4 เรื่องที่เราควรฝึกตัวเองให้เข้มแข็ง และผ่านทุกปัญหาไปได้
พวกเราคงเคยได้ยินคำกล่าวที่บอกว่าร่างกายที่เข็มแข็งต้องประกอบไปด้วยจิตใจที่เข้มแข็งเช่นเดียวกัน ซึ่งร่างกายของเรานั้นจะแข็งแรงได้ก็จากการที่เราออกกำลังกายและรับสิ่งดีดีอย่างการทานอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการนั้นเอง นอกจากนั้นก็ยังมีวิธีการฝึกฝนร่างกายอื่นๆอีกมากมายซึ่งเพื่อนเพื่อนก็คงจะสามารถมองหาข้อมูลเหล่านั้นได้จากหนังสือและสื่อออนไลน์ทั่วไปนั้นเอง แต่ถ้าจะให้มาพูดถึงเรื่องการฝึกฝนทางด้านจิตใจละเพื่อนเพื่อนพอจะมีความรู้ความเข้าใจกันขนาดไหนบ้างนะ สำหรับพวกเราชาวสัพเพเหระนั้นก่อนหน้านี้ก็รู้จักอยู่บ้าง อย่างการอยู่กับความสงบหรือการทำรู้จักอยู่กับเรื่องราวหรือเหตุการณ์ตรงหน้านั้นโดยไม่ได้คิดกังวลไปถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดหรือไม่มัวแต่ไปคิดฝันถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วนั้นก็คือสิ่งที่พวกเราได้รู้มาก่อนหน้านี้ แต่อันที่จริงแล้วในยุคสมัยที่มีการศึกษาเรื่องราวและส่งต่อความรู้ความเข้าใจให้อย่างแพร่หลายนั้น ก็ทำให้พวกเราได้ทราบถึงหลักการหรือวิธีการใหม่รวมทั้งเหตุและผลจากสิ่งที่ทำและสิ่งที่จะได้เมื่อเราทำสิ่งเหล่านั้นอีกด้วย และเมื่อพวกเราชาวสัพเพเหระได้อ่านแล้วก็อยากที่จะแบ่งปันเรื่องราวดีดีเหล่านี้ให้กับเพื่อนเพื่อนด้วย เผื่อที่ว่าเราจะได้ฝึกฝนและเตรียมตัวรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเราหรือคนรอบตัวเราในอนาคตก็เป็นไปได้มาลองฟังกันเลยดีกว่านะ การฝึกอยู่คนเดียวและทำความเข้าใจกับความเหงา อ่านดูแล้วเพื่อนเพื่อนหลายคนก็อาจจะบอกว่าเรื่องนี้มันง่ายเพราะเราต่างก็ต้องมีช่วงเวลาที่อยู่คนเดียวอยู่แล้วบางคนอาจจะเคยต้องไปอยู่หอตอนเรียนซึ่งก็ต้องอยู่คนเดียวหรือบางคนตอนนี้ก็ทำงานและต้องย้ายไปอยู่คนเดียว แต่เราอยากจะบอกว่าการอยู่คนเดียวแบบนั้นมันยังไม่ใช่การอยู่คนเดียวจริง ๆ หรอกนะเพราะเมื่อคุณออกไปที่โรงเรียนหรือที่ทำงานก็จะได้พบกับคนอื่นๆ หรือเพื่อนฝูงยังไงละ แต่สิ่งที่เราอยากจะบอกในเรื่องการอยู่คนเดียวหรือเวลาเหงานั้นมันคงเกิดได้กับทุกคนในช่วงไหนก็ได้ที่คุณรู้สึกเหมือนไม่สามารถพูดคุยกับใครได้ หรือไม่อาจจะบอกความรู้สึกของคุณต่อคนรอบตัว ทั้งทั้งที่ก็ยังมีคนอื่นๆอยู่ก็ตาม นั้นแหละที่เราจะต้องเตรียมการณ์สำหรับสิ่งนั้นเพราะช่วงเวลานั้นมันจะดึงคุณลงไปสู่จุดที่ไม่ดีเอามากมากเลย และสิ่งที่เราสามารถทำได้ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นก็คือการฝึกเป็นเพื่อนดีที่สุดของตัวเองได้ด้วยการ ปฏิบัติกับตัวเองให้ดีเช่นเมื่อเราทำสิ่งใดสำเร็จ ก็สามารถชมตัวเองได้และให้รางวัลด้วยการทำในสิ่งที่ชอบเคารพการตัดสินใจของตัวเองเมื่อเลือกอะไรแล้วถึงมันจะผิดพลาด หรือไม่ดีก็รู้จักยอมรับสิ่งนั้นแล้วมันให้ดีขึ้น เพียงเท่านี้เพื่อนเพื่อนก็จะสามารถผ่านช่วงเวลาที่รู้สึกว่าไม่มีใครไปได้แบบไม่ยากเลย อย่างที่สองเลยนั้นก็คือรู้จักคุณค่าและความภาคภูมิใจในตัวเอง เพราะไม่มีใครดูถูกเราได้มากกว่าการที่เราดูถูกตัวเอง ดังนั้นในทางการคุณค่าของตัวเราเองนั้นก็มีตัวเราเองนี่แหละที่รู้ดีกว่าคนอื่น ซึ่งการรับฟังความคิดเห็นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องเมื่อเป็นการทำงานร่วมกับคนอื่นแต่เมื่อเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วละก็เราก็อยากให้เพื่อนเพื่อนลองคิดและตัดสินใจทำเรื่องราวเหล่านั้นด้วยตัวเองดูบ้างเพราะนั้นแหละที่เป็นการสร้างความภาคภูมิใจเล็กในสิ่งที่เราทำให้เกิดขึ้น และถึงแม้มันจะพลาดไปบ้างเราก็แค่ยอมรับและป้องกันไม่ให้มันผิดพลาดอีกก็เท่านั้นเอง เพราะไม่มีปัญหาอะไรที่จะยิ่งใหญ่หรืออยู่กับเราไปตลอดกาลหรอกวันหนึ่งมันก็ต้องหายไปเหมือนกันนั้นแหละดังนั้นฝึกคิดตัดสินใจตั้งแต่วันนี้เพื่อที่วันข้างหน้าเราจะได้ทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆนั้นเอง ข้อที่สามก็คือการสร้างทักษะในการแก้ไขปัญหาและเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง การไม่เจอปัญหาคงเป็นเรื่องดีมากมากเลยเพราะทุกอย่างมันจะสำเร็จไปได้อย่างสบายๆ แต่มันก็คงเป็นเรื่องยากแน่ๆที่เราจะไม่เจออุปสรรคหรือปัญหาใดใดเลยดังนั้นสิ่งที่เราควรจะเตรียมฝึกฝนรับมือนั้นก็คือการฝึกรับมือกับปัญหาต่าง ๆ นั้นเองโดยเราสามารถเตรียมตัวด้วยการคิดถึงสถานะการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นและเตรียมขั้นตอนการรับมือเรื่องราวเหล่านั้นเองไว้เพราะถ้าเรามีแผนการณ์อย่างน้อยมันก็ช่วยบรรเทาปัญหาไปได้บ้างและที่สำคัญที่สุดเลยนั้นก็คือเราในตอนที่เกิดปัญหาขึ้นไม่ควรมองหาคนผิดแต่เราควรจะช่วยกันมองหาทางแก้ต่างหากเมื่อเราสามารถเตรียมการเหล่านี้ได้เราก็จะมีความมั่นใจในการทำสิ่งเหล่านั้นมากขึ้นนั้นเอง อย่ากลัวการความผิดหวัง แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เราหลายหลายคนมองไปข้างหน้านั้นก็คือการตั้งเป้าหมายและการตั้งความหวัง แต่อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าถ้าทุกคนสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างที่คิดหวังมันก็คงดีแต่มันเป็นไปไม่ได้ดังนั้นมันก็ต้องมีคนที่ผิดหวังกันบ้างแล้วเราจะเตรียมรับมือกับความผิดหวังยังไงละ นั้นแหละคือสิ่งที่เราจะมาบอกเพื่อนเพื่อนกันซึ่งจากคำแนะนำของเพื่อนที่แสนดีของเรานั้นก็ทำให้เราสรุปออกมาได้ 3 อย่างนั้นก็คือ คุณต้องเปิดใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะยิ่งปฎิเสธสิ่งเหล่านั้นมันก็จะทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดไปอีกดังนั้นลองยอมรับแล้วมองหาทางแก้ทั้งจากสิ่งที่คุณทำได้หรืออาจจะขอความร่วมมือจากเพื่อนเพื่อนรอบตัวคุณก็ได้ ศึกษาเรียนรู้จากสิ่งที่ทำให้เราผิดหวัง เพื่อที่ว่าจะได้ป้องกันและแก้ไขให้มันดีขึ้นได้ เมื่อเราคิดในแง่ไม่ดีให้ลองเขียนออกมาแล้วลองหาทางแก้ไข เพราะการที่เราคิดแบบนั้นโดยที่ไม่มีทางออกเลยมันจะเป็นการบันทอนความมั่นใจของคุณนั้นเอง เรียบเรียงโดย…