7 สิ่งที่หลายคนทำก่อนออกกำลังกายซึ่งทำไปก็เท่านั้น
ถ้าจะบอกถึงสิ่งจำเป็นตอนนี้หลายคนอาจจะบอกว่าเราต้องมีที่อยู่ที่กินและที่ชารจ์โทรศัพท์กับตัวเลขในบัญชีเยอะๆก็พอ ซึ่งเราฟังแล้วก็เป็นประโยคที่ฟังสนุกจริงและเราก็เห็นด้วยอีกทั้งยังอยากได้ด้วยนะสิ แต่ยังไงเดือนนี้ก็คงไม่ได้เป็นวันของเราก็เพราะเพิ่งผ่านวันที่ 17 ไปเมื่อวานนี้เองและพวกเราชาวสัพเพเหระก็ไม่มีใครที่เข้าใกล้ความฝันคือการได้เป็นเจ้าของรางวัลที่หนึ่งสักคนเลย ก็คงจะต้องก้มหน้าก้มตานั่งทำงานอย่างขยันบางแอบอู้บางกันต่อไปละเนอะ เห้อออแต่จะให้นั่งทำงานอยู่เฉยๆในท่าทางเดิมๆทุกวันบอกกับการทานขนมและอาหารมันก็ทำให้พวกเราหลายหลายคนเริ่มที่จะรู้สึกว่าตัวของเราเองนั้นชักจะล้ำหน้ากันไปมากแล้ว(เพื่อนเราบางคนล้ำขนาดที่ว่ายืนตรงแล้วไม่สามารถมองเห็นปลายเท้าตัวเองแล้วก็มีนะ) ดังนั้นจึงมีสุดยอดไอเดียจากหนึ่งในชาวสัพเพเหระนี้แหละที่ออกมายืนแถวหน้าแล้วกล่าวกับตัวเองและเพื่อนเพื่อนทุกคนว่า “พวกเราจะต้องเปลี่ยนแปลง” โดยเราจะต้องลุกขึ้นมาออกกำลังกายซึ่งมันก็กลายเป็นวาระแห่งกลุ่มสัพเพเหระของเราไปเลยนั้นเอง ซึ่งก็มีเพื่อนของเราจำนวนไม่น้อยที่ไปออกกำลังกายอย่างจริงจังเรียกได้ว่าเค้าและเธอทำให้ยิมหรือสวนลุมกลายเป็นจุดพักอย่างที่สี่ที่ต้องเดินทางไปในแต่ละวันจากเดิมที่มีแค่บ้านและออฟฟิศกับร้านอาหารเท่านั้น แต่พวกเราก็ต้องประหลาดใจกับสิ่งที่ได้นั้นก็คือตัวเลขที่พวกเราอยากจะลดไม่ว่าจะเป็นเอวหรือ ตัวเลขบนตาชั่งมันกลับแทบไม่ได้ลดลงเลย ซึ่งนี้เองที่เป็นที่มาของเรื่องในวันนี้ที่พวกเราได้ไปออกหาข้อมูลว่าเหตุไฉนเลยมันถึงกลายเป็นอย่างนี้ไม่ได้ และเมื่อพวกเราได้รู้ว่าเป็นเพราะสิ่งที่เราทำก่อนออกกำลังกายหลายหลายเรื่องนั้นเองที่ทำให้เราไม่เห็นผลของการลงแรงเข้ายิมหรือที่ออกไปวิ่งตามสวนลุมนั้นเอง และวันนี้เราก็อยากจะเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาบอกเพื่อนเพื่อนให้ได้ฟังกันด้วยนะ อย่างแรกเลยเพื่อนของเราหลายคนงดมื้อเย็นแล้วก็ไปออกกำลังกายอย่างจริงจัง เพราะความคิดว่าถ้าท้องว่างร่างกายก็จะไปเอาอย่างอื่นเช่นไขมันออกมาเพื่อให้ใช้ซึ่งมันไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะสิ่งที่เราพบก็คือเมื่อเริ่มออกกำลังกายหรือเริ่มใช้พลังงานใดๆก็แล้วแต่ร่างกายของเราก็จะเอาพลังงานที่เหลืออยู่มาใช้ก่อนซึ่งมันไม่พออย่างแน่นอนและเป้าหมายต่อไปก็คือกล้ามเนื้อของเราเองนั้นแหละซึ่งกว่าจะไปถึงเจ้าไขมันเค้าว่ากันว่าต้องใช้เวลาเกือบๆหกสิบถึงเก้าสิบนาทีเลยนะ ซึ่งหลักการที่สำคัญที่สุดของการดูแลตัวเองก็คือการเพิ่มกล้ามเนื้อดังนั้นการที่คุณปล่อยให้ท้องว่างกลับกลายเป็นเรื่องตรงข้ามกับที่คุณต้องการ ดังนั้นสิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือเพื่อนๆควรจะทานอาหารสักหน่อยแต่เลี่ยงพวกข้าวหรือแป้งเท่านั้นก็พอ เพื่อให้เราไม่ต้องไปใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อของเรานั้นเอง ไม่ดื่มน้ำก่อนออกกำลังกายเพราะเกรงว่าจะจุก เสียงเพื่อนของเราดังขึ้นมาเลยหลังจากอ่านเรื่องนี้ว่า “แก..ทานน้ำไปแล้วไปวิ่งเดียวก็จุกหรอก” ซึ่งเพื่อนเพื่อนหลายหลายคนก็น่าจะมีเพื่อนหรือใครสักคนบอกต่อต่อกันมาแบบนี้เหมือนกันใช่ไหมละ และบางคนก็อาจจะเคยเจอกับตัวเองมาแล้ว ซึ่งอันที่จริงแล้วเราอยากจะบอกว่าคุณสามารถทานน้ำได้แต่เป็นการทานแบบเล็กๆน้อยๆพอให้ค่าความชุ่มชื้นในร่างกายดีพอและก็ควรจะจิบน้ำบ่อยๆที่จะนิดในเวลาที่ออกกำลังกายด้วยซ้ำไปเพราะตอนที่เรามีเหงื่อนั้นก็เท่ากันเรากำลังเสียน้ำและสิ่งต่าง ๆ ออกไปและนั้นจะทำให้ขาดความสมดุลย์ดังนั้นการค่อยทานน้ำที่ละนิดจะเป็นการช่วยเติมสิ่งที่ขาดและทำให้ร่างกายของเราทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น ขอนอนให้เต็มที่ก่อนออกกำลังกาย © Depositphotos.com บางคนที่ออกกำลังกายภายในบ้านหรือคอนโดก็อาจจะขอพักเหนื่อยหรือหลับสักนิดก่อนที่จะลงมือออกกำลังกาย ซึ่งอันที่จริงก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วละเพราะถ้าหากเราอ่อนล้ามากมากแล้วเราก็แทบจะทำอย่างอื่นไม่ไหวแล้ว แต่การที่คุณนอนนานเกินไปนั้นจะทำให้ผลของการออกกำลังกายแทบไม่เป็นผลเลยอีกทั้งยังอาจจะเจ็บตัวจากอาการสลึมสลือของคุณได้ ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการงีบพักก่อนออกกำลังกายก็คือ 20-30 นาทีและหลังจากตื่นแล้วเราอยากให้คุณลุกขึ้นมานั่งหรือเดินเบาๆก่อนเพื่อให้ตื่นเต็มที่ก่อนที่จะออกกำลังกายอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลที่ดีกว่า การแต่งตัวด้วยชุดที่หนาๆมากเกินไป ตรงๆตัวตามที่เราบอกเลยเพราะเพื่อนของเราคิดว่าการที่ไปออกกำลังกายคือการทำให้เหงื่อออกเยอะๆและสิ่งที่คิดเอาเองก็คือการสวมเสื้อผ้าหนาๆหลายหลายชั้นเพื่อว่าส่วนนี้จะทำให้ร่างกายร้อนขึ้นนั้นเอง แต่อันที่จริงแล้วมันแทบจะไม่ได้ช่วยให้เหงื่อออกเลยตรงกันข้ามซะอีก เพราะว่าการที่คุณสวมชุดหนาๆนั้นกลับทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวกให้การขยับตัวทำได้ไม่เต็มที่อีกและนั้นก็ทำให้คุณเองนั้นแหละที่ออกกำลังกายได้น้อยลงไปอีก และเจ้าเสื้อหนาๆมันยังทำให้การระบายอากาศเวลาที่เหงื่อออกทำได้ไม่ดีอีกต่างหาก ดังนั้นเพื่อนเพื่อนควรแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาหากคุณไม่ได้มีชุดสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ก็ลองเลือกชุดที่เคลื่อนไหวได้สะดวกและระบายอากาศได้ดีก็พอ การยืดกล้ามเนื้อมากมากก่อนออกกำลังกาย อะไรที่มากเกินไปล้วนไม่ถูกต้อง รวมถึงการยืดกล้ามเนื้อเพื่อเตรียมตัวก่อนออกกำลังกายก็เช่นเดียวกัน หลายคนคิดเอาเองว่ายิ่งเราทำสิ่งนี้มากมากเราก็จะออกกำลังกายได้นานขึ้นและดีขึ้นอีกด้วย แต่อันที่จริงแล้วร่างกายของเราแค่ต้องการ การวอรม์แบบเบาเพื่อให้มันรู้ตัวว่ากำลังจะถูกใช้งานก็เพียงพอแล้ว สิ่งที่เพื่อนเพื่อนต้องทำก็คือการเลือกขยับตามท่าพื้นฐานช้าๆแต่ต้องทำไปให้ครบทุกส่วนตั้งแต่ขาขึ้นมาไปจนถึงการขยับต้นคอเพื่อให้ทุกส่วนเตรียมพร้อมที่จะได้รับการออกกำลังกายนั้นเอง และที่ดีกว่านั้นก็คือหลังจากการออกกำลังกายแล้วคุณควรจะต้องยืดกล้ามเนื้อช้าเพื่อเป็นการผ่อนคลายส่วนต่างๆ…