ตัวไม่ใหญ่แน่นะ…วิ กับ Kefir ลูกแมวเมนคูนที่มียังโตได้อีกเยอะ

โลกเรามีเรื่องราวน่าสนใจมากมายที่เราหลายคนคิดไม่ถึงอย่าง อายุเฉลี่ยของประชากรโลกนั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ที่ 77.1 ปี ซึ่งบางคนก็อาจจะคิดว่าคนแถวบ้านก็เกินกว่านี้เยอะแยะ แต่ถ้าลองไปเทียบกับทั่วโลกแล้วมันประมาณนี้แหละเลยดูเหมือนไม่มากเท่าที่เราเจอเลยเนอะ นอกจากเรายังมีอย่างอื่นที่อายุเพิ่มด้วยนะนั้นก็คือแมวนั้นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเปรียบเทียบกับแมวที่มีอายุมากที่สุดในโลกที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 38 ปี แมวทำลายสถิติโลกตลอดเวลา และเราได้พบกับ Kefir ซึ่งเพิ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นแมวที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเราอยากให้คุณได้สัมผัสกับแมว ที่น่ารักมากมากที่เราได้เจอกันมาเลย วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระได้มีโอกาสที่จะถามเจ้าของผู้ผู้ดูแลของ Kefir ชื่อ Yuliya และเราเกี่ยวกับเรื่องราวของเจ้าเหมียว เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อพบกับแมวเมนคูนสีขาวที่ดูสง่างามตัวนี้ © yuliyamnn / อินสตาแกรม มาดูเรื่องราวง่าย ๆ ก่อนอย่างเจ้า Kefir นั้นเป็นแมวเมนคูนหนัก 12.2 กก. กำลังสร้างกระแสในโลกออนไลน์ แมวตัวนี้ตั้งชื่อตามลูกสาว 2 คนของ Yuliya ตามชื่อเครื่องดื่มนมหมัก ทำให้ผู้คนเชื่อว่ามันเป็นสุนัข แม้ว่าตามทฤษฎีแล้วมันยังเป็นลูกแมวอยู่ก็ตาม หากแมวบ้านทั่วไปโตเต็มที่เมื่ออายุ 1 หรือ 2 ขวบ เมนคูนจะไม่หยุดเติบโตจนกว่าจะอายุ 3 หรือ 4 ขวบ © yuliyamnn /…

Read More

15 ภาพก่อนและหลังที่จะแสดงให้คุณเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ อาจเปลี่ยนได้ในเวลาอันสั้น

เราอยู่แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่เคยคิดถึงเลยว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนหรืออย่างไร เพราะเราคิดกันไปเองว่ามันต้องนานหรือใช้เวลาอย่างมากถึงจะเปลี่ยนแปลงกันได้ แต่มันไม่จริงเลยเพราะอันที่จริงแล้วมันเปลี่ยนได้เร็วกว่าที่เราคิดและเป็นที่เราเองแหละที่มักจะพลาดการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เราเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลง เราอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจในผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันมากเพียงใด ผู้ใช้เหล่านี้ตัดสินใจที่จะจับภาพช่วงเวลา “ก่อนหน้า” และไม่เสียใจเลยที่สังเกตเห็นความแตกต่าง วันนี้เราก็เลยเอาภาพของการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของคน สัตว์ และแม้แต่สิ่งของมาให้เพื่อนเพื่อนชมกันซะเลย 1. “ฉันเพิ่งเดินขึ้นเขากว่า 2,000 ไมล์จากจอร์เจียไปยังรัฐเมน นี่คือใบหน้าของฉันก่อนและหลังเดินเขา” © การ์มาจิ / Imgur 2. “ใบหน้าในวัย 23 ปีของฉันก่อนและหลังเกิดอาการแพ้” © Nunnsta / เรดดิท 3. “ก่อนรดน้ำและหลังรดน้ำประมาณหนึ่งชั่วโมง” เป็นไงละใครจะคิดว่ามันจะกลับมาได้ © ชื่ออาฟเตอร์นูน / Reddit 4. “บูทก่อนและหลังทำความสะอาด แปรง และแว็กซ์” © moarturnips / เรดดิท 5. ภาพผลงานจากฝีมือของเราเอง“ก่อน/หลังเรียนหลักสูตรเซรามิกส์ 4 ปีที่ผ่านมา” © RockGamingReal / Reddit…

Read More

15 ภาพที่แสดงให้เห็นสิ่งธรรมดาจากมุมมองใหม่ๆ

เคยมีคนบอกว่าความคิดของเรานี้แหละคือสิ่งที่ทำอะไรก็ได้ และความคิดของเราเองนี้แหละที่บอกห้ามเราไม่ให้สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เพราะเราคิดเอาเองว่าทำสิ่งนั้นได้หรือสิ่งนั้นไม่ได้บางครั้งมีบางสิ่งมาขวางทางก็เปลี่ยนความคิดเปลี่ยนวิธีที่เราจะทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้ผลต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง เช่น การหาข้อมูลเกี่ยวกับการมีอยู่สิ่งของหายากแล้วลองมาสำรวจดูในบ้านและก็ค้นพบสิ่งเหล่านั้นโดยบังเอิญก็มี ซึ่งการค้นพบเหล่านี้ทำให้ชีวิตน่าตื่นเต้นและทำให้โลกของเราสดใส โชคดีที่อินเทอร์เน็ตทำให้เราประหลาดใจไม่รู้จบ พวกเราชาวสัพเพเหระก็ได้ลองรวบรวมภาพบางส่วนที่มีพลังที่จะทำให้ความคิดของคุณตื่นขึ้นและบางคนอาจจะอยากลองลงมือทำบางสิ่งบางอย่างเลยก็ได้ มาชมกันเลยดีกว่านะ 1. เชื่อหรือไม่ว่าเราทำให้คุณมองทะลุกำแพงได้โดยไม่ต้องทุบหรือเจาะ ก็ลองดูภาพล่างสิมีเพียงประตูเท่านั้นที่เป็นจริงที่นี่ที่เหลือวาดเอา © vile_graffiti / Instagram, © Vile / เว็บไซต์ 2. ถ้ามองอย่างจริงจังเราจะพบหลายสิ่ง อย่าง“ปลาหมึกตัวเล็กที่ฉันพบในเปลือกหอย” © arzam007 / Reddit 3. ตอนยังเดินได้ภรรยาของผมไม่สนใจกีฬาเลย แต่พอเธอต้องนั่งรถเข็นกลับกลายเป็นว่าเธอทำในสิ่งที่เหลือเชื่อได้ นั้นคือการเล่นกีฬา“และนี้คือภาพภรรยาของฉันที่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในการแข่งขันฟันดาบกับคู่ที่ต้องนั่งรถเข็นด้วยกันนั้นเอง” © NHLroyrocks / Reddit 4. “ธนบัตรซิมบับเวมูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ของฉันที่ฉันใช้เป็นที่คั่นหน้า” © Krazykid678 / Reddit 5. “เราเคยกลัวเข็มมากมาก แต่วันนี้เราได้เปลี่ยนความคิดเพราะต้องการช่วยเหลือคนในครอบครัวของเรา และนี้คือพลาสมาที่ได้จากการบริจาคของเรา” นี้แหละความรักที่ทำให้ความกลัวหายไป © Peppersworth / Reddit 6. “ได้…

Read More

กฎระเบียบที่เรายังไม่มีแต่มันต้องแบบนี้แหละถึงดีกว่า

เมื่อเราอยู่กันเป็นจำนวนมากเราก็ต้องมีเรื่องของกฎหรือระเบียบเพื่อที่จะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ อย่างในบ้านก็มีกฎบ้านในโรงเรียนก็มีกฎของโรงเรียน และสังคมและเมืองใหญ่ต่าง ๆ หรือประเทศต่าง ๆ ก็มีสิ่งนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งในฐานะที่เราองเป็นคนที่ต้องมาอาศัยอยู่ในแต่ละสถานที่นั้นเราก็คงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านั้นเพื่อความเรียบร้อยและเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้นเอง ซึ่งหลายหลายอย่างมันก็ดีแต่บางทีบางอย่างมันก็ไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ เช่น กฎที่มีเป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลความคิดของเราให้สอดคล้องกับข้อคิดแบบเดิม ซึ่งมันก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่กฏเหล่านั้นยังคงอยู่ ซึ่งเราก็หวังว่าสักวันมันจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ควรจะเป็น แต่ก่อนจะถึงวันนั้นวันนี้พวกเราชาวสักเพเหระก็ได้ลองเอากฏตามประเทศต่าง ๆ ที่บางข้อก็ฟังดูแปลกบางอย่างก็ฟังดูดีมาให้เพื่อนเพื่อนได้ลองฟังกันหน่อย แล้วมาบอกเราหน่อยสิว่าอันไหนมันดีหรืออันไหนที่ควรจะปรับออกไป 1. กฎจากโปรตุเกสที่เพิ่งออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้มันช่างโดนใจคนทำงานแบบนั้นเลย เพราะเค้าบอกว่าหากนอกเวลางานแล้วนั้น การติดต่อกับพนังงานเรื่องงานนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเว้นแต่จะเป็นเรื่องจำเป็นและ หากติดต่อพนักงานไม่ได้ก็ไม่ถือว่าพนักงานคนนั้นบกพร่องต่อการทำงานด้วยนะเพราะมันอยู่นอกเวลางานไงละ และเค้าทำเพื่อปรับปรุงความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน โปรตุเกสแนะนำกฎใหม่ในปี 2564 ที่ทำให้ผู้บังคับบัญชาติดต่อกับพนักงานหลังเวลาทำงานเป็นเรื่องผิดกฎนายจ้างไม่สามารถส่งข้อความ ส่งอีเมลถึง หรือโทรหาพนักงานเกี่ยวกับเรื่องงานได้ เว้นแต่มีเหตุฉุกเฉิน 2. ในนอร์เวย์ บอกให้เหล่าบรรดาดาราหรือผู้มีชื่อเสียงต้องยอมรับความจริงหากพวกเขาแก้ไขรูปภาพให้ดูดีกว่าตัวจริง © Depositphotos.com ฟังดูก็อาจจะคิดว่ามีไว้ทำไมนะเพราะใครๆ ก็แต่งกันทั้งนั้นแหละ แต่มันมีจุดมุ่งหมายเพื่อไม่ทำให้คนทั่วไปคิดว่าตัวเองนั้นดูด้อยกว่าจากภาพถ่ายที่ผ่านการรีทัชที่สมบูรณ์แบบซึ่งผู้มีชื่อส่วนใหญ่โพสต์บนโซเชียลมีเดียนั้นเอง 3. ในเมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาคารใหม่ทุกหลังต้องมีหลังคาสีเขียว © Shutterstock.com การยอมรับกฎนี้ทำให้บาเซิลเป็นเมืองแรกในโลกที่บังคับใช้หลังคาเขียวกับอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการรวมอาคารที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ไว้ในนี้ด้วย การเพิ่มความเขียวขจีให้กับหลังคาเรียบของเมืองช่วยต่อสู้กับหมอกควันและมลพิษ 4. มีการปลูกต้นไม้ 2 ต้นสำหรับทุกๆ สมาชิกใหม่ในครอบครัวในเวลส์…

Read More
Back To Top