นับจากอดีตอันยาวนานสิ่งที่ทำให้พวกเราต้องประหลาดใจนั้นก็คือการบันทึกความรู้และสิ่งต่างๆ ด้วยการเขียนเป็นตัวอักษรและภาพวาดซึ่งจากสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นนั้นเองที่สร้างการเรียนรู้และส่งต่อความคิดและความเข้าใจทำให้ทุกวันนี้พวกเราได้พัฒนาสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาใช้งานได้อย่างที่ถ้าหากนำพาคนจากยุคเก่ามาได้ก็คงต้องบอกว่าเรื่องง่ายอย่างที่เราทำกันทุกวันนี้นั้นแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเกิดข้นได้ ไม่ว่าจะการสื่อสารข้ามน้ำข้ามทะเลที่สามารถทำได้ด้วยการเปิดโทรศัพท์เล็กๆที่อยู่ในมือของเรา หรือการเดินทางออกไปสำรวจดวงดาวอันห่างไกลจากพื้นโลกสูงขึ้นไปบนท้องฟ้านับได้ หลายพันหลายหมื่นกิโลพวกเราก็สามารถทำได้แล้วในทุกวันนี้ แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะบอกนั้นก็คือการเก็บบันทึกภาพของโลกเราจากบนจักรวาลใช่แล้วละตั้งแต่ปี1961 ที่เราสามารถส่งยานออกไปถึงขั้นบรรยากาศนอกโลกได้ สิ่งต่างๆก็ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อทำให้เราสามารถทำหลายหลายสิ่งหลายหลายอย่างโดยมีตัวช่วยเป็นอุปกรณ์ที่ลอยอยู่บนจักรวาลได้ และสิ่งนั้นก็คือกลุ่มดาวเทียมจำนวนมากที่ถูกส่งขึ้นไปเพื่อเก็บบันทึกและใช้ในการสื่อสารส่งต่อข้อมูลอีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่บนจักรวาลอีกด้วย
และสิ่งที่เราเอามาให้เพื่อนเพื่อนได้ลองชมกันในวันนี้ก็คือภาพถ่ายจากดาวเทีียมจาก Google earth ซึ่งเป็นระบบที่ใครต่อใครก็สามารถที่จะเข้าไปชมภาพเหล่านี้ได้ และพวกเราชาวสัพเพเหระก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่ามันช่างเป็นเรื่องที่เราเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าด้วยหลายหลายอย่างพวกเราและธรรมชาติก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ ลองไปชมกันเลยดีกว่านะ
ที่เพื่อนเพื่อนกำลังชมอยู่นี้คือภาพของดูไบที่มีหมู่เกาะใหม่ๆเกิดขึ้น แต่มันไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองหรอกนะเพราะมันเกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของพวกเรานี้แหละซึ่งมันคือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนอยากจะไปสักครั้งนั้นคือ The Palm Islands ซึ่งเป็นพื้นที่ชายหาดใหม่ที่มีมากถึง520 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว
© Google Earth
ซึ่งจากการที่หลายหลายอย่างพัฒนาทำให้เมืองแห่งนี้เติบโตจากเมื่อก่อนมากเพราะจากเดิมนั้น คาดว่ามีประชากรอยู่ราวๆ 500,000 คนแต่ตอนนี้ก็นับได้กว่า3 ล้านคนเข้าไปแล้ว
ทะเลสาบ Natron แทนซาเนีย
© Google Earth
คุณอาจจะคิดว่ากำลังได้เห็นภาพของการเปลี่ยนแปลงจากพื้นดินเป็นพื้นน้ำแต่อันที่จริงคือก่อนหน้านี้มันเป็นทะเลสาปที่มีน้ำสีชมพูจากความเค็ม ที่มองจากบนอากาศแล้วเหมือนเป็นที่ดินต่างหากและเมื่อเวลาผ่านไปทำให้ความเค็มของน้ำลดลงและตอนนี้เมื่อสภาพของน้ำเหมาะสมกับการเติบโตของสาหร่ายก็ทำให้มันกลายเป็นน้ำที่มีสีเหมือนน้ำทั่วไปนั้นเอง
ซานจูเลียนจากผืนป่าอันกว้างใหญ่ก็กลายเป็นไร่ถั่วเหลืองซะงั้น
© Google Earth
เมื่อพื้นที่ป่าที่ไม่มีคนจัดการดูแลกลายเป็นสถานที่ที่ใครต่อใครก็ต้องการ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเรื่องที่จากพื้นที่สีเขียวจะถูกเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ทางการเกษตรแบบนี้
สำหรับพื้นที่โล่งๆซึ่งแทบไม่มีอะไรสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างทะเลทรายหลายแห่งนั้นก็ถูกทำให้เกิดประโยชน์ได้ด้วยการทำสิ่งนี้
© Google Earth
นั้นก็คือการสร้างพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์และสิ่งที่เพื่อนเพื่อนชมกันอยู่นั้นก็คือโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งหนึ่งในทุ่งทะเลทรายอันเวิ้งว้าง
ธารน้ำแข็งที่กำลังหายไป
© Google Earth
อีกหนึ่งสิ่งที่พวกเราจะต้องพบเจออย่างแน่นอนในอนาคตนั้นก็คือเรื่องของปริมาณน้ำที่กำลังเพิ่มขึ้นซึ่งหลายคนที่ไม่ทราบก็คงสงสัยว่าน้ำมันจะเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไรวันนี้พวกเรามีคำตอบมาให้นั้นก็คือเหล่าน้ำแข็งที่เคยแข็งตัวตั้งสูงตระหง่านในขั้วโลกและธารน้ำแข็งในเขตหนาวเย็นที่ก่อนหน้านี้มีอยู่หนาแน่น กำลังละลายกลายเป็นธารน้ำและเผยให้เห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้น้ำแข็งเหล่านั้นนั้นเอง
นอกจากน้ำจะเพิ่มขึ้นแต่ในบางพื้นที่กลับกำลังหายไปอย่างทะเลสาปในทะเลอารัล
© Google Earth
ด้วยการปลูกพืชที่จำเป็นต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมากอย่างฝ้ายทำให้การปลูกพืชชนิดนี้ในแถบทะเลสาปมีการดึงเอาน้ำที่มีไปใช้จนทำให้เห็นถึงความต่างเมื่อเวลาผ่านไปปริมาณน้ำก็ลดลงอย่างที่เห็น
เมื่อหลายหลายประเทศกำลังตระหนักถึงสิ่งที่เราควรทำดังนั้นการสร้างและปลูกป่าจึงเกิดขึ้นอย่างที่เราเห็นนี้
© Google Earth
เพราะก่อนหน้านี้พื้นที่ที่เห็นเป็นทะเลทรายอันกว้างใหญ่และมันกำลังขยายความแห้งแล้งออกไปอย่างช้า ๆ
และตอนนี้จีนเองก็เริ่มที่จะสนใจเข้ามาดูแลทำให้เกิดแนวคิดการสร้าง “กำแพงสีเขียว” เพื่อชลอและสร้างความชุ่มชื้นให้กับประเทศลองดูสิมันกำลังขยายความเขียวขจีออกไปมากขนาดไหน
หนึ่งในความสามารถของธรรมชาตินั้นก็คือพลังในการฟื้นตัวและการเติบโตอย่างที่เราคาดไปถึง มันจะมากขนาดไหนก็ลองชมกันดูกับภาพของ Pinatubo
© Google Earth
ที่เคยผ่านการเขียวขจีและกลายเป็นลาหินจากลาวาที่มีความร้อนแรงมหาศาลและตอนนี้มันก็กำลังกลับมาเป็นพื้นป่าอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง
ตอนนี้มันก็สวยงามมากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำไป
นี้แหละคือความน่าสนใจของสิ่งต่าง ๆ ที่หากเราไม่มีการเก็บข้อมูลไว้ละก็เราก็อาจจะไม่คาดคิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้เพราะบางสิ่งก็หายไปและหลายสิ่งก็เป็นสิ่งดีดีที่เกิดขึ้นใหม่เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องยกนิ้วให้กับเหล่าผู้พัฒนาทั้งหลาย
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ