซักผ้านั้นก็คือการหมุนถังปั่นด้วยมอเตอร์สลับข้างไปมาทางซ้ายและขวาซึ่งมันจะทำให้เกิดแรงเหวี่ยงและความสั่นไหวนั้นเอง ซึ่งหากมันไม่ได้ระดับของมันแล้วละก็สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ เครื่องมันจะสั่นมากเกินไปก็จะทำให้เกิดความเสียหายของอุปกรณ์ภายในได้นั้นเอง ดังนั้นเราจึงควรสังเกตุการทำงานของเครื่อง หรือหากคุณมีอุปกรณ์ในการวัดระดับก็สามารถลองตรวจสอบสักเดือนละครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและพร้อมจะทำงานได้เสมอ

สำหรับเพื่อนที่มีเครื่องรุ่นเก่าที่ไม่มีระบบอบผ้าแห้งลองทำตามนี้ได้นะ
สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดอย่างหนึ่งของคนซักผ้านั้นก็คือแม้ว่าแดดจะสาดส่องมาแรงขนาดไหนก่อนซัก แต่หลังจากที่เราเริ่มลงมือแล้วเราหลายคนอาจจะต้องพบกับสายฝนในทันที หรือบางครั้งก็อาจจะตลกกว่านั้นก็คือมันดันมีฝนตกตอนที่เราตากผ้าแล้วก็มี ซึ่งทริกง่ายๆ เลยที่เราใช้เวลาที่ฝนตกหลังจากผ้าที่ปั่นเสร็จแล้วนั้นก็คือให้เพื่อนเพื่อนเปิดฝาเครื่องซักผ้าระบายอากาศไว้เท่านั้นเอง เสื้อผ้าที่ซักเอาไว้ก็จะยังมีกลิ่นหอมๆของการซักอยู่แม้จะทิ้งเอาไว้ในเครื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมงนั้นเอง

บางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่เพื่อนเพื่อนทำอยู่แล้วแต่อีกหลายเรื่องก็น่าจะช่วยให้เพื่อนเพื่อนเข้าใจการทำงานของเครื่องซักผ้ามากขึ้นและทำให้มันอยู่กับเพื่อนได้นานขึ้นนะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน

Back To Top