ประสบการณ์จากเหล่าผู้สมัครที่ได้งานแล้วแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ
ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องของการทำงานแล้วละก็คงต้องพูดกันยาวแบบที่หลายคนต้องนั่งลงและพูดคุยกันพร้อมกับอาหารหรือของทานเล่นกันเลยเพราะว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เราสามารถพูดคุยกันได้อย่างไม่จบและมีเรื่องให้พูดแทบจะทุกวันที่ไปเลยก็ได้นั่นก็เพราะ พวกเราล้วนต้องทำงานกันอยู่ทุกวันนั่นเองและอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือเรื่องของการเปลี่ยนงานนั่นเองเพื่อนของเราหลายคนอาจจะเปลี่ยนงานเพราะต้องการประสบการณ์แปลกใหม่และหลายคนเปลี่ยนงานเพราะต้องการค่าตอบแทนที่มากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการเปลี่ยนงานก็เพราะว่าคนบางคนนั่นเอง แต่วันนี้เราคงไม่มาพูดเรื่อง ปัญหาเหล่านั้นเพราะว่ามันอาจจะเป็นเรื่องราวที่ยาวเกินไปแต่วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระอยากจะนำประสบการณ์ของเพื่อนเพื่อนบางคนที่ได้งานใหม่แล้วแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจก่อนที่จะเข้าไปทำลองมาดูกันซิว่าอะไรบ้างที่ทำให้พวกเขาสะกิดใจจนต้องขอบอกลาที่ใหม่ก่อนที่จะเข้าไปทำซะอีก พร้อมแล้วก็มาลองฟักันเลยดีกว่านะ ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย ที่ทำงานที่ใหม่พยายามส่งแผนงานต่างๆมาให้เราทำก่อนที่เราจะเข้าไปเริ่มงานหนึ่งเดือน โดยบอกว่าเป็นการเตรียมความพร้อมและการเตรียมตัวในการส่งมอบงานซึ่งตอนแรกเราก็ยังไม่ได้ปฏิเสธอะไร แต่ทันทีที่หัวหน้างานเริ่มโทรมาสั่งงานต่างๆมากมายโดยไม่ได้พูดถึงสิ่งแลกเปลี่ยนที่เราควรจะได้ เราก็แจ้งกลับไปว่าเราเปลี่ยนใจไม่ไปทำงานแล้ว (ขนาดยังไม่ทันเริ่มก็เอาเปรียบกันซะแล้ว) ต้องเสียไปก่อนถึงจะเข้าใจ เราทำงานที่เดิมมาเกือบห้าปีโดยที่แทบไม่มีการขึ้นตำแหน่งและเงินเดือนก็ปรับตามเกณฑ์โดยที่แทบไม่มีอะไรพิเศษเลยทั้งทั้งที่ในช่วงสองปีหลังเราคิดว่าเราทำงานได้ดีขึ้นมาก และเมื่อเราขอสิ่งต่างๆเพิ่มจากหัวหน้ามันก็ไม่มีแม้แต่เสียงตอบกลับเบาเบาซักครั้งเลยจนในที่สุดเราเริ่มมองหาที่ทำงานใหม่และก็ได้ในสิ่งที่เราต้องการ แต่หลังจากเราออกมาแล้วกลายเป็นว่าหัวหน้างานเก่ากลับมายื่นข้อเสนอเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆให้มากกว่าที่ใหม่และพยายามขอร้องให้เรากลับไป ซึ่งเราก็คิดอยู่นานแต่ในที่สุดก็ตอบตกลง ซึ่งนั่นทำให้เราเห็นว่าคนเรามักไม่เห็นค่าจนกว่าจะต้องสูญเสียมันไป มันน่าจะคุยกันได้นะ จากหลายเหตุผลที่เราได้ฟังเพื่อนหลายคนในการขอเปลี่ยนงาน มันก็คงมีทั้งความไม่สบายใจและเรื่องของการทำงานกับคนที่ไม่อยากคุยด้วยแต่มีเพื่อนของเราอยู่คนหนึ่งซึ่งเราแปลกใจมากเพราะที่ทำงานใหม่ของเค้าทั้งดีและให้ค่าตอบแทนสูงแต่หลังจากทำงานได้เพียงอาทิตย์เดียวเค้าก็ออกมา ซึ่งเมื่อเราได้มีโอกาสทานอาหารเย็นด้วยกันก็ไม่พลาดที่จะถามถึงสาเหตุของการกระทำแบบนั้น แต่สิ่งที่เธอตอบกลับมาก็ทำให้เราอึ้งไปเลย เพราะเธอบอกว่าที่ทำงานใหม่ให้เธอนั่งริมหน้าต่างซึ่งมันทำให้เธอถูกแดดส่องในช่วงเย็น ได้ยินแล้วก็อยากจะพูดว่า (แค่นี้คุยกับเค้าก็ได้มั้งไม่ต้องออกมาหรอก) แต่ก็ไม่ได้บอกออกไป งานที่ไม่ตรงทาง 18 ปีที่แล้วตอนนั้นเราได้งานที่แรกที่ธนาคาร หลังจากคุณเรื่องงานของเราอยู่นานคนสัมภาษณ์ก็เอาลิปสติกสีเขียวมาวางตรงหน้าฉัน และขอให้ฉันลองพรีเซนต์เพื่อให้ทุกคนในห้องเพื่อทำให้พวกเค้าอยากได้มัน ซึ่งเราก็คิดและลองทำตามที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการแต่ ถึงแม้จะได้งานนั้นฉันก็ตัดสินใจไม่กลับไปทำงานที่นั่น เนื่องจากลองถามเพื่อนของเพื่อนที่เคยทำงานอยู่ที่นั้นแล้วก็รู้ว่าสิ่งที่ต้องทำมันมากกว่างานในหน้าที่ที่ของเรา เพราะที่พวกเขาทดสอบทักษะการขายนั่นหมายความว่าเค้ามีงานขายอย่างอื่นที่ต้องให้เราทำยอดด้วย ซึ่งเราสมัครในตำแหน่งผู้ดูและระบบบัญชีที่ควรจะให้คำแนะนำเรื่องที่เราถนัดมากกว่างานขายนั่นเอง ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ หลังจากทำงานได้สามปีในหน้าที่ขับรถส่งของเราก็ อยากลองทำอย่างอื่นดูบ้างแต่ก็ยังคงจะทำในสิ่งที่เราถนัดเหมือนเดิมนั้นก็คือ เราลองไปสมัครเป็นพนักงานขับรถให้ผู้บริหาร ซึ่งการทดสอบหลักเรื่องเส้นทางและการดูแลรักษารถคือสิ่งที่เราต้องทดสอบและเราก็ทำได้ดี แต่แล้วเมื่อการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายก็ต้องทำให้เราเปลี่ยนใจ เพราะเขาเริ่มถามว่าเราสามารถเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานของเราเลยอย่างเช่น พูดภาษาที่สองหรือที่สามได้ไหม และเราสามารถจดบันทึกการประชุมได้หรือเปล่าเพราะอาจจะต้องทำในบางครั้ง จนคำถามข้อสุดท้ายนั้นก็คือเราสามารถช่วยงานบางอย่างที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์และโปรแกรมต่าง ๆ ได้ไหม ซึ่งเราก็ตอบไปและสุดท้ายเราก็ได้งานนั้น แต่เราก็ตัดสินใจที่จะไม่ไปทำเพราะแค่ทำงานขับรถนะไม่ใช่เลขาส่วนตัว รอผ่านก่อน หลังจากที่เราได้สัมภาษณ์งานและมีการต่อรองเรื่องค่าตอบแทนที่เราจะได้รับซึ่งทางบริษัทยื่นข้อเสนอว่าจะปรับให้หลังจากที่เราทดสอบการผ่านงานเรียบร้อยแล้ว โชคยังดีที่เรามีเพื่อนที่เคยทำงานจากที่นั่นมาก่อนและเมื่อลองสอบถามดูก็ได้รู้ว่าคำสัญญาที่จะเพิ่มเรื่องค่าตอบแทนนั้นแทบไม่มีใครได้ปรับเลยดังนั้นเราจึงบอกผ่านงานนั้น เพราะนั่นเท่ากับเค้าไม่ยึดมั่นและไม่ซื่อสัตย์กับเราเลย…