สาระน่ารู้

สำหรับคู่รักที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาระยะยาวและคู่แต่งงานหลายๆ คู่ เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกเฉยกับแฟนของเราหรือจะเรียกว่าไม่มีเรื่องเซอร์ไพรส์ก็คงจะได้ ซึ่งบอกได้เลยว่าบางคู่นั้นแค่ผ่านช่วงฮันนีมูนที่เรียกว่าช่วงเวลาแห่งความทรงจำแล้วก็อาจจะไม่มีเรื่องตื่นเต้นเลยก็ว่าได้ จากนั้นจึงตระหนักว่าความสัมพันธ์ในชีวิตจริงนั้นไม่เหมือนกับภาพยนตร์โรแมนติกที่พวกเขาชื่นชอบเลย ในโลกแห่งความเป็นจริง ความสัมพันธ์ไม่ได้เกี่ยวกับประกายไฟที่ฟุ้งกระจาย แต่เป็นเรื่องของการทำให้ไฟลุกโชน ดังนั้นพวกเราชาวสัพเพเหระเลยลองรวบรวมคำแนะนำเรื่องความรักนี้เพื่อช่วยให้คู่รักรู้สึกขอบคุณคนสำคัญของพวกเขาอีกครั้ง 1. ฝึกจูบ 6 วินาที คุณเคยลองจับเวลาดูไหมว่าคุณจูบคู่ของคุณนานแค่ไหน? Dr. John Gottman ผู้ก่อตั้ง Gottman Institute แนะนำให้จูบคนสำคัญของคุณเป็นเวลาอย่างน้อย 6 วินาที แนวคิดพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้คือ 6 วินาทีกระตุ้นให้เกิดการจูบที่มีสติมากขึ้น เมื่อเทียบกับการจิกแก้มเพียงเสี้ยววินาที มันนานพอที่จะเชื่อมต่อกับคนรักของคุณทางร่างกาย แต่ไม่นานเกินไปที่คุณจะพลาดรถเมล์ไปทำงาน นอกจากนี้ยังสร้างความชื่นชมและเพิ่มความรักระหว่างคุณกับคนสำคัญของคุณ 2. รู้จักภาษารักของกันและกัน แนวคิดของห้าภาษารักถูกสร้างขึ้นโดยที่ปรึกษาและศิษยาภิบาล ดร. แกรี แชปแมน โดยสรุปแล้ว นี่คือ 5 วิธีหลักที่เราชอบแสดงความรักของเรา และวิธีที่เราต้องการให้แสดงความรักต่อเราเป็นการตอบแทน เพื่อช่วยให้คู่ของคุณมีความสุข การเรียนรู้วิธีรับความรักที่พวกเขาชอบอาจทำงานได้อย่างมหัศจรรย์ในการทำให้ไฟนั้นลุกโชน ดูว่าคำใดต่อไปนี้ดึงดูดคู่ของคุณมากที่สุด: ของขวัญ การให้บริการ, คำยืนยัน, เวลาที่มีคุณภาพ, สัมผัสทางกาย 3. ใช้รหัสพิเศษที่มีเพียงคุณและคู่ของคุณเท่านั้นที่รู้ นอกเหนือจากการทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ (ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีเสมอ) การมีรหัสพิเศษสามารถช่วยคู่รักในช่วงเวลาที่ไม่สบายใจ การพูดว่า “guacamole” อาจเป็นเรื่องงี่เง่าที่แปลว่า “เราต้องไปแล้ว ไม่ต้องถาม”…

เป็นอีกหนึ่งประเทศเลยนะที่จำนวนผู้อยู่อาศัย และพื้นผิวอาณาเขต อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ระบบราชการ และลักษณะทางภูมิศาสตร์อื่น ๆ ที่เราสามารถค้นหาได้จากข้อมูลบนโลกออนไลน์ เพราะสิ่งนี้คือข้อมูลที่เรามักจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศเมื่อเราศึกษาที่โรงเรียนหรือทำการค้นหาอย่างรวดเร็วในสารานุกรม อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้มีสิ่งที่ทำให้แต่ละประเทศน่าหลงใหล นั่นคือวัฒนธรรม นิสัย และขนบธรรมเนียมของตนเอง สิ่งเหล่านี้มักจะแตกต่างจากของเรามาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราประหลาดใจมากเมื่ออ่านเรื่องราวที่อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระอยากจะมาแนะนำเรื่องราวบางอย่างที่เรารู้จากสถานที่นี้อย่างแท้จริงคือการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของสถานที่นั้น นั่นคือเหตุผลที่วันนี้เราตัดสินใจนำเรื่องราว 14 ประการเกี่ยวกับฟินแลนด์มาให้คุณ ซึ่งคุณแทบจะไม่พบในหนังสือภูมิศาสตร์หรือคู่มือท่องเที่ยว ในตอนท้าย 2 โบนัสพร้อมเซอร์ไพรส์อีกเล็กน้อยรอคุณอยู่ 1. คนที่นี้เขาชอบซาวน่ามากมากดังนั้นจึงมีรูปแบบหลากหลากให้เราเลือก © GoldenShredPony / Reddit เพราะการชาว์นาในบ้าน หรือตามสถานที่ต่าง ๆ นั้นอาจจะไม่แปลกใจอีกต่อไปดังนั้นที่นี้จึงมีการคิดสถานที่ใหม่ๆแม้แต่ติดอยู่กับรถ ชาว Finns มองว่าซาวน่าเป็นนิสัยที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง และพวกเขาสร้างมันในที่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ มีซาวน่ามากกว่า 3 ล้านแห่งทั่วประเทศ — เมื่อพิจารณาว่าประชากรของฟินแลนด์มีเพียงประมาณ 5.5 ล้านคน นี่เป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ มากกว่ากิจกรรม ซาวน่าเป็นพิธีกรรมที่มีอายุนับพันปีและหยั่งรากลึกในวัฒนธรรมฟินแลนด์ คู่รักจะไปก่อนงานแต่งงานเพื่อชำระจิตวิญญาณของพวกเขาและผู้หญิงไปที่นั่นเพื่อคลอดบุตร ปัจจุบัน คาดกันว่าชาวฟินน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ไปซาวน่าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง มันเป็นนิสัยที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างไม่ต้องสงสัย 2. สตรีมีครรภ์ได้รับของขวัญจากรัฐฟินแลนด์…

หนึ่งในความรู้สึกของเรา และการแสดงออกที่หลายคนอยากให้เห็นทุกวันน่ะนั่นก็คือการหัวเราะเพราะนั้นถือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เรารู้ว่าคน ๆ หนึ่งมีความสุขหรือสนุกสนาน การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดยังพิสูจน์ให้เห็นว่าการหัวเราะสามารถช่วยให้เรารู้จักผู้อื่นและตัวเรามากขึ้น สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์โดย นักจิตวิทยาและนักวิจัยที่ศึกษาการหัวเราะมาระยะหนึ่งแล้ว งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการหัวเราะมีอะไรให้ถอดรหัสมากกว่าความสุขของคนๆ หนึ่ง พวกเราชาวสัพเพหระ อยากจะเอาเรื่องราวที่จะบอกเล่าผู้คนหรือดูคนอื่นๆผ่านเสียงหัวเราะได้อย่างไร 1. ตระหนักถึงการหัวเราะที่เกิดขึ้นเองและสมัครใจ การหัวเราะมี 2 ประเภท อย่างแรกคือเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นเองและมีลักษณะพิเศษคือปฏิกิริยาที่ควบคุมไม่ได้ต่อสิ่งที่ทำให้เราหัวเราะ เช่น เรื่องตลกเฮฮา มันสร้างเสียงที่โดดเด่นซึ่งยากที่จะปลอมแปลง ในทางกลับกัน เสียงหัวเราะโดยสมัครใจนั้นเกิดจากเสียงที่จงใจและเป็นเสียงหัวเราะที่คุณสร้างขึ้นเมื่อคุณต้องการโต้ตอบอย่างสุภาพต่อเรื่องตลกง่อยๆ การศึกษาพบว่าการหัวเราะโดยสมัครใจสามารถช่วยให้เราระบุตัวตนของผู้หัวเราะได้ดีขึ้น เนื่องจากเป็นการหัวเราะโดยเจตนาและควบคุม 2. คุณมีแนวโน้มที่จะหัวเราะมากขึ้นหากคุณรู้จักคนที่เล่าเรื่องตลก คุณมีเพื่อนที่เจาะจงหรือนักแสดงตลกคนโปรดที่ทำให้คุณหัวเราะอยู่เสมอหรือไม่? วิทยาศาสตร์กล่าวว่าการหัวเราะเยาะหรือหัวเราะเยาะใครสักคนน่าจะเป็นเพราะความคุ้นเคย เรามักจะพบว่าเรื่องตลกสนุกกว่าหากมีคนที่เรารู้จักเล่าให้ฟัง เช่น เพื่อนหรือนักแสดงตลกชื่อดัง 3. เราหัวเราะมากที่สุดเมื่ออยู่กับเพื่อน Robert Provine นักจิตวิทยาจาก University of Maryland กล่าวว่า เรามีแนวโน้มที่จะหัวเราะเยาะบางสิ่งมากกว่า 30 เท่าเมื่อเรามีส่วนร่วมในการสนทนากับผู้อื่น การศึกษายังพบว่าไม่ใช่เรื่องตลกที่ทำให้เราหัวเราะ แต่เป็นวิธีของเราในการโต้ตอบกับผู้อื่นเพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเราชอบและเข้าใจพวกเขา 4. ความสัมพันธ์ของเรายืนยาวขึ้นเมื่อเราหัวเราะด้วยกัน ในระหว่างการวิจัยที่ทำโดย Bob Levenson นักจิตวิทยาแห่ง UC Berkeley นั้นเขาขอให้คู่รักพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ละเอียดอ่อน เช่น…

พวกเราเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์นำพาความรู้และประสบการณ์ดีดีใหม่ๆมาให้เพื่อนเพื่อนและพวกเราได้เสมอ แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่พอเราได้เห็นสิ่งของต่าง ๆ เหล่านั้นแล้วแต่ก็มองข้ามไปเพราะพวกเราหลายคนก็ไม่รู้ถึงจุดประสงค์ลึกลับที่สร้างเจ้าสิ่งเหล่านี้ออกมานั้นเอง ซึ่งบางคนอาจจะคิดไปว่ามันคือของแต่งบ้านหรือวางโชว์ไว้ก็เป็นได้ หรือบางครั้งอาจจะเป็นอุปกรณ์สุ่มโชว์ที่ไม่ได้ใช้งานจริง ๆ แต่อันที่จริงแล้วกลับกลายเป็นว่ามันคิดสิ่งของที่สามารถใช้งานได้จริงอย่างวันนี้ที่พวกเราได้พบสิ่งของลึกลับหลายอย่างที่อยู่ในครัว มันคงแปลกเมื่อคุณไม่เข้าใจว่ามันมีไว้เพื่ออะไร แต่วันนี้เรามีเพื่อนเพื่อนที่ออกมาเฉลยความลึกลับและ เพื่อนที่พยายามเข้ามาช่วยไขปริศนาเหล่านั้นอยู่มากมายและนั้นทำให้พวกเราได้พบกับคำตอบในที่สุด ซึ่งจริงๆแล้ว บางสิ่งจากการรวบรวมนี้เรื่องราวในครั้งนี้ก็ทำให้เรางงจริงๆว่าจะมีหรือสร้างสิ่งเหล่านี้ไว้ทำไม่ มาเริ่มกันเลยกับ“วัตถุทรงกลมสีเงินที่เปิดออกเผยให้เห็นแผ่นโลหะคงที่ซึ่งมีรูเล็กๆ อยู่ข้างใน” © Lemonfox_ / เรดดิท คำตอบ: “นี่คือจานมัฟฟินแบบอังกฤษ — คุณเติมน้ำร้อนที่ก้นหม้อแล้วตั้งไฟข้างใต้เพื่อให้มันร้อน จากนั้นมัฟฟินจะลอยอยู่ด้านบน และไอน้ำช่วยให้มันร้อนและอร่อย” “รู้ไหมว่าทำไมชามเซรามิกนี้ถึงมีช่อง” มันคงไม่ได้เอาไว้ส่งยิ้มหรอกใช่ไหม © tipstripes / Reddit คำตอบ: “มันคือเครื่องแยกไข่ พวกมันทำงานได้ดีมากหากรูนั้นถูกตัดอย่างถูกต้อง ตอกไข่ทั้งฟองลงในถ้วย/ชาม แล้วคว่ำลงบนภาชนะเพื่อจับไข่ขาวที่ไหลออกมาจากช่อง ไข่แดงถ้าไม่แตกก็จะอยู่ในเครื่องแยกอย่างเรียบร้อย” “พบสิ่งนี้ในกล่องเครื่องครัวที่ร้านขายของมือสอง รู้ไหมว่าวัตถุที่สวยงามแปลกตานี้มีไว้เพื่ออะไร” © tipstripes / Reddit คำตอบ: “นั่นคือที่ไม้ถูสบู่ คุณสามารถใส่สบู่ก้อนแข็ง (หรือเศษสบู่หลายก้อน) ในส่วนกรงแล้วกวัดไปมาในน้ำ ทำให้เกิดน้ำสบู่สำหรับล้างจานและอื่นๆ” “อาจเป็นอุปกรณ์ทำครัว ตะหลิวปลายงอและด้ามพลาสติก ซึ่งพบในเยอรมนี” © antifaintervention /…

เพื่อนเพื่อนน่าจะทราบอยู่แล้วว่ามในแต่ละสถานที่ที่แตกต่างกันนั้นจะมีบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างกันไปอยู่ ซึ่งบางเรื่องก็น่าสนใจและบางเรื่องก็สร้างความประหลาดใจให้เรา และเมื่อเราอยู่ในโลกใบใหญ่ที่มีวัฒนธรรมและการกระทำที่มากมาย เราอาจจะรู้สึกแปลกๆ ในตอนแรก ตัวอย่างเช่น ในไอซ์แลนด์ วันคริสต์มาสอีฟเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนหนังสือและใช้เวลาอ่านหนังสือในมุมสบายๆ กับช็อกโกแลต ในขณะที่เราทุกคนชอบดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ เพื่อดับร้อนในฤดูร้อน ในบางประเทศในเอเชีย น้ำร้อนเกือบตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลกับสภาพอากาศ สิ่งสำคัญคือนิสัยเหล่านี้มีการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ที่มั่นคง วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระ ได้ลองรวบรวมสิ่งดีดีที่เราพบในแต่ละวัฒนธรรมที่น่าสนใจจากทั่วโลกที่ทุกคนสามารถรับไปปฏิบัติได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพและความสุข 1. ข้อแรกกันเลยกับเรื่องราวจากเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เชื่อว่าการแช่ “ออนเซ็น” นั้นดีต่อสุขภาพ ซึ่งเราพบกว่าคนญี่ปุ่นจำนวนมากนั้นมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาวขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้น และนักวิจัยรู้สึกว่าสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้อายุยืนยาวขึ้นก็คือนิสัยชอบอาบน้ำอุ่น ญี่ปุ่นมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติหลายแห่ง และมีโรงแรมและสปาหลายแห่งที่มี “ออนเซ็น” เช่นเดียวกับบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ใช้น้ำจากบ่อน้ำพุร้อน สำหรับผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ การแช่น้ำร้อนที่บ้านถือเป็นเรื่องปกติ และผู้เชี่ยวชาญรู้สึกว่าการอาบน้ำอุ่นช่วยเพิ่มการไหลเวียนและสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้น 2. ในเอเชีย ไม่สวมรองเท้าที่ใช้เดินนอกบ้านมาแล้วเข้ามาในบ้าน ในประเทศแถบเอเชียส่วนใหญ่ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น หรือแม้แต่บางประเทศในยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ รองเท้าด้านนอกจะถูกทิ้งไว้นอกประตู แนวคิดคือการไม่นำเชื้อโรคและสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้ามาในบ้าน ซึ่งเด็กเล็กหรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงอาจติดสิ่งเหล่านั้นได้ มันอาจจะกลายเป็นนิสัยเก่า ๆ ไปแล้ว แต่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลัง บางบ้านอาจวางตู้ไว้ในห้องด้านนอกหรือช่องประตูเพื่อให้ใส่รองเท้าด้านนอกได้ 3. ในอินเดีย โยเกิร์ตจะรับประทานแบบธรรมดาและนำมาทำอาหารด้วย คนทั่วโลกส่วนใหญ่ชอบโยเกิร์ตรสหวานที่มีรสผลไม้และน้ำตาลมากมาย แม้ว่าโยเกิร์ตจะดีต่อสุขภาพ…

เพื่อนเพื่อนน่าจะเคยเจอหลายสิ่งหลายอย่างที่มีคำออกเสียงที่เหมือนกันแต่ใช้ไม่เหมือนกันหรือบางอย่างที่ดูคล้ายกันมากมากอย่างหน้าตาของน้องหมาหลายหลายสายพันธ์เช่นไซบีเรียกับมาลามิว หรือเจ้าหมาท่าทางน่ารักอย่างบลูด็อกนั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราหลายหลายคนหรือส่วนใหญ่เลยที่ไม่ได้คลุกอยู่กับสิ่งเหล่านั้นอย่างจริง ๆ จังก็ยอมที่จะพลาดเรียกผิดหรือใช้คำผิดไปได้ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร แต่วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็ลองรวบรวมเอาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นหรือคำศัพท์ที่คล้ายกันเหล่านั้นมาบอกเพื่อนเพื่อนให้ฟังกันเอาไว้ประดับความรู้กันสนุก ๆในวันหยุดแบบนี้ยังไงละ มาเริ่มจากความน่ารักของเจ้าสุนัขที่หลายคนดูแล้วก็บอกว่ามันคือสิ่งเดียวกันอย่างแน่นอนนั้นก็คือเจ้าหมาไซบีเรียนฮัสกี้กับเจ้ามาลามิวท์ ต้องบอกเลยว่าถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนเราจะต้องคิดว่ามันคือสายพันธ์เดียวกันอย่างแน่นอนแต่อันที่จริงแล้วมันมีส่วนที่แตกต่างอยู่ซึ่งเราสามารถอธิบายได้ดังนี้ไปฟังกันดูเลย ฮัสกี้ นั้นโดยปกติแล้วเจ้าฮัสกี้จะมีขนาดตัวที่เล็กกว่ามาลามิวท์ เพราะพวกเขาเกิดมาเพื่อความเร็วเหมือนนักวิ่งมาราธอน โดยสายพันธุ์นี้มีพื้นเพมาจากไซบีเรีย ส่วนมาลามิวท์นั้นจะโดดเด่นมากมากเลยเพราะโดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดตัวที่ใหญ่มากมากและรวมทั้งมีขนปุยบริเวณไหล่และคอมากกว่า พวกมันสามารถดึงของที่หนักกว่าได้ คล้ายกับนักยกน้ำหนัก จึงนิยมเลี้ยงในแถบที่อากาศเย็นและใช้ช่วยในการลากจูงอีกทั้งนิสัยยังดุกว่าเจ้าฮัสกี้เยอะเลยนะขอบอกถึงหน้าตาจะเป็นมิตรแต่ก็ควรระวังไว้สักหน่อยนะจ้า 2. หลายครั้งที่เราได้ยินคำศัพท์เกี่ยวกับอาการซึ่งพอแปลแล้วก็ต้องงงนั้นคือ Weather = สภาพอากาศกับ Climate ซึ่งก็คือภูมิอากาศ © Depositphotos.com ซึ่งสภาพอากาศนั้นก็คือการบอกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ณ ที่แห่งหนึ่ง ณ เวลาหนึ่งๆ สภาพอากาศแตกต่างกันไปทั่วโลก และการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาเป็นวัน ชั่วโมง หรือแม้แต่นาที ส่วนภูมิอากาศ นั้นจะป็นสภาพอากาศโดยเฉลี่ยในที่นั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าสภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่สภาพภูมิอากาศนั้นก็ต้องใช้เวลาหลายปี บางครั้งอาจถึงหลายพันปีจึงจะประสบกับการเปลี่ยนแปลง 3. ตัวกินมดที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อแต่ไม่เคยพบตัวจริง ๆ ภาพบนนั้นคือตัวกินมดตามชื่อของมันนั้นเอง ตัวกินมด—ปกติพวกมันอาศัยอยู่ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ตัวกินมดมีขนเป็นพวงและมีลิ้นยาวสำหรับกินมดและปลวก แต่พวกมันไม่มีฟัน ส่วนเจ้าตัวล่างนั้นคืออาร์ดวาร์ก ถึงมันจะทานมดเหมือนกันแต่เจ้าอาร์ดวาร์กมักจะตัวใหญ่กว่าตัวกินมด และสามารถเติบโตได้ยาวถึง 4 ฟุต พวกมันอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนาของแอฟริกา พวกมันออกหากินเวลากลางคืน…

ถ้าจะนับขนาดพื้นดินกับพื้นน้ำละก็พวกเราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีทะเลและแม่น้ำมากกว่าพื้นดินอย่างแน่นอน และถ้าเราเปลี่ยนเทียบเรื่องของประชากรละก็ต้องบอกเลยว่าเอเชียนั้นมีประชากรเกือบ 60% ของโลก อีกทั้งทวีปนี้เป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมยุคแรกๆ ของโลก เช่น อารยธรรมเมโสโปเตเมียและอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ ตลอดจนสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่ เช่น ดินปืนและการทำกระดาษ แม้กระทั่งทุกวันนี้ เอเชียไม่เคยหยุดทำให้เราประหลาดใจด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและสังคม ซึ่งสำหรับชาวตะวันตกอาจดูเหมือนบางอย่างในภาพยนตร์ไซไฟแห่งอนาคต พวกเราชาวสัพเพเหระนั้นชอบที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่น่าสนใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ครั้งนี้เราได้จัดทำรายการของสิ่งพิเศษจากเอเชียที่เราหวังว่าเพื่อนเพื่อนจะได้พบเจออะไรใหม่ๆที่เราหามาให้ด้วยกันนะ 1. ความคิดสร้างสรรค์คงทำให้หลายอย่างเปลี่ยนไปรวมทั้งรูปทรงของผลไม้ด้วยอย่างแอปเปิลเหลี่ยมที่ญี่ปุ่น © Depositphotos.com ต้องบอกว่าที่ญี่ปุ่นนั้นมีชื่อเสียงในการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์มากมากเลย ทั้งในแง่ของความเป็นจริงทางโลกของเราหรือการสร้างการ์ตูนก็เช่นเดียวกัน และสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่เราพบก็คือการแปลงผลไม้ธรรมที่เราเห็นให้มีมูลค่ามากกว่าที่หลายคนจะคิดถึงได้อย่างเมล่อนที่เราเห็นกันทั่วไปนั้น บางแห่งในญี่ปุ่นก็สามารถทำให้มันมีราคาเพิ่มสูงเป็นหมื่นเป็นแสนก็มีมาแล้ว และแอปเปิลซึ่งเป็นผลไม้พื้นเมืองมาก ๆ ที่ได้รับการปลูกฝังมานับพันปี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าแอปเปิลทรงสี่เหลี่ยมมีอยู่จริง มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นโดยใช้แม่พิมพ์เพื่อปลูกแอปเปิลให้เป็นผลไม้รูปทรงสี่เหลี่ยม เชื่อกันว่าการปลูกแอปเปิลด้วยวิธีนี้จะป้องกันโรคและแมลงได้ นอกจากจะได้รสชาติที่แปลกใหม่แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือความน่าพึงพอใจในเชิงสุนทรียะและสวยงามอย่างยิ่งในขนมหวานและขนมอบ 2. ที่อื่นๆเค้ามีวันแห่งความรักแต่หนึ่งในเอเซียนั้นมีวันวาเลนไทน์ของคนโสดด้วยนะ © Pexels.com และที่เรากำลังจะบอกนั้นก็คือเกาหลีใต้นั้นเอง ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากอยู่คนเดียวในวันวาเลนไทน์ คุณควรไปเกาหลีใต้ เพราะเค้ามีการเฉลิมฉลองแยกต่างหากที่เรียกว่า Black Day สำหรับผู้ที่เป็นโสดซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายนของทุกปี ในวันนี้ คนโสดชาวเกาหลีจะมารวมตัวกันเพื่อลืมความเหงาและปลอบใจกันเกี่ยวกับการขาดความสัมพันธ์ที่โรแมนติก และรับประทานก๋วยเตี๋ยวถั่วดำที่เรียกว่าจาจังมยอน © Unsplash.com 3. การอาบน้ำและเสริมสวยสุนัขแบบยูนิคที่ญี่ปุ่น ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นจะพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ไปอีกระดับเสมอ…

ถ้าจะบอกว่าบรรดาบุคคลสำคัญหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักกันหน้าประวัติศาสตร์ ต่างต้องมีสิ่งที่สร้างชื่อหรือสร้างปรากฏการณ์บางสิ่งบางอย่างที่น่าจดจำไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเองก็พบว่าเหล่าบรรดาบุคคลที่ได้จารึกหรือเป็นที่รู้จักในประวัติศาสตร์นั้นก็มักจะมีคนกล่าวถึงแต่สุภาพบุรุษซะส่วนใหญ่ แต่อันที่จริงแล้วนอกจากคุณสุภาพบุรุษแล้วนั้นคุณสุภาพสตีรเองที่มีความสามารถและเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกเอาไว้นั้นก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็อยากที่จะนำเอาเรื่องราวดีดีของเหล่าสตีรที่ได้เป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์มาให้เพื่อนเพื่อนได้รู้จักสักหน่อย 1. คนแรกเลยกับอาร์เทมิเซียที่ 1 แห่งคาเรีย ที่ไม่ได้เป็นสางเก่งธรรมดาแต่เป็นสาวแกร่งเลยก็ว่าได้เพราะเธอเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ © Wilhelm von Kaulbach / Wikimedia Commons, © Public Domain Mark 1.0, © 300: Rise of an Empire / Warner Bros. Picture คุณอาร์เตมิเซียที่ 1 แห่งคาเรียนั้นเป็นผู้ปกครองชาวกรีกโบราณที่ กล้าหาญ และเด็ดเดี่ยว ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากบทบาทของเธอในตอนที่กรีกต้องต่อสู้กับเปอร์เซีย ในช่วงที่ถูกกล่าวขานว่ายุทธการซาลามิสใน 480 ปีก่อนคริสต์ศักราช ที่นี่ อาร์เทมิเซีย ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารเรือที่อยู่ฝั่งเปอร์เซียนกับชาวกรีก ในยุคปัจจุบัน ราชินีอาร์เทมิเซียรับบทโดยเอวา กรีนในเรื่อง 300: Rise of an Empire นั้นเอง 2. Sabiha…

สิ่งของต่างๆ ที่ถูกสร้างมานั้นมีอีกมากมายที่เราต่างไม่เคยได้เห็นมาก่อนนั้นก็เพราะมันมีการสร้างสรรค์อยู่ทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้ แต่ตอนนี้ที่โลกแคบลงแล้วทำให้เราสามารถมองหาและซื้อสสิ่งที่ต้องการจากที่ไหนมาก็ได้ หรือบางครั้งมันก็อาจจะมาอยู่ใกล้ตัวเรามากมากดังนั้นหากคุณเคยไปที่ร้านขายของมือสอง คุณจะรู้ว่าคุณสามารถหาพบกับของเก่าที่น่าสับสนมากมาย อย่างไรก็ตาม หากคุณศึกษาเพิ่มเติม อาจกลายเป็นว่าสิ่งเหล่านั้นมีความหมาย และหายาก หรือมีราคาแพง ทั้งนี้ความลึกลับทุกอย่างควรมีคำตอบและผู้คนออนไลน์สามารถช่วยตอบความสงสัยได้ พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยอยากจะรวบรวมเอาภาพของสิ่งของต่าง ๆ ที่อาจจะดูน่าตื่นตาหรือแปลกตาสำหรับพวกเราหลายหลายคนมาให้เพื่อนเพื่อนได้ชมกันนั้นเอง มาชมกันเลยดีกว่า มีใครบอกได้ไหมละว่านี่คืออะไรอยู่หน้าประตูนี้หรือจะไว้กันน้ำท่วม © Squirmble/reddit คำตอบ:มันคือกันน้ำท่วมจริงๆ เป็นเหมือนแนวกั้นน้ำเพราะมีน้ำท่วมเป็นประจำที่ประตูในช่วงฝนตกหนัก ก็เลยทำเป็นแผงกันแบบนี้ไว้ติดตั้งและถอดออกเมื่อหมดหน้าฝน ลองบอกเราหน่อยสิว่าวัตถุรูปร่างคล้ายแผ่นดิสก์ลึกลับที่มีจุดสีรุ้งขึ้นเล็กน้อยทั้งสองด้าน © pally_ford/reddit คำตอบ: นั้นก็คือแผ่น Pyrite Sun (เรียกว่า Dollar หรือ Suns ใช้ในการจำแนกทางเคมีของ Pyrite คือซัลไฟด์) บอกตริงว่าส้มนั้นเรารู้จักแต่เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร และสงสัยว่าทำไมคนถึงเอาส้มเสียบไม้มาวางบนหญ้าข้างถนน © ZeaRiley/reddit คำตอบ: นั้นก็คือในบ้านที่ฟลูกดอกไม้และผลไม้รวมไปถึงต้นไม้อื่นๆ เช่นผลไม้หรือผัก ในช่วงฤดูร้อน ผลไม้จะดึงดูดผึ้งตัวผู้ซึ่งดีต่อดอกไม้ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้ผึ้งมาช่วยดูแลเรื่องการผสมเกษรดอกไม้ไงละ เจออยู่ที่ร้านขายของแต่ไม่รู้จริงๆว่าคืออะไร © kanzarate/reddit คำตอบ: มันเป็นแค่ของเล่นพับได้เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องประดับ เพราะเราใช้มันเป็นของเล่น เพื่อนของเรากำลังพยายามหาคำตอบสำหรับห่วงตามขอบถนนนี้คืออะไร ©…

เพื่อนเพื่อนเคยได้ยินการออกกำลังกายที่ชื่อว่าโยคะมาบ้างหรือเปล่า ถ้ายังไม่เคยละก็เราจะขอแนะนำสักเล็กน้อยว่านั้นก็คือการออกกำลังกายด้วยการขยับร่างกายด้วยการยืดเส้นและปรับสมดุลย์ของร่างกายทุกส่วนโดยเน้นเรื่องการขยับให้ได้พอพอกันทั้งทางด้านซ้ายและขวา ซึ่งข้อดีของมันก็คือจะช่วยทำให้ร่างกายของเรานั้นสมดุลย์และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นยังไงละ ซึ่งกุญแจสำคัญของร่างกายที่แข็งแรงนั้นก็คือความยืดหยุ่นนี้แหละ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการปวดตามจุดต่างๆ อย่างเช่นหลังหรือขาหรือสะโพกแล้วมันยังสามารถลดอาการปวดบางอย่างเช่นปวดประจำเดือนของคุณสาวๆ ได้อีกด้วย และวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็ได้รวบรวมท่าโยคะ 14 ท่าที่จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นในช่วงเวลานั้นของคุณผู้หญิงยังไงละมาลองดูกันเลยดีกว่า ท่าเด็กกางขา ถือเป็นท่าเริ่มบบง่ายๆ เพราะนี่เป็นท่าที่อ่อนโยนกว่าซึ่งเหมาะสำหรับช่วงเวลานั้นของเดือน ท่านี้เราจะกางขากว้างๆ เหมือนกาารวางขาของเด็กๆ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผ่อนคลายสะโพก ต้นขา และหลังส่วนล่างเท่านั้น แต่ยังช่วยให้จิตใจของคุณผ่อนคลายอีกด้วย ท่าทางที่ต้องทำก็เริ่มตามนี้ได้เลย เริ่มต้นด้วยนั่ง (วางมือและหัวเข่ากับพื้น) ปลายเท้าชนกันและขยับเข่าให้กว้างขึ้น จากท่าคุกเข่าอยู่นั้นลงน้ำหนักที่บนสะโพกของคุณจากนั้นค่อยๆ ก้มศีรษะลงกับพื้นแล้วเหยียดแขนออกไปแล้วค้างไว้ ท่าสฟิงซ์ มันคือท่าทางที่จะช่วยยืดหลังของคุณโดยท่าสฟิงซ์นั้นคล้ายกับท่างูนั้นเอง ซึ่งมันดีต่อหลังส่วนล่างอย่างมากกว่า ซึ่งจะค่อยๆ ยืดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังของคุณ และช่วยลดอาการปวดหลังส่วนล่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน มาเริ่มกันเลยโดยเริ่มจากการนอนคว่ำโดยให้ปลายแขนอยู่ใต้หน้าอก จากนั้นกดน้ำหนักลงไปที่ปลายแขนทำเหมือนวิดพื้นโดยค่อยๆยกอกขึ้นแต่ไม่ต้องยกหลังขึ้น โดยให้หลังโค้งและกระดูกเชิงกรานของคุณอยู่บนพื้นหายใจเข้าช้าๆตอนที่ยกตัวขึ้นแล้วค้างไว้ จากนั้นก็ค่อยๆลดระดับลง ท่าอูฐ ท่านี้ให้คุณยืดได้ลึกกว่าท่าก่อนหน้ามาก และสามารถบรรเทาอาการปวดประจำเดือน โดยช่วยยุติการหดรัดตัวที่เจ็บปวด และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังมดลูก มาเริ่มกันเลยเริ่มจากนั่งคุกเข่าโดยแยกเข่าเท่าความกว้างเท่าสะโพก ยกตัวขึ้นตรงลงน้ำหนักที่หน้าแข็งแล้่ววางมือบนหลังของคุณ ค่อยๆเอนตัวไปข้างหลังจนสามารถใช้มือแตะส้นเท้าได้ หากคุณไม่สามารถสัมผัสมันได้ ไม่ต้องกังวล คุณสามารถหยุดระหว่างทาง และยังคงยืดกล้ามเนื้อได้มากแล้ว ท่าพายผลไม้ ท่าพายผลไม้ช่วยเปิดสะโพกของคุณและผ่อนคลายบริเวณอุ้งเชิงกราน จึงสามารถบรรเทาอาการไม่สบายและปวดประจำเดือนได้ค่อนข้างเร็ว มาเริ่มกันเลยโดยเริ่มจากท่านั่งโดยเหยียดขาไปข้างหน้า จากนั้นค่อยๆ งอขาเข้ามาและประสานฝ่าเท้าเข้าด้วยกัน วางมือบนเท้าแล้วปล่อยให้เข่าออกไปด้านข้างจากนั้นก็ขยับเข่าขึ้นลงช้า ๆให้หัวเข่าถึงพื้นเบาๆ ท่ายืดจรดปรายเท้า ท่านี้ช่วยยืดกระดูกสันหลัง ไหล่…