บางครั้งบางคราวเราเองก็ต้องได้พบเจอกับเรื่องราวที่สุดแสนจะลำบากใจอย่างยิ่งเลย และแน่นอนว่ามีคนอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่มักจะเก็บเอาเรื่องราวต่างๆ หรือปัญหาต่าง ๆ เอาไว้กับตัวเองนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าอันที่จริงแล้วเราเองก็ไม่อยากที่จะให้ใครต่อใครต้องมากังวลใจกับเรื่องราวเหล่านั้น หรือบางที่เราก็ไม่อยากที่จะให้คนที่อยู่รอบๆตัวเราต้องกังวลใจตามไปด้วยนั้นเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วการได้พูดหรือได้บอกเรื่องราวต่าง ๆ ออกไปบ้างนั้นกลับจะทำให้เราสบายใจมากขึ้นและเรื่องราวที่ดูใหญ่โตเหล่านั้นก็อาจจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เมื่อพวกเรารวมมือกันแก้ไขนั้นเอง และในเมื่อไม่มีใครกล้าพอที่จะบอกเรื่องราวเหล่านนั้นวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยอยากจะเอาเรื่องราวดีดีในการสังเกตุท่าทางและพฤติกรรมของเหล่า เพื่อนเพื่อนที่อยู่รอบตัวเราหรือบางครั้งเค้าอาจจะเป็นคนในครอบครัวของเราเองนี้แหละ
โดยสิ่งที่เรากำลังจะนำเสนอเหล่านี้ให้เพื่อนเพื่อนได้ชมกันนั้นมันจะเป็นการสังเกตุสิ่งต่าง ๆที่คนรอบข้างเราทำและสิ่งเหล่านั้นจะช่วยบอกเราได้ว่าเพื่อนหรือคนในครอบครัวเรานั้นอาจจะกำลังมีปัญหาอยู่ก็เป็นได้นั้นเอง มาลองอ่านและคิดตามไปด้วยกันเลยดีกว่าเนอะ
ลองสังเกตุดูว่าคนรอบตัวคุณนั้นมีอารมณ์แปรปวนบ้างหรือเปล่า
เป็นเรื่องปกติมากมากที่เราเองหรือใครก็ตามที่จะมีความรู้สึกหรืออารมณ์ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเค้าอย่างเช่นดีใจเมื่อได้สิ่งของหรือพบเจอกับเรื่องดีดี หรือเสียใจเมื่อต้องผิดหวัง และโกรธเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่ชอบใจนั้นเอง แต่ถ้าหากว่าเพื่อนหรือคนรอบๆตัวคุณมีการแสดงออกถึงสิ่งเหล่านี้แม้ว่าจะเจอกับเรื่องราว ๆ เล็กๆน้อยๆแต่ก็แสดงอารมณ์ออกมาอย่างเยอะแล้วละก็นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าเค้ามีบางอย่างให้ต้องคิดหรือกังวลอะไรที่ไม่สามารถบอกได้อยู่ดังนั้นเมื่อถูกสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นเข้าจึงแสดงออกถึงส่วนที่เก็บเอาไว้ออกมานั้นเอง ดังนั้นคุณควรลองสอบถามหรือชวนเค้าเหล่านั้นพูดคุยในบรรกยากาศสงบๆ ก็อาจจะช่วยทำให้เค้าพูดออกมาได้ง่ายขึ้นนั้นเอง
สังเกตุจากการนอนของเพื่อนเพื่อน
อันที่จริงต้องบอกว่า 1 ใน 3 ของช่วงเวลาในแต่ละวันของเรานั้นหมดไปกับการนอนนั้นเอง แต่ถ้าเพื่อนของคุณมีการใช้เวลาส่วนนี้มากกว่าหรือใช้น้อยกว่านั้นมากมากแล้วละก็ บอกได้เลยว่าคุณควรที่จะต้องหาทางพาเค้าไปปรึกษาหมอดีดีสักคนแล้วละ นั้นก็เพราะหากเรานอนไม่ถูกต้องเช่นมากเกินไปร่างกายของเราก็จะไม่สดชื่นกลับยิ่งจะเฉื่อยชาลงด้วยซ้ำ และสำหรับคนที่ไม่นอนเลยก็ยิ่งไปกันใหญ่เพราะนั้นจะทำให้อ่อนล้าและยังไม่มีเรียวแรงอีกด้วยดังนั้นถ้าเพื่อนของคุณมีลักษณะที่นอนมากไป หรือไม่นอนเลยก็ควรจะต้องรีบช่วยเหลือแล้วละ
รูปลักษณ์ภายนอกนั้นแสดงให้เห็นถึงหลายหลายสิ่งหลายหลายอย่าง
คนส่วนใหญ่นั้นต้องการทีจะดูดีอยู่แล้วดังนั้นมันจะธรรมดามากมากที่คุณได้พบกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองหรืออกกำลังกาย แต่ในทางกลับกันหากคุณได้พบใครสักคนที่ดูแตกต่างไปมากจากความทรงจำของคุณซึ่งต้องบอกว่าาแตกต่างในทางที่ดูแย่ลงอย่างรวดเร็วแล้วละก็ นั้นบงบอกได้เลยว่าเพื่อนของคุณน่าจะกำลังตกอยู่ในสภาพที่ต้องการใครสักคนแล้วละ เพราะสัญญาณแรกๆของคนที่มีความวังวลนั้นก็คือไม่สนใจดูแลตัวเองนั้นแหละ ดังนั้นอย่ารอช้าที่จะยื่นมือเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนของคุณเพื่อทำให้เค้าสบายใจและผ่านจุดเหล่านั้นมาให้ได้
หากเพื่อนของคุณเริ่มคิดว่ามันยากที่จะเข้าสังคมเราคงต้องแวะไปหาแล้วละ
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่านิสัยของคนเรานั้นบางครั้งก็อยากที่จะอยู่คนเดียวหรือบางครั้งก็อยากที่จะสนุกสนานไปกับคนรอบข้าง เปลี่ยนแปลงกันไปได้เสมอ แต่หากเราลองสังเกตุดูก็จะพบว่าในยามที่พวกเรามีความสุขนั้นคนส่วนใหญ่ก็มักจะอยากที่จะออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยอาจจะไปคนเดียวหรือชวนเพื่อนด้วยก็แล้วแต่ ซึ่งในทางกลับกันเวลาที่เราอยู่ในช่วงยากลำบากเราก็มักที่จะชอบที่จะอยู่คนเดียวไม่ทำอะไรเลย นั้นเพราะคนเหล่านั้นกำลังติดอยู่ในลูปของการคิดวนไปซ้ำไปซ้ำมานั้นเอง ซึ่งหากปล่อยให้คิดแต่เรื่องเหล่านั้นมันก็จะยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆนั้นเอง ดังนั้นหากวันนี้เพื่อนของคุณจู่ๆก็หายไปจากการติดต่อแล้วละคุณควรที่จะลองไปหาเค้าเหล่านั้นที่บ้านเพื่อดูให้แน่ใจว่าเค้ายังสบายดีอยู่หรือไมนั้นเอง
ใครๆก็ลืมของกันได้แต่หากเพื่อนของคุณเริ่มลืมหรือทำกิจกรรมด้วยท่าทางเหม่อลอยแล้วละก็เราคงต้องมีเรื่องต้องคุยกันแล้วละ
เพราะสิ่งที่เค้าแสดงออกมานั้นกำลังบอกเราทางอ้อมว่าเพื่อนของเราแทบจะไม่ได้คิดถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าหรือสิ่งที่ต้องทำในปัจจุบันเลย และนั้นก็อาจจะเป็นเพราะพวกเค้าเหล่านั้นเอาแต่คิดเรื่องอื่น ๆ หรือเรื่องที่เค้ากังวลอยู่นั้นเองดังนั้นอย่ารอช้าที่จะชวนเพื่อนของคุณไปคุยหรือโทรถามถึงพวกเค้าเหล่านั้นกันด้วยละ
หากพวกเขาหงุดหงิดกับการวิพากษ์วิจารณ์ที่เล็กน้อยมากมาก
ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติมากมากที่เวลาเราทำอะไรก็แล้วแต่มันย่อมจะต้องมีสิ่งที่สามารถปรับปรุงหรือสิ่งที่ควรแก้ไขนั้นเอง และหากปกติแล้วเราคงสามารถพูดคุยเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างสบายๆกับเพื่อนเพื่อนหรือคนในครอบครัว แต่หากว่าคนเหล่านั้นมีการตอบสนองที่เรียกได้ว่าหงุดหงิดกลับมากับแค่คำแนะนำเล็กๆน้อยๆแล้วละก็คุณอาจจะต้องเริ่มหันมาใส่ใจเค้าเหล่านั้นมากขึ้นแล้วนั้นเอง เพราะที่เค้าหงุดหงิดง่ายๆ หรือเสียใจมากเกินไป แม้กับเรื่องเล็กน้อยนั้นก็อาจจะมาจากที่เค้าไม่สบายใจบางอย่างอยู่นั้นเอง
เพราะคนรอบข้างนี้แหละที่จะอยู่ดูแลและให้ความสุขกับเราดังนั้นการได้ดูแลและสังเกตุคนเหล่านั้นก็จะทำให้เรามีครอบครัวและคนรอบข้างที่ดีมีความสุขนั้นเอง
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ