19 ภาพความทรงจำดีดีกับเรื่องราวแปลกใหม่จากที่เที่ยวตามประเทศต่างๆ

สิ่งหนึ่งที่ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่เราและอีกหลายหลายคนทำหรือแสดงออกโดยอัติโนมัติเลยแบบที่เรียกว่าไม่รู้ตัว เพราะภายในร่างกายของเรานั้นมีสิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนกับโปรแกรมที่ถูกตั้งเอาไว้เมื่อเราทำอะไรบ้างอย่างซ้ำเช่นทางอาหารแบบเดิม หรือการเดินทางแบบเดินในที่เดิม รวมไปถึงกิจวัตรประจำวันหรือสิ่งที่ทำทุกสัปดาห์สิ่งเหล่านั้นมันจะถูกแปลงให้กลายเป็นเหมือนการตั้งกำหนดการไว้ล่วงหน้าทำให้เวลาที่เราตัดสินใจเลือกทำหรือเลือกทานสิ่งเหล่านั้นทันที่ที่มีการถาม อย่างเช่นเวลาที่ไปทานอาหารหากเป็นช่วงที่เร่งรีบหลายๆคนก็จะเลือกเมนูเดิมๆเสมอเพราะมันคิดขึ้นมาเองหรืออาจจะปัดไปให้คนอื่นๆคิดแทนเช่นตอบว่า “เอาอะไรก็ได้” นั้นเพราะร่างกายของเราเวลาที่จะต้องคิดหรือทำสิ่งใหม่ๆนั้นมันจะต้องใช้พลังงานซึ่งมันก็ขัดกับอีกส่วนหนึ่งซึ่งพยายามทำอย่างไรก็ได้ให้มีการใช้พลังงานน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ดังนั้นหากเราอยากที่จะเริ่มต้นคิดอะไรใหม่ๆ สิ่งแรกเลยก็คือลองทำตัวให้แอคทีฟขึ้นก่อนอาจจะออกกำหลังกายเป็นประจำหรือลองออกไปทำอะไรที่ไม่ค่อยได้ทำอย่างเช่นการเดินเล่นถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือรวมไปถึงการลองทานอาหารแบบต่างๆที่ไม่ค่อยได่ทานการพบปะพูดคุยกับคนใหม่ก็เป็นการช่วยเปิดมุมมองและจินตนาการของเราได้ที่กล่าวมาซะขนาดนี้ก็เพราะวันนี้เราได้ไปพบกับภาพสวยๆของเหล่าเพื่อนเพื่อนของเราที่ได้ออกไปลองท่องเที่ยวหรือทานอาหารแล้วอยากจะส่งต่อประสบการณ์ประทับใจเหล่านี้ให้คนอื่นๆได้ชื่นชมด้วยนั้นเอง พวกเราชาวสัพเพเหระได้พบกับภาพและคำบรรยายสั้นๆที่บอกถึงความประทับใจที่ได้มาพบกับสิ่งเหล่านี้ถึงแม้บางอย่างมันอาจจะเป็นสิ่งที่เพื่อนคนอื่นๆได้เคยเห็นมาแล้วแต่การได้มาพบและสัมผัสบรรยากาศจริงก็ทำให้เพื่อนของเราได้อะไรที่แปลกใหม่ต่างไปจากเดิมนั้นเอง และเราก็อยากให้เพื่อนเพื่อนได้เห็นและรับรู้ความรู้สึกเหล่านี้เพื่อว่าสักวันหนึ่ง(หรืออาจจะเป็นวันหยุดยาวใกล้ๆนี้) เพื่อนเพื่อนที่ได้อ่านบทความนี้อาจจะออกไปตามสถานที่เหล่านี้บ้างซึ่งเราเชื่อว่าอย่างน้อยการที่ได้ออกไปทำสิ่งใหม่ก็ทำให้เราได้สนุกกับวันนั้นได้อย่างแน่นอน ในเมืองรอกลอว์ ที่ประเทศโปแลนด์ มีการทำแบบจำลองที่เราสามารถเข้าไปสัมผัสได้ของอาคารที่เป็นโบสถ์หลายแห่งและแม้แต่แม่น้ำก็มีแบบจำลองที่สัมผัสได้ โดยมันจะถูกตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับสถานที่นั้นสิ่งนี้ถูกทำขึ้นเพื่อว่าบางคนที่ไม่สามารถมองได้จะได้ใช้จินตนาการในการสัมผัสเพื่อให้เข้าใจถึงความสวยงามได้ง่ายขึ้นยังไงละ ช่างน่าประทับใจจริงๆเลย © zushini / Reddit ถ้าเพื่อนชอบทานนมต้องลองนี้เลยนมอูฐบางคนทานแล้วบอกว่าหวานหอมแต่ไงเราทานแล้วแยกไม่ออกก็ไม่รู้นะ ถ้าใครมาลองแล้วก็บอกหน่อยแล้วกัน © Mroddfigures / Reddit ที่เมืองโคเปนเฮเกนมีสถานที่ซึ่งพ่อแม่สามารถพาเด็กๆมาเรียนรู้การปั่นจักรยานในถนนจำลองที่การแสดงการจราจรเหมือนของจริงๆเลยทั้งทางม้าลายสัญญาณไฟจราจรและยังมีป้ายบอกทางอื่นๆ © ledigtbrugernavn3 / Reddit สำหรับคนอื่นๆการได้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆถ่ายรูปวิวแบบสดใสแต่สำหรับเราต้องนี้เลย ความแปลกและรสชาติของอาหารนี้แหละที่เราอยากจะเอามาฝากเพื่อนๆอย่างชาบูหม้อนี้ที่มีหมีที่ทำจากน้ำซุปและส่วนผสมต่างๆ ที่พอใส่ในหม้อร้อนๆแล้วค่อยละลายไปช่างน่ารักและน่าทานจริงๆเลย © breezyqueasy / Reddit อาคารที่หลายแห่งที่เราไปมาทำออกมาเป็นรูปทรงต่าง ๆ แต่เราก็เพิ่งเคยเห็นอาคารแบบตะกร้านี้แหละถึงแม้ว่ามันจะทำออกมาเหมือนมากมากและน่าสนใจก็ตาม แต่จากการที่เราอ่านประวัติดูก็จะพบว่าไม่ค่อยมีคนสนใจที่จะอยู่ที่นี้สักเท่าไหร่นัก © iMissMyMsPotato / Reddit มองจากมุมที่เราอยู่เห็นตึกที่สูงตระหง่านเหมือนอยู่ไกลไกล แต่พอลองถามเพื่อนดูกลับกลายเป็นว่ามันคือปล่องควันที่ใช้ในโรงงานอะไรสักอย่างที่ตั้งอยู่ตรงนั้นเอง เออดูไปก็สวยดีเนอะ © slimJoji / Reddit ปรกติเราจะใช้สีแดงแทนป้ายหยุดเพื่อให้สังเกตุได้ง่ายแต่ของที่นี้ใช้เป็นสีน้ำเงิน…

Read More

5 ภาพของดาราคนดังที่เติบโตบนเส้นทางอย่างมุ่งมั่น

สิ่งหนึ่งที่พวกเรามีเท่ากันคือเวลาในหนึ่งวันที่มียี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากันแต่สิ่งที่แตกต่างกันของแต่ละคนก็คือการเลือกใช้เวลาเหล่านั้นให้หมดไปกับสิ่งใดบางคนเลือกที่จะเอาเวลาไปใช้ในการท่องเที่ยวหรือทานอาหารอร่อยๆเพื่อให้ความสุขกับตัวเอง บางคนเลือกที่จะเอาเวลาไปศึกษาหาความรู้เพื่อที่จะใช้ความรู้ที่ได้มานั้นช่วยเหลือและพัฒนาสิ่งต่างๆ และไม่ว่าเพื่อนเพื่อนของเราจะใช้เวลาอย่างไรและเพื่ออะไรพวกเราชาวสัพเพเหระก็คิดว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ดีอย่างแน่นอนเพราะเพื่อนเพื่อนของเราต้องได้คิดแล้วว่าสิ่งที่ได้เลือกทำลงไปนั้นมันต้องมีประโยชน์อะไรสักอย่างกับตัวของเราเองอย่างแน่นอน พวกเราชาวสัพเพเหระเคยได้ยินเรื่องราวและบทความที่สอนเราเกี่ยวกับเรื่องของการทำสิ่งต่างๆให้คุ้มค่าอยู่เสมอเพราะไม่มีใครหยุดวันเวลาได้ และสิ่งต่างๆที่เราทำไปนั้นมันก็จะทิ้งร่องรอยไว้ที่ตัวของเราแต่ละคนเองวันนี้พวกเราเลยอยากจะเอาเรื่องราวของเหล่าดาราคนดังที่ตอนนี้เราได้เห็นผลงานและเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากเลยก็ว่าได้แต่สิ่งหนึ่งที่เราหลายหลายคนอาจจะไม่รู้นั้นก็คือกว่าที่พวกเค้าจะเติบโตมาบนเส้นทางที่สวยงามเหล่านี้ได้นั้นพวกเค้าต้องผ่านสิ่งต่างๆและฝ่าฟันกับสิ่งเหล่านั้นมาในแต่ละวันด้วยความมุ่งมั่น และผลลัพท์ที่ได้พวกเราชาวสัพเพเหระเมื่อได้เห็นแล้วก็ต้องรู้สึกยินดีตามไปด้วยเลยเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในคนดัง คนแรกที่เราขอหยิบยกขึ้นมาคือ Chris Pratt ตอนนี้เค้าอายุได้สี่สิบปีแล้ว © Everwood / The WB Television Network บนเส้นทางสายบันเทิงของเค้านั้นเริ่มต้นจากการเป็นที่รู้จักจากผลงานทางโทรทัศน์ ด้วยบทบาทของ แอนดี ดิวเยอร์ จากเรื่อง Parks and Recreation แต่อันที่จริงแล้วเค้าเริ่มเป็นนักแสดงตั้งแต่หนังสั้น Cursed Part 3 ตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งก่อนหน้านั้นตอนที่เค้ายังไม่เริ่มสนใจในสายอาชีพนี้เค้าเคยเป็นนักกีฬระดับแชมป์มัธยมต้นของรัฐเลยแต่ก็ไม่ได้หันไปเอาดีทางด้านนั้นและใช้ชีวิตตามแบบที่อยากทำมาช่วงหนึ่งจนเริ่มสนใจการแสดงและทุ่มเทให้กับงานจนกระทั้งในปี 2015 ที่ได้รับเลือกให้แสดงเป็นหนึ่งในนักแสดงของ Guardians of the Galaxy ซึ่งทำให้เค้ากลายเป็นดาราแถวหน้าอันดับต้นๆที่หลายหลายคนรักเลยก็ว่าได้ ต้องขอพูดถึง Robert Downey, Jr อย่างแน่นอนเพราะว่าเค้าคืออีกหนึ่งของดาราที่เริ่มต้นจากการมีทุกอย่างและสูญเสียไปแต่ก็สามารถกลับมายืนอยู่ในตำแหน่งของเค้าในตอนนี้ได้อย่างน่าชื่นชม © Back to School ต้องบอกเลยว่าการเริ่มต้นที่มีพร้อมทุกอย่างทำให้เค้าอยู่อย่างไม่คิดอะไรและได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการจนมีหลายครั้งที่เค้าต้องถูกจับและกลับกลายเป็นหนึ่งในคนที่เพื่อนเพื่อนไม่อยากจะคบหาด้วยเลยแต่ท้ายที่สุดเมื่อเค้ายืนหยัดที่จะกลับตัวและมีเพื่อนที่ดีอย่างเมล กิ๊บสัน และภรรยาเป็นคนที่ค่อยให้ทั้งกำลังใจและหนทางในการทำงานซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ปฏิเสธบทเล็กๆที่ได้กลับมาเล่นเลยจนกระทั้งเค้าได้รับบทเป็นไอรอนแมนและกลับมายืนอยู่แถวหน้าของนักแสดงนำได้อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้ ตามมาด้วยชายคนนี้ Chris Evans ที่ต้องบอกว่าหนุ่มหลายคนอยากจะเท่เหมือนเค้าเลยละ…

Read More

15 ภาพสิ่งดีดีที่เกิดขึ้นรอบตัวเราและคงอยู่ร่วมกันได้

ยังมีอีกหลายหลายสิ่งที่เราเองนั้นอาจจะยังไม่เคยพบเห็นหรือบางอย่างก็อาจจะเป็นเรื่องราวที่เราได้ฟังต่อต่อกันมาเท่านั้นเพราะบนโลกที่กว้างใหญ่แห่งนี้มีอะไรมากมายที่เกินกว่าเราจะจินตนาการไปได้ซึ่ง บางครั้งหากได้ฟังมาเราก็อาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องแต่งขึ้นหรือเป็นนิทานขำขำที่เล่าให้ฟังหรืออาจจะเป็นแค่บทความสร้างกำลังใจให้กับใครสักคนก็ได้ แต่เมื่อเรามีกล้องถ่ายภาพติดตัวไปด้วยทุกทีอย่างตอนนี้แล้วสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นก็ถูกถ่ายทอดออกมาให้เราได้พบเห็นกันง่ายขึ้นและวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็ได้ลองเอาภาพเหล่านั้นมาให้เพื่อนเพื่อนได้ชมกันด้วยนะ กับสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเราแต่พอเรื่องบังเอิญเหล่านี้เกิดขึ้นและถูกเก็บภาพถ่ายเอาไว้ได้อีกด้วยก็ยิ่งทำให้เราได้คิดว่าอีกหลายหลายเรื่องที่เราได้ยินมามันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เราคิดไม่ถึงก็เป็นไปได้นะ มาเริ่มกันกับภาพของมิตรตัวน้อยกับเจ้านกฮัมมิ่งเบิรด์ตัวน้อยที่แวะเข้ามาทำความรู้จักและดูจะให้ความสนใจกับโทรศัพท์มือถือของเราอย่างมากเลย © andyman686 / Reddit หลายครั้งที่เราอาจจะได้ยินว่าเราต้องมีกำลังใจเพื่อที่จะก้าวเดินผ่านอุปสรรค์ที่ต้องพบเจอไปให้ได้และก็คงต้องมีตัวอย่างบางเรื่องที่ดูแล้วช่างเหลือจะเชื่อได้แต่ตอนนี้คงไม่ต้องไปไกลตัวแล้วเพราะลองดูต้นมะเขือเทศนี้สิที่มันพยายามเต็มที่ที่จะเติบโตขึ้นมาบนพื้นถนนที่มีเพียงรอยแตกเล็กเท่านั้นเอง © elscotto80 / Reddit ถ้าจะบอกว่าบ้านพักของเราใกล้ชิตกับธรรมชาติมากมากก็คงจะเชื่อยากหน่อยเอาเป็นว่าดูเองก็แล้วกันว่าธรรมชาติระดับที่มีม้าออกมากินหญ้าที่หน้าบ้านของบ้านข้าง ๆ แบบที่ไม่ตื่นคนเลยก็แล้วกันนะ© GalaxyBreadstick / Reddit ตอนเด็กๆเราก็อยากจะออกไปล่องเรือท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ เหมือนในหนังและดูเหมือนเจ้าตัวเล็กนี้ก็คงจะคิดและลองทำสิ่งนี้อยู่แน่นอน © bassmansrc / Reddit เงาร่างที่เห็นเหมือนใีดวงดาวอีกดวงกำลังค่อยปรากฎขึ้นที่ฝั่งตรงข้ามซึ่งอันที่จริงเป็นเงาโค้งของรุ้งกินน้ำที่ปรากฎออกมาได้ประจวบเหมาะกับก้อนเมฆเลยต่างหาก © NewMe / Reddit เพื่อนบ้านใหม่ของเราทั้งน่ารักและเรียบง่ายเพียงแต่กิ่งไม้และกิ่งหญ้าเล็กน้อยก็อยู่ได้แล้วเนอะ © GogoFrenchFry / Reddit เคยเห็นใครต่อใครบอกว่าพืชมีพลังเหลือล้นในการปรับตัวและเติบโตแต่ว่าดอกไม้ที่เติบโตบนดอกไม้อีกดอกแบบนี้ก็เพิ่งเคยเห็นนี้แหละ © Ranch_covered_winky / Reddit ไปซื้อแตงโมที่ตลาดแต่ไม่คิดว่ามันจะได้แตงโมสีเหลืองแบบนี้หรือมันกำลังจะแดง © corgi-and-cat / Reddit ภาพบนคือต้นไม้หลังบ้านของเราที่ล้มลงเมื่อหนึ่งปีก่อน และภาพล่างคือตอนนี้ที่ผ่านมาแล้วหนึ่งปีและมันก็ยังอยู่ได้ซึ่งมีความสวยงามในแบบที่มันเป็น © nerge / Reddit…

Read More

10 ภาพสวยสตรองจาก แองเจลิน่า โจลี่ นับวันก็ยิ่งมีเสนห์

ถ้าจะให้กล่าวถึงดาราหรือนักแสดงหญิงสักหนึ่งคนที่พวกเราคุ้นเคยแล้วละก็พวกเราชาวสัพเพเหระคิดว่าหนึ่งให้รายชื่อที่เพื่อนเพื่อนน่าจะคิดได้ก็ควรจะมีชื่อของเธอคนนนี้ใช้แล้วละเรากำลังจะมากล่าวถึง Angelina Jolie นักแสดงหญิงที่เรียกได้ว่าเป็นไอคอนสไตล์และยังเป็นแบบอย่างของอีกหลายหลายคน หากเราได้ลองติดตามเธอแล้วละก็พวกเราก็น่าจะมองเห็นและมีความเห็นที่ตรงกันอยู่อย่างหนึ่งนั้นก็คือมาดของเธอและความสามารถที่เธอได้ทำการแสดงในบทบาทต่าง ๆ นั้นช่างน่าหลงไหลเปรียบเหมือนกับว่าบทบาทหรือตัวละครที่เธอได้แสดงแทนนั้นถูกเขียนขึ้นจากความเป็นตัวเธอเลยก็ว่าได้ และวันนี้เราชาวสัพเพเหระก็อยากจะบอกถึงความเป็นแฟนตัวยงของเธอสักหน่อยด้วยพาเพื่อนเพื่อนมาย้อนชมภาพน่ารักของเธอคนนี้ในครั้งเก่าจนถึงปัจจุบันให้หายคิดถึงกันบ้างและยังมีประวัติเล็กๆน้อยๆของเธออีกด้วยนะ มาเริ่มด้วยภาพของสาวหวานในตอนท้ายของปี 1990 ที่เธอตัดสินใจลองไว้ทรงผมที่ดูเป็นผู้หญิงมากหน่อย และแแถมด้วยการย้อมผมเป็นสีแดงอีกด้วยและทรงผมนั้นก็มีที่มาจากมาริลีนมอนโรนั้นเอง ซึ่งก็ทำให้เธอกลายเป็นสาวหวานได้ไม่ยากเลยนะ © EVERETT COLLECTION / EAST NEWS และขยับขึ้นมาอีกสักหน่อยกับภาพในสมัยที่ต้องรับบทของนักแสดงที่ดูเป็นเด็ก ซึ่งตอนนั้นเธอไว้ผมสั้นสีน้ำตาลและนั้นคือภาพแรกๆที่เราได้เห็นจากที่เธอได้รับบทเป็นนักแสดงกับหนังของเธอที่ออกฉายในปี 1995 ซึ่งเธอก็น่าจะชอบลุคนี้อยู่พอสมควรเพราะในปี1997 เราก็ยังคงพบกับเธอในลุดผมสั้นนี้อยู่เลยนะ © GP / MPI และขยับขึ้นมาอีกนิดในปี 1999 แองเจลิน่ากับลุคผมบลอนด์ที่ต้องขอชมเลยว่าโดดเด่นไม่แพ้ใครเลยก็ว่าได้ © GP / MPI และในปีต่อมานั้นคือปี 2000 เธอกลับมาสู่ภาพลักษณ์เท่ๆ ที่เราได้เห็นในงานแต่งงานของเธอกับบิลลี่บ็อบ ด้วยลุยสบายๆกับกางเกงยีนส์ และเสื้อยืด และเจ้าบ่าวเองก็ดูสบายๆเช่นกันซึ่งหลังจากนั้นก็จะเห็นเธอกับชุดหนังคู่ใจอีกพักใหญ่เลยก็ว่าได้ © AXELLE แต่ในพิธีออสการ์ของปี 2000 แองเจลินากลับใช้เพียงแต่ชุดดำเข้ารูปที่ดูทะมัดทะแมงและผมดำที่ยาวสลวยก็ดึงดูดความสนใจของผู้รวมงานไปได้แล้ว © EVERETT COLLECTION / EAST NEWS ซึ่งบอกเลยว่าในช่วงปี 1999-2000…

Read More

8 ภาพการ์ตูนที่สะท้อนมุมมองหลังภาพสวยๆจากโซเชียลมีเดีย

เมื่อทุกอย่างถูกย่อให้เล็กลงและรวมเข้ามาอยู่ในอุปกรณ์ที่ใครต่อใครก็สามารถหามาใช้งานได้อีกทั้งยังมีระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแหล่งรวบรวมสิ่งต่าง ๆ อย่างเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นเหมือนอีกหนึ่งสิ่งที่พวกเราแทบทุกคนจะต้องมีและเข้าไปใช้งานเลยก็ว่าได้ หลายหลายคนใช้ช่องทางของโซเชียลมีเดียในการทำงานและหลายคนก็มองหาความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านทางการส่งต่อผ่านสิ่งเหล่านี้และยังมีอีกหลายหลายคนที่ใช้มันเป็นเหมือนสถานที่ที่เอาไว้บอกเล่าเรื่องราวในแต่ละวัน แต่สิ่งที่เรากำลังพยายามถ่ายทอดออกไปอย่างภาพถ่ายหรือเรื่องราวที่จะส่งต่อทั้งหลายเหล่านี้นั้น เมื่อเราเห็นก็ต้องใช้ความคิดของเราเองเพื่อไตร่ตรองเรื่องราวและข้อมูลที่เราได้รับมาด้วยเพราะอันที่จริงแล้วสิ่งที่เราเห็นนั้นมันก็เป็นแต่ภาพถ่ายและข้อความที่ถูกเขียนขึ้นมาซึ่งบ้างครั้งเราจะทำให้มันดูสวยหรูขนาดไหนก็ย่อมที่จะทำได้ วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระได้ไปอ่านบทความของศิลปินท่านหนึ่งที่แสดงอีกด้านหนึ่งซึ่งอยู่หลังภาพสวยหรูที่พวกเราเห็นและพอพวกเราชาวสัพเพเหระได้อ่านก็อินไปกับมุมมองของศิลปินท่านนี้ก็เลยอยากจะนำมาให้เพื่อนเพื่อนได้ชมกันด้วย ถ้าพร้อมแล้วก็ลองไปดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง หลายครั้งที่เราได้เห็นถึงภาพที่แสดงออกมาให้เราได้เห็นว่าใครต่อใครนั้นพยายามที่จะทำสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นแต่อีกด้านเราเองก็เป็นนะที่คิดถึงเรื่องของความสะดวกสบายของตัวเองมาก่อน ยามเมื่อเรานั่งอยู่หน้าคอมหรือกำลังมองดูเรื่องราวต่าง ๆบนโทรศัพท์ทุกสิ่งที่เราไม่รุ้ดุเหมือนเป็นเรื่องน่าสนใจทั้งหมดแต่กลับเรื่องที่เราจำเป็นอย่างการเรียนนั้นกลายเป็นว่าหลายหลายแทบจะไม่สนใจเลย หลายครั้งที่เรามองเห็นภาพถ่ายของเพื่อนเพื่อนที่ดูแล้วเหมือนจะเป็นคู่รักแห่งปีแต่กลายเป็นว่าตอนที่เราไปเที่ยวด้วยกลับเห็นแต่ความไม่ลงรอยกันเพราะแน่นอนว่าคนเรามักนำเสนอแต่ด้านที่ดูดีให้คนอื่นๆ เห็นนั้นเอง สำหรับตัวเลขต่างๆอย่างจำนวนผ้ชมหรือคนติดตามนั้นไม่ได้ช่วยให้เรามีเพื่อนดีดีหรือเพื่อนสนิทในชีวิตจริงเลย ข้อความที่ส่งผ่านมาไม่ได้บอกถึงความรู้สึกจริง ๆ ก่อนหน้านี้ที่เรายังมีแค่เพียงโทรศัพท์ไว้โทรหากันหรือยังต้องส่งจดหมายเพื่อนบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ สำหรับเพื่อนหรือญาติสนิทนั้นล้วนเกิดขึ้นเพราะความรู้สึกคิดถึงและห่วงใยจริง ๆ แต่ทุกวันนี้ที่ทุกอย่างง่ายขึ้นเราสามารถส่งทั้งภาพและเสียงได้ตลอดเวลาแต่กลายเป็นว่าเรากลับรับรู้ถึงความจริงใจได้น้อยลง พวกเราหลายคนเหมือนเป็นคนเปิดเผยเพราะมีรูปภาพของอาหารหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ดูดีตลอดเวลาแต่เรากลับพบว่าหลายคนทำสิ่งเหล่านั้นไปเพื่อให้เพื่อนเพื่อนคนอื่นๆ ได้เห็นทั้งๆที่ไม่ได้ชอบสิ่งเหล่านั้นเลย พวกเรากลับเปิดเผยเรื่องราวต่าง ๆ ออกไปให้คนอื่น ๆ รู้โดยที่เราเองแทบไม่รู้เลยว่าจะมีใครรู้เรื่องราวเหล่านั้นบ้างซึ่งบ้างครั้งมันก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องราววุ่นวุ่นตามเรามาที่หลังได้ เรื่องที่ดูเหมือนง่ายๆสบายๆที่เราเห็นเป็รภาพเหล่านั้นแล้วเบื้องหลังนั้นอาจจะมีอะไรอีกมากมายที่เราไม่รู้และคาดไม่ถึงดังนั้นเวลาที่เราเห็นเพื่อนเพื่อนหรือใครต่อใครทำสิ่งต่าง ๆ แล้วอย่าเพิ่งรีบไปทำตามเลยลองหยุดให้เวลากับตัวเองลองหาความรู้เพิ่มอีกสักหน่อยแล้วค่อยทำมันจะได้ไปได้ดีกว่าอย่างแน่นอน อย่างที่เราบอกเพื่อนเพื่อนไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมีทั้งสองด้านดังนั้นหลังจากที่เราได้เห็นภาพสวยๆที่ดูดีแล้วลองคิดสิ่งที่อาจจะเป็นอีกด้านหนึ่งของสิ่งเหล่านั้นเข้าไปด้วยเพื่อที่ว่าเพื่อนเพื่อนจะได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะได้ลองทำตามเรื่องราวเหล่านั้น และหากเพื่อนเพื่อนยังมีเรื่องราวดีดีแบบนี้อยากจะแนะนำพวกเราก็ส่งเข้ามาในเพจของเราได้เลยนะ ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ

Read More

6 เรื่องที่จะตามมากับอาหารเช้า

ในแต่ละวันของเราเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในแต่ละวันนั้น สิ่งที่พวกเราต้องเติมเข้าไปในร่างกายของเรานั้นก็คืออาหารนั้นเอง แต่ถึงแม้ว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องทานแต่ว่าสิ่งที่เราพบก็คือทุกคนนั้นมีความต้องการอาหารแตกต่างกันไปบางคนชอบทานมากมากบางคนก็ชอบทานน้อยน้อย บางคนชอบทานผักบางคนชอบทานข้าวโดยปรกติแล้วเป็นที่รู้กันว่าเรามีมื้ออาหารสามมื้อที่จะต้องทานนั้นก็คือมื้อเช้า มือเที่ยง และมื้อเย็น และยังมีอีกหลายหลายคนที่เพิ่มทานมื้อดึกหรือมื้อค่ำหรือแม้กระทั้งมื้อของหวานต่าง ๆ อีกด้วย แต่ในทางกลับกันเรากลับพบว่าเพื่อนเพื่อนบางคนของเรานั้นกลับละเลยที่จะทานอาหารมื้อเช้าไปซึ่งหากเป็นแค่บางวันนั้นก็พอจะเข้าใจเพราะมันอาจจะมีธุระหรือเร่งรีบนั้นเองแต่ถ้าเพื่อนเพื่อนละเลยจนเป็นเรื่องปรกติแล้วละก็เราก็ไม่อยากให้เพื่อนเพื่อนทำแบบนั้นเพราะอันที่จริงแล้วเราควรได้รับอาหารให้ครบถ้วน ซึ่งวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยอยากจะเอาเรื่องราวดีดีของการได้ทานอาการเช้ามาฝากเพื่อนเพื่อนกันสักหน่อย มาดูกันสิว่าเราจะมีอะไรดีดีที่เกิดขึ้นกับเราได้บ้าง เริ่มจากการทานอาหารเช้าให้ครบทุกวัน เราต้องทราบกันก่อนเลยว่าร่างกายของเรานั้นปรกติแล้วจะมีสิ่งที่เรียกว่านาฬิกาของร่างกายที่เป็นเหมือนกำหนดการทำงานและสิ่งต่าง ๆ อัตโนมัติเมื่อถึงเวลาของมันอย่างเช่นตอนกลางคืนก็จะมีการซ่อมแซ่มส่วนต่าง ๆ ภายในเป็นและในเวลากลางวันนาฬิกานี้เองก็ยังคงทำงานของมันอย่างต่อเนื่องซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องการสิ่งที่เรียกว่าแหล่งพลังงานและแหล่งทรัพยากรที่จะเอาไปทำสิ่งต่าง ๆ นั้นเองซึ่งแน่นอนว่ามันก็จะได้รับมาจากอาหารที่เราทานเข้าไปนั้นเองดังนั้น เราจึงควรที่จะต้องทานอาหารให้เพียงพอกับความต้องการนั้นเองแล้วทำไมอาหารเช้าถึงเป็นสิ่งที่ใครต่อใครแนะนำให้เราทานเหตุผลก็คือในตอนที่คุณนอนหลับมานั้นร่างกายของคุณก็ได้ใช้อาหารจากช่วงมื้อเย็นไปเรียบร้อยแล้ว เพราะช่วงเวลาหลังจากมื้ออาหารเย็นก็อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงที่เราไม่ได้มีอาหารเข้าไปในร่างกายดังนั้นเพื่อที่คุณจะได้ทำสิ่งต่าง ๆ ต่อไปได้แบบเรียบร้อยคุณก็ควรจะต้องเติมบางสิ่งบางอย่างเข้าไปก่อนนั้นเอง อารมณ์ของคุณจะไม่คงที่ เพื่อนเพื่อนเคยได้ยินคำว่าโมโหหิวกันบ้างไหมนั้นฟังดูเหมือนเรื่องตลกแต่มีอีกหลายหลายคนที่ได้เคยเจอเหตุการณ์นี้มาแล้วว่าการที่ใครสักคนหนึ่งไม่ได้ทานอาหารแล้วจะสามารถพาลไปได้ทุกเรื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเราร่างกายของเรานั้นเมื่อขาดอาหารก็จะไม่สามารถสร้างน้ำตาลที่เป็นพลังงานของร่างกายได้ซึ่งหากเป็นแบบนั้นแล้วระบบของตัวก็จะเริ่มทำบางสิ่งบางอย่างและนั้นเองที่เป็นที่มาของการที่เราจะรู้สึกหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียนั้นเอง ดังนั้นมื้อเช้าจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้คุณอารมณ์ดีด้วยมื้อเช้าดีดีนั้นเอง หลังจากไม่ได้ทานอาหารเช้าแล้วในช่วง 12.00-16.00คุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยและล้า © Depositphotos.com อย่างที่บอกไว้แล้วว่าอาหารเช้าคือแหล่งพลังที่ร่างกายต้องการหลังจากที่ไม่ได้มีอะไรเข้าไป8-12 ชั่วโมง ซึ่งหากคุณยังทำกิจวัฒนต่าง ๆ ของคุณตามปรกติต่อไปแล้วละก็ร่างกายของคุณก็จะหาทางสร้างพลังงานจากสิ่งที่คุณมีนั้นก็คือดึงสิ่งที่สะสมอยู่ออกมาใช้อีกทางหนึ่งก็คือสั่งไปให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนเพื่อลดการใช้พลังงานนั้นเอง ดังนั้นหลายหลายจึงรู้สึกง่วงและเหนื่อยล้าในช่วงตั้งแต่หลังเที่ยงไปนั้นเอง ความคิดของคุณจะเฉียบคมขึ้น © Depositphotos.com มีการแนะนำว่าหากร่างการได้รับอาหารที่เพียงพอในช่วงเวลา 8 ชั่วโมงและสามารถงดอาหารได้ 16 ชั่วโมงหลังจากนั้นจะเป็นช่วงที่ร่างกายของเราสามารถเกิดการทำงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นก็คือการหลีกเลี่ยงอาหารมื้อเย็นหรือการทานหลังช่วง 16.00 จนไปถึงเวลาเช้าอีกวันนั้นเอง ใครที่เคยเวียนหัวลองทานอาหารเช้าให้เป็นเรื่องปรกติสิ © Depositphotos.com…

Read More

5 ภาพกับการแต่งหน้าที่เปลี่ยนลุคแบบสบายๆ

ถ้าเราจะพูดถึงคำที่ว่า ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง ในเพื่อนเพื่อนที่อายุขึ้นเลขสามกันแล้วคงจะต้องเคยได้ยินคำสุภาษิตแบบนี้กันแทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับเด็กๆบางคนก็อาจจะเพิ่งเคยได้ยินกันเป็นครั้งแรก สิ่งที่สุภาษิตนี้บอกเรานั้นก็คือเราต้องรู้จักการดูแลตัวเองในเรื่องของการแต่งตัวนั้นเองเปรียบได้เหมือนกับไก่ที่มีสีสันสวยงามตัวเราเองการแต่งตัวให้ดูดีถูกกาลเทศะก็ย่อมทำให้คนที่พบเจอกับเรานั้นเกิดความรู้สึกดีดีกับเราได้เช่นกัน แต่ทุกวันนี้นอกจากการแต่งตัวที่จะช่วยเราได้แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้เราหล่อสวยแบบที่เรียกว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้นั้นก็คือการแต่งหน้านั้นเองซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะเป็นเรื่องไม่ง่ายสำหรับเพื่อนเพื่อนที่ไม่เคยแต่พวกเราชาวสัพเพเหรพก็ขอบอกไว้เลยว่ามันก็ไม่ยากที่เราจะลองเรียนรู้ซึ่งเราจะเห็นได้จากวีดีโอหรือคลิปสอนแต่งหน้าเบื้องต้นต่าง ๆ ที่เพียงแต่ใช้ของบางอย่างก็ทำให้เราดูดีขึ้นมาได้แล้วละแต่นอกจากสิ่งเหล่านั้นกระแสของการแต่งหน้าก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เพื่อนเพื่อนควรจะให้ความสนใจเพราะสิ่งเหล่านี้นั้นจะช่วยทำให้การแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าของเรานั้นสะดวกและเข้ากันยุคสมัยได้ง่ายขึ้น วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระจึงได้ลองรวบรวมรายละเอียดของการแต่งหน้าเล็กๆน้อยๆมาให้เพื่อนเพื่อนได้อัปเดทกันเพื่อว่าวันหยุดที่จะถึงนี้เพื่อนเพื่อนจะได้ลองสไตล์ใหม่ๆในการแต่งหน้ากันบ้าง เริ่มต้นเบาๆกับสิ่งที่เราเห็นกันเด่นชัดเลยนั้นก็คือลิปสติกนั้นเองกับสีสันที่กำลังมา © Evan Agostini / Invision สำหรับช่วงเวลากลางวันในวันทำงานหรือวันหยุดที่เราอยากจะออกไปพักผ่อนนอกบ้านลิปสติกสีเข้มหลายเฉดอาจจะตัวเลือกของหลายหลายคนเพราะมันทำให้ดูโดดเด่นมากมาก แต่ตอนนี้เราอยากเสนอความใหม่ของการใช้สีสันที่ดูสว่างและเบาสบายลงสักหน่อยด้วยการเลือกใช้ลิปสติกสีอ่อนแต่ยังคงความสดใสอยู่เพราะนั้นจะทำให้คุณดูยิ้มแย้มและสดใสได้ตลอดทั้งวันนั้นเอง ทาลิปขอบปาก © Charles Sykes / Invision / AP / East New ย้อนกลับไปในช่วงหนึ่งการใช้ดินสอเขียนขอบปากเป็นวิธีที่ง่ายมากมากเมื่อต้องการให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบขึ้นที่ใคร ๆ ก็หลงไหลและใช้กัน อย่างไรก็ตามเมื่อวันเวลาผ่านไปตอนนี้ริมฝีที่ได้รับความนิยมนั้นกลายเป็นแบบเรียวสวยที่ใครใครก็สามารถทำได้ง่ายๆเพียงแต่แต่งแต้มสีสันบนเรียวปากให้ดูชุมฉ่ำให้เสมอกันทั้งซ้ายขวาเท่านั้นเอง สโมคกี้อาย © PacificCoastNews / EAST NEWS ตั้งแต่ปี 2010 เทรนด์การแต่งตาที่เป็นที่นิยมมากมาก แต่เดิมใช้เพียงอายแชโดว์สีดำ ต่อมาผู้ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าได้ผสมผสานเฉดสีและกลิตเตอร์อื่น ๆ เข้าด้วยกัน แต่อย่างที่บอกไปแล้วตอนนี้ความเบาสบายที่ดูสดใสคือสิ่งที่เราต้องการดังนั้นอายแชโดว์สีสว่าง และความแวววาวที่มากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่หลายหลายคนใช้นอกจากนี้การเลือกไฮไลท์แบบไล่ระดับจะยิ่งทำให้ดูกลมกลืนมากขึ้น รูปแบบการเขียนขอบตา © Xavier Collin / Image Press Agency…

Read More

7 เรื่องราวน่ารักๆของเพื่อนๆที่สร้างรอยยิ้มได้ตลอดเวลา

สิ่งที่เราทุกคนต้องเผชิญเมื่อเราต้องเกิดมากันแล้วนั้นก็คือการที่เราจะต้องเจ็บหรือป่วยในสักวันหนึ่ง และเราก็ไม่อยากให้เพื่อนเพื่อนของเราต้องเผชิญกับเรื่องเหล่านี้บ่อยนักดังนั้นถ้าหากเป็นไปได้ละก็เราขอให้เพื่อนเพื่อนลองขยับลุกขึ้นมาออกกำลังบ้างสักหน่อย และดูแลตัวมากขึ้นอีกสักนิดอย่างการเลือกทานอาหารที่ดีต่อตัวเองบ้างและที่สำคัญและยังทำได้ง่ายง่ายอีกด้วยนั้นก็คือการดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย ๆ ก็สักวันละ 5 – 6 แก้วเพราะน้ำเปล่านี้แหละที่จะค่อยช่วยให้ร่างกายของเราปรับสมดุลย์และยังช่วยระบายทั้งความร้อนภายในหรืออีกหลายหลายอย่างจากร่างกายให้ออกมากับน้ำที่เราดื่มเข้าไปด้วย แต่ถ้าหากเราไม่สามารถหลีกเหลี่ยงเรื่องการเจ็บหรือป่วยได้แล้วละก็พวกเราก็ยังอยากให้เพื่อนเพื่อนดูแลจิตใจของตัวเองให้ดีดี จำไว้ว่าจิตเป็นนายกายเป็นบ่าวถึงแม้ว่าเราจะเหลี่ยงร่างกายที่เสื่อมสลายไม่ได้แต่เราก็มีจิตใจที่ดีมี่สดใสได้ และด้วยจิตใจที่ดีเหล่านี่นี้เองที่จะพาเราให้ผ่านเรื่องที่เราไม่ชอบและไม่อยากเจอไปได้ และวันนี้เราก็มีเรื่องเล่าสั้นๆจากเพื่อนของเราที่ได้เจอมาตอนที่ต้องเข้าไปให้เหล่าหมอช่วยดูแลนั้นเองซึ่งเพื่อนเพื่อนของเราเหล่านี้ก็ช่างน่ารักและมีกำลังใจเหลือล้นเลยก็ว่าได้ เรื่องทั้งวันยังไหว หลังจากที่น้องของเราต้องเข้ารับการรักษาเป็นเวลานานหลายชั่วโมงซึ่งพวกเราเลือกใช้แค่การทำให้ร่างกายชาบางส่วน ซึ่งนั้นก็คือขาข้างซ้ายเท่านั้น แต่ครอบครัวของเราก็ลุ้นไปกับช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่ผ่านไปอย่างช้าๆ พอน้องของเรามาถึงก็น่าจะสังเกตุเห็นว่าทุกคนยังทำหน้าเป็นห่วงอยู่ เธอเลยบอกดังๆว่า “3ชั่วโมงมันเร็วกว่าที่คิดแต่มันเหมือนไปนอนเล่นอาบแดดเลยนะถ้าแค่นี้ละก็ ทั้งวันยังไหวเลย (ซึ่งเป็นคำพูดของ สตีฟโรเจอร์ส จากหนังเรื่องกัปตันoเมริกา ที่เธอชอบมากมาก)” เท่านั้นแหละทุกคนก็ยิ้มและหัวเราะออกมาเลย บรรยากาศเปลี่ยนไปจนเราลืมไปเลยว่าน้องของเราเพิ่งออกมาจากห้องรักษา เรื่องความหล่อช่วยได้ ตอนที่เพื่อนของเราต้องไปตรวจทางนรีเวช เธอกังวลและไม่กล้าที่จะไปคนเดียวเลยแต่ทันที่ที่เข้าไปในห้องและออกมาหลังจากรับคำปรึกษาแล้ว เราสังเกตุเห็นว่าใบหน้าของเพื่อนเรากลับยิ้มแย้มต่างจากตอนที่เดินเข้าไปอย่างมาก เราเห็นแบบนั้นก็เลยพูดไปว่าเห็นไหมฉันบอกแกแล้วว่าไม่มีอะไรน่าห่วงเชื่อยังละ (แต่เพื่อนของเรากลับตอบมาทำให้เราอึ่งไปเลยว่า) “จริงแกเพราะหมอที่เป็นที่ปรึกษาฉันหล่อมากก” เท่านั้นแหละทุกอย่างก็เปลี่ยนการไปตรวจกลายเป็นสิ่งที่เพื่อนของเรารอค่อยเพื่อที่จะได้ไปพบหมอหล่อ ๆ คนนั้น เรื่องหมดกันฝันดี หลังจากที่เราเพิ่งฟื้นขึ้นจากการเข้าห้องรักษาด้วยฤิทธิ์ของการรักษาทำให้เรายังมึนๆ และเบลอๆเล็กน้อย และทันที่ที่เราลืมตาขึ้นก็เห็นชายหนุ่มน่าตาดีใช่ได้เลยละ กำลังยืนอยู่ข้างเตียงเรา ด้วยความมึนเราก็เลยบอกไปว่า “ที่รักมากอดให้กำลังใจหน่อยสิ” แล้วเราก็ได้ยินเสียงกระแอมจากอีกข้างหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับประโยคที่ว่า “ผมอยู่ทางนี้นะ คนนั้นคือบุรุษพยาบาลต่างหาก” หมดกันฝันดีของวันนี้ เรื่องนางฟ้าของผม ระหว่างที่เรากำลังเล่นฟุตบอลอยู่บังเอิญวันนั้นเราไม่ได้ทานอาหานแค่นมหนึ่งกล่องตั้งแต่ตอนเที่ยงเพราะติดงานและพอมาถึงสนามก็ต้องลงเล่นเลยทำให้เราเป็นลมไป และพอตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่เรามองเห็นก็คือสาวสวยในชุดขาวสองคนกำลังอยู่ใกล้ๆตัวเรา จนเราเผลออุทานออกไปว่า “ผมอยู่บนสวรรค์และคุณคือนางฟ้าใช่ไหม” และทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกอะไรกระทบหัวเบา ๆ…

Read More

9 ภาพจากเพื่อนที่แต่งตัวแบบเดียวกับคนดังแล้วลงตัวมาก

บ่อยครั้งที่พวกเราได้เห็นแฟชั่นบนรันเวย์ หรือที่เหล่าดาราคนดังได้สวมใส่และแน่นอนว่าก็คงต้องมีสักแว็บบางแหละที่เราเองก็อยากจะลองสวมใส่เสื้อผ้าหรือได้ลองแต่งกายแบบนั้นบ้างซึ่งบ้างครั้งเสื้อผ้าบางแบบมันก็มีขนาดที่ไม่พอดีกับที่เราจะสวมใสแล้วทำให้เราดูเหมือนต้นแบบสักเท่าไหร่นัก อันนี้ต้องบอกว่านั้นทำให้เราเองที่ใสชุดเสื้อผ้าเหล่านั้นต้องลุกขึ้นมาวิ่งออกกำลังกายหรือทำให้ร่างกายของเราดูดีเพื่อไปเข้ากับขนาดของชุดเหล่านั้นแทน แต่วันนี้เราได้พบเจอเพื่อนของเราท่านหนึ่งที่ต้องบอกเลยว่าเธอเป็นอีกหนึ่งคนที่นำเรื่องของแฟชั่นการแต่งตัวมาลองปรับให้เข้ากับตัวเองโดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปสรรค์หาสิ่งของแบนด์เนมต่าง ๆ แต่เธอสามารถมองหาสิ่งที่อยู่รอบๆตัวที่เราเองก็เคยเจอและแบบแฟชั่นต่าง ๆ นำมันมาปรับใช้ให้เข้ากันมันก็ทำให้ดูดีขึ้นมาได้เหมือนกันซึ่งต้องบอกเลยว่าในขณะที่เธอได้ทำสิ่งเหล่านี้และส่งต่อมันไปในอินเทอร์เน็ตนั้นมันก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ด้วยตัวอย่างของพวกเขา ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าคนๆ หนึ่งไม่จำเป็นต้องมีรูปร่างแบบนั้นแบบนี้เพื่อที่จะได้สวมใส่สิ่งต่าง ๆ ที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไป พวกเราชาวสัพเพเหระแทบอยากจะวิ่งเข้ากอดเธอเลยเมื่อได้เห็นภาพของ Katie Sturino ที่ได้ส่งมาลงใน IG ซึ่งนั้นได้แสดงให้เห็นว่าใครๆ ก็ใส่เสื้อผ้าได้ทุกขนาดและยังดูเหมือนคนดังได้ วันนี้พวกเราก็ลองเลือกรูปสวยๆ ที่เธอแต่งชุดต่าง ๆ โดยมีแบบมาจากเหล่าคนดังแล้วนำมาปรับกับชุดเสื้อผ้าที่เธอมีหรือบางครั้งก็อาจจะต้องหามาใหม่ แล้วสำหรับบทความนี้ของเราก็อยากให้เพื่อนเพื่อนได้เห็นและอาจจะลองเอาไอเดียความคิดดีดีเหล่านี้ไปปรับใช้กันได้ด้วยนะ สำหรับสาว ๆ ที่ดูอยู่สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะบอกไว้เลยนั้นก็คือชุดที่คุณเลือกมาใส่นั้นหากมีโทนสีที่เข้ากันแล้วมันก็ออกมาดูดีได้ง่ายขึ้นแบบนี้เป็นต้น โดยเราสามารถเลือกแบบที่ต้องการแล้วหาชุดที่มีสีใกล้เคียงกันแบบนี้ก็ทำให้เราดูดีได้แล้วละ © ARTHUR EDWARDS/AFP/East News, © katiesturino / instagram ชุดลายที่หลายหลายคนต้องบอกปัดก็ยังเอามาปรับให้เข้ากันได้เพียงแต่คุณต้องเลือกแบบของเสื้อให้ถูกต้องเท่านั้นเองเพราะทรงของเสื้อที่เหมาะกับเรานั้นมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน © draperjames / instagram, © katiesturino / instagram บางครั้งคุณก็ต้องปรับบางสิ่งบ้างอย่างเพื่อให้ทุกอย่างลงตัวมากขึ้น อย่างเช่นหากคุณเลือกที่จะสวมกระโปร่งที่มีลักษณะแบบนี้การที่คุณเลือกรองเท้าบูทที่สูงขึ้นมาอีกก็จะช่วยเสริมให้ทุกอย่างลงตัวมากขึ้นเป็นต้น © Gotham/GC Images/Getty Images, © katiesturino /…

Read More

8 ภาพน่ารักกับนักแสดงดังและลูกๆที่ได้แสดงภาพยนตร์ร่วมกัน

พื้นฐานและการทำงานต่าง ๆ ของคนใกล้ตัวมักจะทำให้เราได้ซึมซับเรื่องราวเหล่านั้นและนั้นก็อาจจะกลายเป็นที่มาของสิ่งที่คุณได้ทำหรือชอบทำต่อไปและถ้าหากว่าคุณเกิดมาในครอบครัวของนักแสดงแล้วละก็มันก็ย่อมมีแนวโน้มไม่มากก็น้อยแหละที่ว่าคุณจะใช้ชีวิตวัยเด็กไปกับการแสดงและบางครั้งมันก็อาจจะได้ร่วมงานกัน กับพ่อแม่ผู่โด่งดัง ของคุณตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ซึ่งหลายคนที่ได้ลองสัมผัสกับเลนส์ของกล้อง และหลงใหลในความมหัศจรรย์ของโลกแห่งภาพยนตร์ ก็มีซึ่งบ่อยครั้งพวกเขาก็ตัดสินใจเดินตามรอยเท้าของพ่อแม่ จนเติบใหญ่กลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ออกมาสร้างสรรค์ผลงานให้เราได้ชื่นชทมกัน แต่บางคนก็ไม่ได้เส้นทางเหล่านี้เพราะอันที่จริงแล้วความฝันและอาชีพที่เราอยากทำนั้นมันไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนใครที่เราเคยเห็นมาก่อนขอเพียงที่เรารักและทำมันได้ทุกวันอย่างมีความสุขนั้นต่างหากละคือสิ่งที่จะทำให้เราอยู่กับมันได้ทุกวันพร้อมรอยยิ้ม แต่วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็ได้ไปดูภาพยนตร์บางเรื่องที่ได้เห็นเหล่านักแสดงมีชื่อทั้งหลายได้ร่วมเล่นกับทายาทของพวกเขาซึ่งแสดงร่วมกันนี้หากเราไม่ได้อ่านหรือรู้รายชื่อนักแสดงมาก่อนเราก็เชื่อว่ามีเพื่อนอีกหลายคนที่อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน เริ่มต้นกันด้วยนักแสดง รูเมอร์ วิลลิส © Striptease / Warner Bros. picture ย้อนกลับไปในครั้งแรดที่ รูเมอร์ วิลลิสได้รับบทบาทแรกนั้นเธออายุได้เพียง 8 ขวบโดยเธอรับบทเป็นลูกสาวของตัวเอกของเรื่อง (ที่รับบทโดยเดมีมัวร์แม่ของเธอเอง) ในภาพยนตร์เรื่อง Striptease ซึ่งเธอก็แสดงได้ดีที่ได้แสดงและต่อมากับการร่วมงานกันในเรื่อง Hostage © Hostage / Miramax ซึ่งบรูซ วิลลิสเลือกที่จะให้ลูกสาวของเขาเข้ารับการคัดเลือกด้วยการออดิชั่นเองเหมือนกับคนอื่น ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เธอได้แสดงสิ่งที่เธอมีและทำได้ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะเกิดมาในครอบครัวนักแสดงชื่อดัง แต่ความชอบเป็นสิ่งที่เราใส่ให้กันไม่ได้และเมื่อเธอตัดสินใจว่าเธอต้องการแสดงภาพยนตร์เช่นเดียวกับพ่อแม่ แม้ว่าทั้งแม่และพ่อของเธอจะมีหน้าที่และชื่อเสียงในวงการเป็นอย่างดี แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้ให้การดูแลเธอเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์เรื่อง Hostage ในขณะถ่ายทำนักแสดงสาวอายุ 16 ปีเธอก็ยังต้องเริ่มต้นทำหลายหลายอย่างพร้อมกับเหล่านักแสดงคนอื่น ๆ เพื่อให้เข้าถึงความรู้สึกของตัวละครและนั้นก็ทำให้ผลงานออกดีโดยที่ไม่ต้องอาศัยชื่อเสียงของพ่อเลย โดห์นัลล์ กลีสัน และ เบรนดัน กลีสัน…

Read More
Back To Top