ทุกวันนี้มีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่มันเป็นความรู้รอบตัวแบบว่ารอบตัวเราจริง ๆ เลยนะเพราะมันมีเรื่องเล็กน้อยอย่างเช่นการสวมเสื้อสีต่าง ๆ มีผลอย่างไรเมื่อเราต้องออกไปเที่ยวนอกบ้าน หรือบางเรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่แบบเรื่องการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอะไรประมาณนั้น แต่สิ่งที่เราจะบอกนั้นก็คือที่พวกเราสามารถรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้นั้นก็เพราะว่าเรามีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทำให้เราสามารถสร้างหรือสิ่งต่อความรู้เหล่านี้ไปให้เพื่อนเพื่อนคนอื่นๆของเราได้ชมกันแม้พวกเราจะอยู่คนละซีกโลกก็ตาม และวันนี้พวกเราก็เลยได้ลองรวบรวมเรื่องราวบางอย่างที่น่าจะเป็นส่วนช่วยให้เพื่อนเพื่อนได้ลองอ่านแล้วจดจำไว้ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องราวเหล่านี้บ้างยังไงละ
ยุงสามารถรับรู้เรื่องสีได้
ก่อนหน้านี้เราทราบกับว่ายุงนั้นจะเข้าหากลุ่มคนที่ปล่อยปริมาณคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ออกมามากกว่า ซึ่งไม่ได้คิดถึงองค์ประกอบส่วนอื่นเลย แต่จากการทดสอบแล้วเราก็ได้ข้อมูลใหม่เพิ่มและเมื่อตรวจสอบแล้วก็ทำให้เราได้พบกับเรื่องราวเหล่านี้ว่าเป็นไปได้ว่าแมลงตัวเล็ก ๆ เหล่านี้นั้น มักชอบสีเข้มอีกด้วย โดยพบว่าสีดำดึงดูดยุงได้มากกว่าสีขาว และการศึกษาเดียวกันนี้ยังบอกว่าแมลงเหล่านี้ถูกความร้อนดึงดูดได้ดีกว่าด้วย นั้นก็เพราะสีเข้มดูดซับความร้อนแสงมากกว่าสีที่สว่างนั้นเอง หากครั้งหน้าคุณต้องออกไปนอกบ้านหรือเดินในสวนยามค่ำแล้วละก็เราก็อยากให้คุณเลือกชุดสีอ่อนสักหน่อยจะได้ ไม่เป็นจุดสนใจจากเหล่าแมลงไงละ
ถ้าคุณฝันร้ายหรือรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับหรือหลับไม่สนิทแล้วละก็ลองสังเกตุดูว่า
เพื่อนเพื่อนทราบหรือไม่ว่าพวกเรานั้นต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารอย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมงทีเดียวเชียวนะ และระหว่างที่ร่างกายกำลังย่อยอาหารนั้นเราจะยังรู้สึกตื่นตัวอยู่นั้น ดังนั้นการที่คุณทานอาหารในช่วงก่อนนอนไม่นานจะทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท หรือบางคร้ังอาจจะทำให้คุณฝันร้ายก็ได้
โทรศัพท์ที่เราใช้งานกันอยู่เป็นประจำนั้นมันอาจจะมีสิ่งสกปรกกว่าในห้องน้ำซะอีกนะ
© Reddit
ที่เราบอกแบบนั้นก็เพราะว่าตามปกตินั้นพวกเราแทบจะไม่เคยดูแลทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือของพวกเราเลยดังนั้นลองคิดดูสิ เราเอาโทรศัพท์ไปวางตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนนับไม่ถ้วนแล้วแบบนั้นมันจะมีอะไรบ้างละที่จะอยู่บนโทรศัพท์ที่เรามองไม่เห็นบ้าง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้พวกเราก็ควรที่จะเช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์ของพวกเราบ้างอย่างน้อยสองถึงสามวันครั้งก็ยังดีนะ
ต้นไม้เชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายใต้ดิน
© depositphotos.com
ต้นไม้อาจมีอะไรมากกว่าที่คิด เชื่อกันว่ารากของพวกมันเชื่อมโยงถึงกันใต้ดินในรูปแบบเครือข่ายขนาดมหึมาที่สามารถเปรียบเทียบได้กับระบบประสาทของมนุษย์ ตามที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า เครือข่ายนี้อนุญาตให้มีการสื่อสารระหว่างต้นไม้ซึ่งช่วยให้มีพฤติกรรม การป้องกัน การเรียนรู้ และความจำ
ร่างกายของเรามีจุลินทรีย์มากกว่าเซลล์ของมนุษย์
ความจริงที่ว่าเราประกอบด้วยจุลินทรีย์หลายล้านล้านตัวอาจทำให้บางคนตกใจ ในความจริงแต่ละเซลล์ของมนุษย์จะมีจุลินทรีย์ 10 ตัว อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลเพราะสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้ช่วยการทำงานของร่างกายของเรา เช่น การย่อยอาหาร ควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน และปกป้องเราจากแบคทีเรียที่เป็นอันตรายอื่นๆ เป็นต้น
ความจุของสมองมนุษย์คือ 2.5 ล้านกิกะไบต์
ด้วยการคำนวนจากเซลล์ประสาทหลายร้อยล้านเซลล์ที่เชื่อมต่อซึ่งกันและกันในรูปแบบเครือข่ายขนาดมหึมาที่มีการเชื่อมต่อไปมาเป็นจำนวนมหาศาล รวมแล้วมากกว่าหนึ่งล้านล้านรายการ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมกันนะเจ้าสิ่งนี้ถึงมีความสามารถอันทรงพลังอย่างยิ่ง จากตรวจสอบทำให้เราได้พบว่า ความจำในสมองของเรามีค่าเท่ากับ 2.5 ล้าน GB ซึ่งสามารถเทียบได้กับการดูรายการทีวี 3 ล้านชั่วโมง
ถ้าเราเอาแร่ทองคำทั้งหมดที่อยู่ในโลกนี้ขึ้นมาจะมีทองคำมากพอที่จะปกคลุมพื้นผิวทั้งหมด
© depositphotos.com
จากการตรวจสอบและประเมินด้วยเทคนิคต่างๆ แล้วทำให้เราได้ทราบว่าแกนโลกของเรานั้นมีปริมาณทองคำและแร่ธาตุต่าง ๆ สะสมอยู่เป็นจำนวนมากโดยหากเราสามารถขุดทองออกมาในจำนวนมหาศาลนี้ขึ้นมาได้แล้วละก็พวกเราจะสามารถใช้มันห่อหุ้มพื้นผิวโลกด้วยชั้นทองคำหนาได้ถึง 4 เมตรเลยทีเดียว แต่การทำออกมาคงเป็นไปไม่ได้เพราะนั้นจะทำให้แกนโลกและการไหลของสารต่าง ๆ ตามสนามแม่เหล็กโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากซึ่งจะทำให้เกิดอะไรขึ้นมาบ้างก็ไม่อาจคาดเดาได้เลย
ในอีดพวกเรามีจำนวนมากมายขนาดที่เรียกได้ว่า ถ้าให้เราครอบครองแล้วละก็จะได้รับต้นไม้ 420 ต้นต่อคนอีกด้วย
แต่เนื่องจากปริมาณการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนคนบนโลกอีกทั้งการลดลงของต้นไม้ที่ถูกนำพื้นที่ไปใช้งานทำหลายหลายสิ่งหลายหลายอย่างทำให้ตอนนี้จำนวนนั้นลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ซึ่งนั้นจะทำให้พวกเราต้องกลับมาคิดกันแล้วว่าในอนาคตพวกเราอาจจะต้องหาวิธีการในการดูแลธรรมชาติเหล่านี้อย่างจริงจังแล้ว
ถงแม้ว่าเราจะตรวจสอบและศึกษาเรืองรางของธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา แต่กว่า 80% ของมหาสมุทรก็ยังไม่ได้สำรวจนั้นเพราะความลึกและความกว้างของมันนั้นเอง
© shutterstock.com
คุณทราบหรือไม่ว่าธารน้ำแข็งมีการละลายเพิ่มมากขึ้นทุกปีทำให้ ปริมาณน้ำในมหาสมุทรยังคงเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นและสร้างสิ่งที่ลึกลับและน่าพิศวงที่สุดอย่างต่อเนื่องให้พวกเราในการค้นหาสิ่งใหม่ ซึ่งสำหรับมนุษย์เราไม่ว่าเราจะค้นพบเรื่องนี้มากแค่ไหน แต่ก็ยังมีอะไรให้เรียนรู้และเปิดเผยอีกมาก เนื่องจากเราได้สำรวจไปเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น ด้วยปริมาตรรวม 1.35 พันล้านลูกบาศก์กิโลเมตร เราสามารถพูดได้ว่าเรายังมีหนทางอีกยาวไกลเพื่อไขความลับอันไร้ขอบเขตที่ความลึกลับนี้อาจซ่อนอยู่
คุณทราบหรือไมว่าแรงโน้มถ่วงทำให้จมูกและหูของเราโตขึ้นตามกาลเวลา
© East News
หากคุณลองสังเกตุให้ดีดีแล้วจะต้องพบกับเรื่องที่น่าแปลกใจที่ว่าจมูกและหูของเรานั้นดูใหญ่ขึ้นตามอายุ ซึ่งอันที่จริงแล้วความหย่อนคล้อยทีเกิดขึ้นและการขยากของเซลล์ของผิวนั้นเองที่สร้างผลกระทบเหล่านี้ขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้วมันก็เกิดกับทุกส่วนนั้นแหละแต่เราอาจจะไม่ได้สังเกตุเท่านั้นเอง
หากย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น คงต้องบอกว่าพวกเราทั้งหมดบนโลกที่จัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิต นั้นจะต้องบอกว่าพวกเราคือครอบครัวเดียวกันนั้นเอง เพราะย้ายกลับไปที่ 3.8 พันล้านปีเราทุกคนล้วนสร้างจากเซลล์ที่มีลักษณะทั่วไป เช่น ไรโบโซม และรหัสพันธุกรรมที่เชื่อว่าจะย้อนกลับไปที่เอนทิตีเดียวนี้
สักเกตุกันไหมว่าเวลาที่เราหลับตาเราจะคิดบางสิ่งได้ง่ายขึ้น หรือการหลับตาจะช่วยเพิ่มความจำ
ต้องบอกว่าอันที่จริงแล้วร่างกายของเรานั้นพิเศษมากมากนั้นคือมันมีระบบที่สามารถทำงานเป็นอิสระแบบที่เราคาดไม่ถึงเลยอยู่ตลอดเวลา และแยกกันคิดคำนวนและรับรู้อย่างที่เราคาดไม่ถึง อย่างเช่นเราสามารถมองเห็นและได้ยินในเวลาเดียวกันนั้นเอง นั้นหมายความว่าสมองของเราสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งการหยุดการรับรู้บางอย่างจึงทำให้การทำงานของสิ่งอื่นทำได้ดีขึ้นได้ด้วยนั้นเอง อย่างเช่นคุณอาจจะเคยได้ยินว่าคนที่มองไม่เห็นจะหุดีมาก อะไรประมาณนั้น ซึ่งนั้นก็เพราะร่างกายของเราเอาพลังและความสามารถไปใช้กับสิ่งเหล่านั้นนั้นเอง ดังนั้นการหลับตาลงหรือได้อยู่ในที่เงียบๆจึงทำให้เราสามารถนึกคิดหรือจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นนั้นเอง เหมือนเราเอาคอมพิวเตอร์ที่เปิดแอปอย่างเดียวมาคำนวนการทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น และพอเปิดแอปต่าง ๆ มากขึ้นก็ทำงานได้น้อยลงยังไงละ
อันที่จริงแล้วสีของจักรวาลคือสีเบจ ไม่ใช่สีดำอย่างที่เราเห็นบนท้องฟ้าเวลากลางคืน
© depositphotos.com
เราหลายคนก็เข้าใจแบบนั้นเพราะ กลางคืนเรามองออกไปก็จะเห็นเป็นสีดำ หรืออาจจะมีเฉดสีน้ำเงินเข้มบ้างแต่อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์บอกเราว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ที่น่าแปลกคือสีเฉลี่ยของเอกภพที่ได้รับจากการผสมผสานของแสงที่ปล่อยออกมาจากกาแลคซี 200,000 แห่งเป็นสีเบจ สีนี้เองถูกกำหนดให้เป็นสี ‘cosmic latte’ นั้นเอง
การเต้นของหัวใจของเราซิงค์กับเพลงที่เรากำลังฟังอยู่
ดนตรีมผลต่อตัวเรามากกว่าที่คิด เพราะอิทธิพลของดนตรีไม่ได้หยุดอยู่การสื่อสารเท่านั้น จากการศึกษาพบว่า เพลงที่ดีสามารถสื่อถึงร่างกายและการทำงานต่างๆ ได้อย่างลึกซึ่ง และพบว่าการเต้นของหัวใจสอดคล้องกับจังหวะดนตรีที่เราฟังอีกด้วย ตามที่นักวิจัยค้นพบว่า การเลือกเพลงที่มีจังหวะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นตามไปด้วย และการหายใจก็จะเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน การวัดเหล่านี้ลดลงในช่วงที่จังหวะลดลงหรือช่วงที่เงียบดังนั้นช่วงกลางคืนหากคุณอยากจะฟังผ่อนแล้วละก็ลองเปิดเพลงเบา ๆ ทำนองช้าๆดูสิ
ความสามารถในการมองเห็นของมนุษย์นั้นสามารถแยกแยะสีได้มากถึง 10 ล้านสี
© Reddit
ในทางวิทยาศาสตร์ได้ทำให้เรารู้ว่ามนุษย์สามารถแยกแยะสีต่างๆ ได้ประมาณ 10 ล้านสีเพียงแต่ว่าเราอาจจะไม่ได้สนใจที่จะใช้มันเท่านั้นตัวอย่างเช่น ทุกวันนี้คุณสาวๆ ก็สามารถบอกถึงความต่างของสีเครื่องสำอางที่เล็กน้อยๆมากๆได้อย่างชัดเจนและซึ่งคุณผู้ชายอาจจะบอกไม่ได้ ซึ่งในทางกลับกันถ้าเป็นสิ่งที่เราชอบอย่างรถยนต์หรืออื่นๆ คุณผู้ชายก็อาจจะบอกถึงความต่างของสีสันได้ และนั้นทำให้เรารู้ว่าอันที่จริงแล้วพวกเราล้วนมีพลังพอพอกันเพียงแต่จะเลือกใช้งานหรือไม่ใช่งานสิ่งเหล่านั้นนั้นเอง
เรื่องราวน่าสนใจแบบนี้ยังมีอีกมากเดี่ยวเราจะหามาให้เพื่อนเพื่อนได้อ่านกันอีกนะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ