สิ่งหนึ่งที่พวกเรามีเท่ากันคือเวลาในหนึ่งวันที่มียี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากันแต่สิ่งที่แตกต่างกันของแต่ละคนก็คือการเลือกใช้เวลาเหล่านั้นให้หมดไปกับสิ่งใดบางคนเลือกที่จะเอาเวลาไปใช้ในการท่องเที่ยวหรือทานอาหารอร่อยๆเพื่อให้ความสุขกับตัวเอง บางคนเลือกที่จะเอาเวลาไปศึกษาหาความรู้เพื่อที่จะใช้ความรู้ที่ได้มานั้นช่วยเหลือและพัฒนาสิ่งต่างๆ และไม่ว่าเพื่อนเพื่อนของเราจะใช้เวลาอย่างไรและเพื่ออะไรพวกเราชาวสัพเพเหระก็คิดว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ดีอย่างแน่นอนเพราะเพื่อนเพื่อนของเราต้องได้คิดแล้วว่าสิ่งที่ได้เลือกทำลงไปนั้นมันต้องมีประโยชน์อะไรสักอย่างกับตัวของเราเองอย่างแน่นอน
พวกเราชาวสัพเพเหระเคยได้ยินเรื่องราวและบทความที่สอนเราเกี่ยวกับเรื่องของการทำสิ่งต่างๆให้คุ้มค่าอยู่เสมอเพราะไม่มีใครหยุดวันเวลาได้ และสิ่งต่างๆที่เราทำไปนั้นมันก็จะทิ้งร่องรอยไว้ที่ตัวของเราแต่ละคนเองวันนี้พวกเราเลยอยากจะเอาเรื่องราวของเหล่าดาราคนดังที่ตอนนี้เราได้เห็นผลงานและเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากเลยก็ว่าได้แต่สิ่งหนึ่งที่เราหลายหลายคนอาจจะไม่รู้นั้นก็คือกว่าที่พวกเค้าจะเติบโตมาบนเส้นทางที่สวยงามเหล่านี้ได้นั้นพวกเค้าต้องผ่านสิ่งต่างๆและฝ่าฟันกับสิ่งเหล่านั้นมาในแต่ละวันด้วยความมุ่งมั่น และผลลัพท์ที่ได้พวกเราชาวสัพเพเหระเมื่อได้เห็นแล้วก็ต้องรู้สึกยินดีตามไปด้วยเลยเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในคนดัง
คนแรกที่เราขอหยิบยกขึ้นมาคือ Chris Pratt ตอนนี้เค้าอายุได้สี่สิบปีแล้ว
© Everwood / The WB Television Network
บนเส้นทางสายบันเทิงของเค้านั้นเริ่มต้นจากการเป็นที่รู้จักจากผลงานทางโทรทัศน์ ด้วยบทบาทของ แอนดี ดิวเยอร์ จากเรื่อง Parks and Recreation แต่อันที่จริงแล้วเค้าเริ่มเป็นนักแสดงตั้งแต่หนังสั้น Cursed Part 3 ตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งก่อนหน้านั้นตอนที่เค้ายังไม่เริ่มสนใจในสายอาชีพนี้เค้าเคยเป็นนักกีฬระดับแชมป์มัธยมต้นของรัฐเลยแต่ก็ไม่ได้หันไปเอาดีทางด้านนั้นและใช้ชีวิตตามแบบที่อยากทำมาช่วงหนึ่งจนเริ่มสนใจการแสดงและทุ่มเทให้กับงานจนกระทั้งในปี 2015 ที่ได้รับเลือกให้แสดงเป็นหนึ่งในนักแสดงของ Guardians of the Galaxy ซึ่งทำให้เค้ากลายเป็นดาราแถวหน้าอันดับต้นๆที่หลายหลายคนรักเลยก็ว่าได้
ต้องขอพูดถึง Robert Downey, Jr อย่างแน่นอนเพราะว่าเค้าคืออีกหนึ่งของดาราที่เริ่มต้นจากการมีทุกอย่างและสูญเสียไปแต่ก็สามารถกลับมายืนอยู่ในตำแหน่งของเค้าในตอนนี้ได้อย่างน่าชื่นชม
© Back to School
ต้องบอกเลยว่าการเริ่มต้นที่มีพร้อมทุกอย่างทำให้เค้าอยู่อย่างไม่คิดอะไรและได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการจนมีหลายครั้งที่เค้าต้องถูกจับและกลับกลายเป็นหนึ่งในคนที่เพื่อนเพื่อนไม่อยากจะคบหาด้วยเลยแต่ท้ายที่สุดเมื่อเค้ายืนหยัดที่จะกลับตัวและมีเพื่อนที่ดีอย่างเมล กิ๊บสัน และภรรยาเป็นคนที่ค่อยให้ทั้งกำลังใจและหนทางในการทำงานซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ปฏิเสธบทเล็กๆที่ได้กลับมาเล่นเลยจนกระทั้งเค้าได้รับบทเป็นไอรอนแมนและกลับมายืนอยู่แถวหน้าของนักแสดงนำได้อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้
ตามมาด้วยชายคนนี้ Chris Evans ที่ต้องบอกว่าหนุ่มหลายคนอยากจะเท่เหมือนเค้าเลยละ
© s_bukley
ต้องเล่าย้อนกลับไปในวัยเด็กของ Chris Evans ที่อยู่กับครอบครัวที่แสนสุขกับพ่อแม่และน้องสาวของเค้าซึ่งต้องบอกเลยว่าความฝันของหนุ่มน้อยคนนี้ตั้งแต่เด็กก็คือการเป็นนักแสดงนั้นเอง ซึ่ง Chris ไม่เคยก้าวเดินไปทางอื่นเลยและแน่วแน่ที่จะเติบโตมาบนเส้นทางนี้โดยเค้าจะเข้าร่วมการแสดงต่าง ๆ ที่สามารถทำได้ตั้งแต่ตอนที่เรียนและมักจะใช้เวลาช่วงพักร้อนไปกับการเรียกการแสดงเสมอ ซึ่งนั้นเองที่ทำให้เค้าได้ก้าวเข้ามาในเส้นทางของนักแสดงและได้เป็นหนึ่งในหนังสั้นเกี่ยวกับธรรมชาติตั้งแต่ปี 1997 และแสดงทุกบทบาทที่สามารถทำได้จนถึงขนาดที่บางคนเรียกบทของเค้าว่าบทที่ไม่มีนักแสดงอยากแสดงแต่เค้าก็ยังคงทำแบบนั้นจนเริ่มมีบทบาทสำคัญในปี 2005 จากหนังเรื่อง fantastic four และนั้นเองอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการได้มาเล่นในบทนำของกัปตันoเมริกาในปัจจุบันนี้
กล่าวถึงนักแสดงฝ่ายชายไปหลายคนเลยก็ต้องวกกลับมาที่สุดยอดนักแสดงหญิงอย่าง Scarlett Johansson
© Ghost World
จุดเริ่มต้นจากความชอบในเสียงเพลงและการเต้นรำทำให้เธอเริ่มที่จะการเรียนร้องเพลงและเต้นรำอย่างจริงจังซึ่งนั้นไม่เพียงทำให้เธอมีพื้นฐานและวินัยในการฝึกซ้อมเป็นอย่างมากจนกระทั้งเมื่อเธอโตขึ้นเธอก็ยังคงเลือกเดินบนเส้นทางของการเป็นนักแสดงด้วยการเลือกเรียนในโรงเรียนการแสดงและมุ่งมั่นทำสิ่งนี้ให้ดีที่สุดผลงานชิ้นแรกในภาพยนค์ของเธอคือเรื่อง North ตอนที่เธออายุได้เพียงเก้าขวบซึ่งเธอกล่าวว่าตอนที่ได้อยู่ในกองภาพยนต์เธอเข้าใจได้ด้วยบางสิ่งบางอย่างในตัวเธอถึงหน้าที่และสิ่งที่่ต้องทำเป็นอย่างดีและมันยังคงเป็นอย่างนั้นตั้งแต่วันแรกจนกระทั้งเดียวนี้ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ก็คือรางวัลต่าง ๆ มากมายรวมไปถึงการได้เป็นนักแสดงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในปี 2018-2019 เลยทีเดียว
ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีวันนี้ของ Mark Wahlberg
© Fear
เส้นทางของเค้านั้นไม่ได้ชัดเจนเหมือนหลายหลายคนที่กล่าวมาก่อนหน้านี้เพราะตอนที่ยังเด็กเค้าแทบจะไม่สนใจใยดีกับเรื่องราวต่าง ๆเลยก็ว่าได้ถึงขนาดที่ว่าเรียนไม่จบมัธยมต้นด้วยซ้ำแต่เมื่อคนเราเริ่มที่จะเข้าใจและเลือกกลับตัวเค้าก็สามารถเดินกลับมาบนเส้นทางที่สว่างไสวกว่าเดิมด้วยการเริ่มต้นจากการที่พี่ชายเป็นนักร้องและทำให้เค้าเริ่มสนใจและทำเพลงออกมาซึ่งมันก็ดีมากซะด้วยถึงขนาดที่ว่าได้ติดอันดับต้นๆของรายการหลายรายการเลยทีเดียวหลังจากนั้นก็ก้าวเข้าสู่วงการแสดงภาพยนตร์ โดยเริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกใน Renaissance Manและตอนนี้ก็เริ่มที่จะสร้างผลงานในฐานะของผู้อำนวยการผลิตซีรีส์และก็ทำได้ดีซะด้วย
อย่างที่เราได้บอกเพื่อนเพื่อนไปแล้วว่าเวลาคือสิ่งที่เรามีเท่ากัันแต่การนำมันไปใช้ต่างหากที่ทำให้เราได้ผลที่แตกต่างกันดังนั้นวันนี้ถ้าเพื่อนเพื่อนยังไม่เป้าหมายหรือยังไม่ปักหลักลงไปกับเรื่องราวของอะไรก็แล้วแต่พวกเราชาวสัพเพเหระก็อยากเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เพื่อนได้ลองทำในสิ่งที่ต้องให้เต็มที่เพื่อที่ว่าเราก็อาจจะเป็นดาวเด่นอีกดวงหนึ่งในแวดวงที่เราเลือกเดินไปก็ได้นะ แล้วถ้าคุณมีเรื่องราวอยากจะบอกก็ส่งมาให้เราทางเพจของเราได้เลยนะ
เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ
