เรื่องราวจากบรรดาเหล่าสัตว์โลกที่รู้แล้วต้องทึ่ง

รอบตัวเรายังมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายที่ต้องบอกว่ามันเข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้พวกเราได้อยู่เสมอ เพียงแค่พวกเราเปิดรับข้อมูลเหล่านั้นและไม่มองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นรอบตัวเราพวกเราชาวสัพเพเหระก็เชื่อว่าในแต่ละวันพวกเราเองก็จะได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ใหม่เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยนั่นเอง

วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยอยากจะนำเรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับบันทึกของสัตว์โลกที่หลายคนฟังแล้วก็อาจจะต้องบอกว่าเรื่องราวแบบนี้มันจริงหรือเปล่า เพราะบางเรื่องฟังแล้วมันก็สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเราอย่างยิ่งเลย ลองไปฟังเรื่องราวเหล่านั้นกันดูสักหน่อยก็แล้วกัน

สำหรับเพื่อนเพื่อนบางคนที่เลี้ยงแมวน้อยเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านก็อาจจะคุ้นเคยกับคำนี้นั้นก็คือ “KITTEN” ซึ่งถ้าแปลกันตรงๆก็หมายถึงลูกแมวนั้นแหละ แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่ใช้คำนี้ในการเรียกอย่างอื่นที่ตัวเล็กๆน่ารักๆแบบนี้ อย่างเช่นกระต่ายเป็นต้น
© Imgur
ซึ่งเมื่อลองอ่านรายละเอียดดูแล้วก็เข้าใจได้ว่ามันเหมือนคำเปรียบเปรยที่เราใช้กันนั้นเอง ดังนั้นครั้งหน้าที่ได้ยินใครพูดถึง “KITTEN” เราคงต้องดูให้แน่ใจแล้วละว่านั้นคือเจ้าเหมียวหรืออะไรกันแน่

ถ้าคุณต้องหล่นจากที่สูงสักประมาณ 6 ฟุตตั้งแต่ยังเด็กคุณคิดว่าจะเป็นยังไงบ้าง
© Imgur
แน่นอนว่ามันคงจะต้องเจ็บอย่างน้อยๆ ก็ต้องมีร่องรอยอะไรบ้างใช่ไหมละ แต่เพื่อนเพื่อนทราบไหมละว่าอันที่จริงแล้วลูกยีราฟที่กำลังจะออกมาดูโลกนั้น จะต้องผ่านช่วงเวลาที่ลุ้นสุดๆแบบนี้เสมอเพราะจากท่าทางของแม่ในตอนที่จะให้เด็กน้อยออกมาดูโลกนั้นเป็นท่ายืนซึ่งทำให้มีระยะห่างความสูงอยู่ที่ประมาณ 2 เมตรหรือ 6 ฟุตจากพื้น และในจังหวะที่คลอดเจ้าลูกยีราฟก็จะออกมาโดยการปล่อยตัวให้ลงสู่พื้นจากความสูงระดับนั้นซึ่งจะเกิดแรงที่ทำให้สายสะดือที่ติดตัวมานั้นหลุดออก และแรงที่ได้รับยังช่วยปลุกการทำงานต่างๆ ของลูกยีราฟอีกด้วยฟังดูแล้วก็ทำให้เราคิดได้เลยว่าตอนเราออกมาดูโลกมันสบายกว่าเยอะเลย

หลายคนอาจจะคิดว่าเรารู้เรื่องเกี่ยวกับร่างกายตัวเองและเข้าใจเป็นอย่างดีแต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นกับทุกสิ่งหรอกนะ
เพราะอันที่จริงแล้วสิ่งต่าง ๆ ล้วนต้องเกิดจากการฝึกฝนและการเรียนรู้ทั้งจากการมองดูคนรอบตัวหรือจากการสอนของคนใกล้ชิด อย่างเช่นลูกช้างที่เราเห็นนั้นมันอาจจะลุกขึ้นและเดินได้ตั้งแต่วันแรกๆ แต่กับงวงของมันนั้นมันแทบจะไม่รู้เลยว่าจะใช้งานมันยังไง ซึ่งพ่อแม่ช้างจะต้องค่อยอยู่ใกล้และสาธิตการใช้งานให้ดูจึงจะเกิดการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ยังไงละ

นกบางชนิดอย่างนกแก้วจะมีชื่อเป็นของตัวเองและมันก็จำได้แม่นซะด้วย
คงต้องบอกว่ามันไม่ได้เป็นชื่ออย่างที่เพื่อนเพื่อนคิดหรอกนะ แต่อันที่จริงแล้วเราพบว่าพ่อแม่นกแก้วสร้างสัญญาณต่างๆจากคลื่นเสียงในระดับที่ไม่เท่ากันในการเรียกลูกของมันแต่ละตัว ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นคำอย่างจอห์นหรือเอกแบบที่เราคิด แต่ด้วยเสียงที่นกฟังเข้าใจพวกมันก็จะจดจำและใช้สิ่งนี้ในการเรียกถึงกันยังไงละ

เคยได้ยินไหมว่าน้ำนมแม่นั้นเป็นสิ่งมีคุณค่าอย่างมาก ยิ่งทานได้นานยิ่งดีแต่ส่วนใหญ่เราก็จะเห็นว่ามีน้ำนมให้ทานกันไม่เกิน1-2ปี หรือมากหน่อยก็คง 3-4 ปี แต่เพื่อนเพื่อนทราบไหมละว่าอุรังอุตังนั้นสามารถผลิตน้ำนมให้ได้ยาวนานถึง 8 ปีเลยทีเดียว
© Depositphotos.com
นั้นเองที่ทำให้เจ้าลูกเล็กๆของอุรังอุตังได้ชื่อว่ามีอาหารที่ทรงคุณค่าในการทานได้ยาวนานที่สุดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

เรารู้กันอยู่แล้วว่าโลมาจัดเป็นสัตว์ชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนมแต่เคยสงสัยไหมว่าเค้าจะทานกันได้ยังไง
© Imgur
ต้องบอกว่าแม่โลมาจะมีท่าทางในการว่ายกลับหลังแล้วให้ลูกน้อยที่ว่ายตามมาเข้ามาใกล้ๆแล้วจะขับน้ำนมออกมาซึ่งมันจะมีความข้นมากจึงไม่ละลายไปก่อนในน้ำก่อนที่ลูกโลมาจะทานเข้าไปยังไงละ

เพื่อนเพื่อนคิดว่าลูกCoalla ที่ดูน่ารักๆ ที่เราเห็นมันอยู่บนหลังแม่นั้นจะมีขนาดแค่ไหนในตอนแรกเกิด
© Shutterstock.com
คงคิดไม่ออกละซิงั้นเราจะบอกให้ก็ได้ว่าอันที่จริงแล้วเจ้าหมีCoalla เมื่อตอนที่เป็นทารกในตอนที่เกิดมาใหม่นั้น พวกมันมีขนาดเท่ากับเยลลี่บีนเล็กๆเท่านั้น โดยยาวประมาณ 2 ซม. และหนักเพียงกรัมเดียวซึ่งนั้นเองที่เจ้าCoallaจึงต้องอาศัยอยู่ในกระเป๋าที่บริเวณท้องของแม่มันเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะสามารถขึ้นมาแกะอยู่ที่หลังได้นั้นเอง

ลูกๆของเหล่าบรรดาสัตว์ที่วางไข่นั้นจะมีฟันหรือบางส่วนที่แข็งแกร่งตั้งแต่ยังอยู่ในไข่นั้นเพราะ
© Depositphotos.com
เหล่าบรรดาเด็กน้อยเหล่านั้นจำเป็นต้องใช้ฟันหรือบางสิ่งในการเจาะเปลือกไข่ออกมายังไงละ

ลูกของนากจะมีขนฟูมากซึ่งนั้นทำให้มันลอยน้ำได้ตั้งแต่ลืมตาดูโลกนั้นเอง
เพราะตามธรรมชาติแล้วตัวนากจะคลอดลูกในน้ำใกล้ถิ่นที่อยู่ซึ่งนั้นเองที่ทำให้เจ้าตัวน้อยมาพร้อมขนฟูนุ่มที่ทำให้มันลอยน้ำได้เองโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย

ก่อนหน้านี้เราคิดว่าลูกสุนัขที่เกิดพร้อมกันคล้ายๆกันเท่านั้นเอง แต่อันที่จริงแล้วมันสามารถมี ฝาแฝดได้ด้วยนะ
© Reddit
ถึงแม้ว่าเราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าสุนัขนั้นจะมีลูกครั้งละหลายหลายตัว แต่ก็ไม่ค่อยได้เห็นว่าจะมีลูกสุนัขที่เหมือนกันมาขนาดฝาแฝดเกิดขึ้น ซึ่งตามหลักการนั้นสามารถเป็นไปได้แต่มันมีจำนวนน้อยมากมากนั้นเองดังนั้นเราจึงไม่ค่อยได้เห็นเรื่องราวเหล่านี้สักเท่าไหร่นัก

ลูกวาฬสีน้ำเงินเติมโตได้อย่างรวดเร็วโดยสามารถโตขึ้นได้ราว ๆ ประมาณ 10 ปอนด์ต่อชั่วโมง
เพื่อนเพื่อนทราบไหมว่าเจ้าปลาวาฬสีน้ำเงินนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ โดยมีความยาวถึง 98 ฟุต แม้ว่าลูกวาฬสีน้ำเงินจะตัวเล็กเมื่อเทียบกับแม่ของมัน แต่คุณรู้ไหมว่ามันดื่มนมจำนวนมาในแต่ละวันคิดแล้วประมาณ 50 แกลลอนต่อวัน และและนั้นเองที่ทำให้เจ้าตัวเล็กเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วโดยคิดแล้วประมาณ 10 ปอนด์หรือ 4.5 กิโลกรัมต่อชั่วโมง

ลูกกวางแรกเกิดมีลายพราง
เราพบว่าลูกกวางตัวน้อยจะมีลวดลายสีขาวเป็นเหมือนดวงดาว อยู่บริเวณลำตัวและมันจะจางหายไปเมื่อมันโตขึ้นซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะมันใช้ในการสร้างตัวจากสัตว์อื่นนั่นเอง

ถ้าพูดถึงแรกแล้วแล้วก็หลายคนคงคิดภาพของนออันแข็งแกร่งที่เหล่าแรดใช้ในการดูแลตัวเองอย่างแน่นอน
ซึ่งนอแรดนั้นก็ประกอบด้วยเคราติน เช่นเดียวกับผมและเล็บของเรานั้นแหละเพียงแต่มีความหนาแนนอยู่มากมันจึ้งแข็งแกร่งอย่างที่เราทราบ และเมื่อลูกแรดเกิดมันยังไม่มีนอ ซึ่งจะปรากฏขึ้นในตอนหลังอีกซัก 1 ถึง 2 เดือน

ลูกเต่าสามารสื่อสารได้จากภายในไข่
© Imgur
จากการศึกษาพบว่าในช่วงปลายของระยะฟักตัวออกจากไข่นั้น มีการส่งครื่นเสียงบางอย่างออกมาจากภายในซึ่งคาดการณ์ว่าเป็นเหมือนการพูดคุยกันระหว่างลูกเต่านั่นเอง

บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่เราเพิ่งรู้และได้สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเราแต่เป็นเพื่อนล่ะได้อ่านแล้วรู้สึกเป็นยังไงบ้างก็อย่าลืมบอกกันมาในคอมเม้นต์ของเรานะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ

Back To Top