สาระน่ารู้

เรื่องของการดูแลตัวเองกลายมาเป็นเรื่องต้นๆ ที่คนเราหันมาสนใจกันมากในทุกวันนี้เพราะว่าเราต้องเจอกับเรื่องราวของเจ้าตัวปัญหาที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการใช้ชีวิตในแต่ละวันของพวกเราอย่างมากในช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมานั้นเอง ซึ่งก็อาจจะมองเป็นเรื่องดีได้เพราะนั้นก็ทำให้พวกเราหันมาสนใจใส่ใจและเข้าใจในเรื่องของการดูแลตัวเองกันมากขึ้นและแน่นอนที่สุดผลที่ได้มานั้นก็เป็นเรื่องดีดีที่เกิดขึ้นกับตัวของพวกเรานั้นเอง อย่างเช่นการล้างมือทำความสะอาดบ่อยๆ รวมไปถึงการจัดการทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้ในที่สาธารณะรวมไปถึงการรู้จัดสวมหน้ากากเมื่อต้องออกไปนอกบ้าน ซึ่งนอกจากนี้พวกเราหลายหลายคนยังหันมาออกกำลังกายและสนใจทานอาหารในรูปแบบที่เหมาะสม นั้นก็คือไม่ได้ทานมากไปหรือไม่ทานจุกจิกจนเกินไปในแต่ละวันนั้นเอง และแน่นอนว่ามันได้ส่งผลสะท้อนที่ดีมาให้เราอย่างมาก แต่ก็ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของเราเอง วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยเอาเรื่องราว และขั้นตอนง่ายที่เราสามารถทำได้เองเพื่อลองทดสอบดูสิว่าอันที่จริงแล้วสุขภาพของเรานั้นมันยังมีจุดไหนที่ต้องค่อยดูแลเพิ่มกันอีกหรือเปล่านั้นเอง วันนี้เรามีวิธีง่ายๆ หลากหลายที่จะมาให้เพื่อนเพื่อนได้ลองสังเกตุกับตัวเองดูสิว่ามันจะมีอะไรบ้างที่เรายังต้องเติมเข้าไปให้ร่างกายนั้นเอง อยากรู้ไหมละว่าผมของคุณสุขภาพดีขนาดไหน เส้นผมที่มีสุขภาพที่ดีนั้นจะต้องมีทั้งความแข็งแรงและสามารถดูดซับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลผมได้ดีขนาดไหนขั้นตอนง่ายๆเลยนั้นก็คือเตรียมน้ำเปล่าธรรมดาที่เราใช้นี้แหละ แล้วมองหาเส้นผมของคุณสักจำนวนหนึ่งซึ่งมันควรจะเป็นผมทั้งเส้น ไม่ใช่การตัดเอาแค่ส่วนปลายผมเท่านั้นเพราะอันที่จริงแล้วเราต้องการทราบถึงผลจากทั้งเส้นนั้นเอง และการตัดมาแต่เพียงปลายผมก็จะไม่บอกอะไรกับเราเท่าไหร่นัก โดยนำผมที่ได้มาใส่ลงในแก้น้ำรอสัก 5- 10 นาทีสังเกตุว่าผมลอยหรือจมลงมาแค่ไหน นั้นจะเป็นตัวบงบอกว่าผมของคุณมีความสามารถในการซึมซับมากขนาดไหนนั้นเอง โดยผมที่ลอยนั้นคือซึมซับได้น้อยและจมหรือซึมซับได้ดีดังนั้นหากปล่อยนานแล้วก็ยังลอยอยู่คุณอาจจะต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นมากสักหน่อยในการดูแลและอาจจะต้องให้เวลากับการหมักผมมากขึ้นด้วยนั้นเอง ลองดูเส้นแนวนอนที่คอของคุณและผิวที่ลอกเป็นขุย รอยเส้นที่เราเห็นที่คอของเรานั้นอาจจะเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนเพื่อนคิดว่าใครก็ต้องมีกันใช่ไหมละ แต่คุณทราบไหมว่าถ้ารอยที่คอนั้นมีความลึกมากละก็ ทั้งที่คุณก็ไม่ได้น้ำหนักขึ้นสักเท่าไหร่นั้น นั้นอาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณได้รับวิmามิuบางอย่างไม่เพียงพอ อย่างเช่นวิmามิuดี และอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือถ้าหากพบว่าผิวที่บางส่วนลอกเป็นขุยด้วยแล้วละก็การทำงานของงต่อมไทรอยด์ ก็อาจจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นั้นเอง ถ้าคุณเป็นแผลที่ปากและลิ้นของคุณบ่อยๆ © Shutterstock.com เป็นเรื่องปกติมากมากที่เราจะเผลอกัดปากหรือลิ้นของตัวเอง และแน่นอนว่ามันจะต้องมีแผลไปอีกหลายวันเลยแต่ถ้าหากว่า คุณไม่ได้กัดหรือทานอาหารร้อนๆแล้วละก็เจ้าอาการแผลในปากนั้นจะเกิดขึ้นเองได้ในตอนที่เราขาดวิmามิu-บี12 ธาตุเหล็ก หรือโฟเลต ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องขาดมาแล้วจำนวนหนึ่งเลยก็ว่าได้มันถึงได้แสดงอาการเหล่านี้ออกได้นั้นเอง และอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือคุณอาจจะมีอาการเหนื่อยล้า เวียนศีรษะ และเหนื่อยง่ายอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่เราอยากจะแนะนำเลยว่าให้ลองทานอาหารให้ครบหรืออาจจะเปลี่ยนเมนูอาหารที่คุณทานอยู่ให้หลากหลายมากขึ้นนั้นเอง เพื่อที่จะได้รับสารอาหารอื่นๆบ้างยังไงละ ลองดูที่เล็บหากมีจุดขาวบนเล็บของคุณอีกทั้งยังมีผิวที่ลอกเป็นขุ่ยๆด้วยละก็ @ reddit ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณแล้วละก็นั้นหมายความว่าคุณกำลังต้องการการทานอาหารที่มีธาคุเหล็กแคลเซียมและสังกะสีให้มากขึ้นนั้นเอง เพราะส่วนประกอบของเล็บและผิวก็คือสารเหล่านั้น นั้นเองดังนั้นหากคุณพบว่ามีลักษณะดังกล่าวแล้วละก็ลองสำรวจมื้ออาหารของคุณและความหลากหลายที่คุณทานในรอบสัปดาห์หรือในหนึ่งเดือนได้เลยเพราะเราเชื่อว่าคุณน่าจะทานแต่เมนูเดิมๆซ้ำๆซึ่งมันไม่เพียงพอต่อร่างกายนั้นเอง…

พวกเราชาวสัพเพเหระส่วนใหญ่แล้วก็จะมีการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือและยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกมากมายอีกทั้งยังชอบที่จะฟังเรื่องราวความอัจฉริยะของเหล่าบรรดานักคิดและนักออกแบบทั้งหลายที่ต้องบอกเลยว่าทำสิ่งของเครื่องใช้หรือบางครั้งก็สร้างสรรค์วิธีการทำงานหรือขั้นตอนดีดีออกมาให้พวกเราได้ใช้งานกันนั้นเอง แต่ใครจะไปรู้ว่าพวกเราได้พบกับเรื่องราวที่น่าสนใจบางอย่างนั้นเอง เพราะเราได้ไปอ่านเรื่องราวที่ได้บอกให้เราได้ทราบว่าของบางอย่างที่เรามีใช้หรือเรื่องราวบางอย่างที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ แต่เรากลับพบว่ามันได้เคยมีสิ่งเหล่านี้มาแล้วเมื่อในอดีตและบางอย่างมันก็มีมานานแล้วด้วย พวกเราหลายคนที่ได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้แล้วก็ทำให้คิดได้ว่าอันที่จริงแล้วบางสิ่งบางอย่างมันก็ขึ้นกับระยะเวลาและจังหวะเวลาเหมือนกันนะเนี้ยลองไปอ่านกันเลยดีกว่ามีอะไรหรือเรื่องราวแบบไหนที่น่าสนใจกันบ้าง เพื่อนเพื่อนคงรู้จักแนวเพลงแร็พหรืออาจจะชอบและร้องมันได้ด้วยซ้ำไปแต่คุณจะทราบไหมละว่าอันที่จริงแล้วชาวไวกิ้งก็ชอบเพลงแนวนี้เหมือนกันและก็มีการแข่งร้องเพลงแร็พกันมานานแล้วด้วย © Vikings อันที่จริงเหล่าไวกิ้งนั้นให้ความสำคัญกับผู้หญิงและยังดูแลกันอย่างดีแบบที่เราทำกันนี้แหละนอกจากนั้นนอกจากนั้นพวกเขายังมีกิจกรรมบางอย่างที่คล้ายกับการแข่งขันการแร็พด้วย ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้นมันไม่ได้ถูกเรียกว่าการแร็พหรอกนะ แต่ด้วยลักษณะของการแข่งขันที่ใช้บทกวีในการสื่อความหมายของสิ่งที่อยากพูดกับคู่แข่งของตน ซึ่งจะมีการตั้งหัวข้อของกวีดังกล่าวไว้ และทั้งสองฝั่งก็จะต้องใช้ไหวพริบในการกล่าวกวีแก้ทางกันไปมา ฟังดูแล้วทำให้เราคิดถึงการแร็พของสองฝั่งเลยไหมละ เราพบเครื่องมือบางอย่างที่มีรูปแบบการทำงานเป็นระบบเปรียบดั่งเครื่องคอมพิวเตอร์ของชาวกรีกโบราณ © CC BY-SA 3.0 สิ่งที่เพื่อนเพื่อนกำลังมองอยู่ทางด้านขวามือนั้นคืออุปกรณ์ที่สร้างจากชุดเฟืองและแผ่นเกลียวที่สามารถขยับหมุนได้ซึ่งสร้างขึ้นมาประมาณในช่วง 60-205 ปีก่อนคริสต์ศักราช และจากการศึกษาก็คาดว่ามันคืออุปกรณ์ที่ใช้คำนวณการเคลื่อนที่ของดวงดาวและวัตถุทางดาราศาสตร์ต่างๆ ซึ่งมีความแม่นยำเป็นพิเศษ โดยสามารถใช้ทำนายสุริยุปราคาและเหตุการณ์อื่นๆ ของจักรวาลได้ นอกจากนั้นอุปกรณ์ทางด้านหลังยังใช้สำหรับเก็บคะแนนระหว่างการแข่งขันกีฬา รวมทั้งการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณซึ่งพอรวมๆการทำงานเหล่านี้แล้วก็ถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์แอนะล็อกในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ © CC BY-SA 4.0 4. อินเดียในยุคเหล็กมีกล้องโทรทรรศน์และเครื่องปรับอากาศ © PraveenMohan จากบันทึกเรื่องราวบนแผ่นจารึกทำให้เราทราบว่าในศตวรรษที่ 18 ก่อนคริสต์ศักราชนั้นในอินเดียเรื่องของดาราศาสตร์เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากเรียกได้ว่าเด็กๆสนใจและชอบสิ่งนี้มากมายการเล่นสนุกอย่างอื่นเลยก็ว่าได้โดยพวกเค้าต้องไปยังสถานที่ที่ถูกเรียกว่า Jantar Mantars ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เฝ้าดูการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์และนั้นแหละที่เราได้ทราบว่ามีการประดิษฐ์สิ่งที่ใช้งานเหมือนกล้องโทรทรรศน์ไว้ใช้งานเพื่อการเฝ้าดูดวงดาวต่าง ๆ นั้นเองนอกจากนั้นเรายังได้รู้ว่ามีการสร้างห้องปรับอากาศที่จะทำให้คนในห้องรู้สึกเย็นสบายได้เหมือนเรามีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศใช้ในทุกวันนี้นั้นเอง โดยในสมัยนั้นจะสร้างห้องด้วยลักษณะพิเศษพร้อมสระว่ายน้ำซึ่งเรียกว่าบ่อน้ำขั้นบันได เมื่อน้ำระเหยด้วยความร้อนที่เกิดขึ้นก็จะทำให้ทุกอย่างเย็นลงและชุ่มชื้นขึ้น นอกจากนี้ขั้นบันไดสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยใช้บันไดและใช้เป็นสระน้ำธรรมดาในช่วงเวลาที่อากาศไม่ร้อนอีกด้วย เราพบว่าใครๆก็ต้องการที่จะดูดีดังนั้นในสมัยก่อนก็มีการทำการตกแต่งภาพแบบที่เครืองมือในแอปพิเคชั่นอย่าง Photoshopped ทำได้ต้ังแต่อดีตมาแล้ว ©…

เรื่องราวเล็กๆน้อยๆที่เราต้องพบเจอในแต่ละวันนั้นบางเรื่องก็สร้างความลำบากให้กับเราได้บางอย่างมันก็มันยากเลยที่จะแก้ไข แต่บางครั้งเหตุการณ์เฉพาะหน้าบางอย่างที่เกิดขึ้นมานั้นมันก็ทำให้เราต้องวุ่นวายและเสียเวลาไปกับการคิดหรือหาทางแก้ไขสิ่งเหล่านั้น วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยอยากจะนำเอาบทความที่แสดงเรื่องราวต่างๆ เล็กๆน้อยๆที่เราอาจจะต้องเผชิญเข้ากับตัวเองในสักวันหนึ่ง เพื่อที่ในตอนนั้นเราจะสามารถจัดการกับสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายได้นั้นเอง บางครั้งเรื่องราวหรือวิธีการเล็กเล็กน้อยน้อยเหล่านี้ที่เรากำลังจะนำเสนอให้เพื่อนเพื่อนได้อ่านกันนั้นมันก็อาจจะกลายเป็นตัวช่วยดีดีสำหรับเพื่อนเพื่อนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าก็เป็นได้นะ ลองมาอ่านกันดูสักหน่อยก็คงจะไม่ได้ใช้เวลามากมายสักเท่าไหร่นักแล้วเพื่อนเพื่อนจะรู้ว่ามันอาจจะเอาไปใช้งานแก้ไขเรื่องราวอื่นๆ ของเพื่อนเพื่อนได้อีกก็เป็นได้ เรื่องที่หลายคนไม่คาดคิดเลยนั้นก็คือเมื่อเราต้องการกระดาษกาวสองหน้า แต่เรามีแค่กระดาษกาวหรือเทปใสเท่านั้น เราสามารถติดสิ่งที่เรามีให้เป็นวงกลมโดยเอาด้านที่เป็นกาวอยู่ด้านนอกเพื่อให้แทนกระดาษกาวสองหน้าไปก่อนได้นะ สำหรับงานแก้ไขง่ายๆที่ไม่ได้เอาไปยึดจับหรือรับของหนักก็สามารถใช้ได้อย่างสบายเลยละ หลายคนอาจจะเคยเจอโต๊ะหรือเก้าอี้ที่นั่งไปแล้วมันระดับไม่เท่ากันทำให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งและเมื่อออกแรงกดไม่ถูกที่ก็อาจจะทำให้ของที่วางอยู่ตกลงมาได้ บางคนมองหากระดาษกล่องมารองซึ่งก็ใช้งานได้ แต่อันที่จริงของใกล้ตัวอย่างเหรียญนี้แหละที่มั่นคงและแข็งแรงมากพอที่จะรับน้ำหนัก แต่หากว่ามันเอนมากมากแล้วละก็เราแนะนำให้ปรับขนาดของขาให้เท่าด้วยการตัดแต่งใหม่จะดีกว่านะ บางคนอาจจะไม่ชอบเสียงน้ำไหลที่ผ่านจากอ่างล่างจานลงไปยังท่อระบายน้ำ © Fedor Fessor ซึ่งอันที่จริงแล้วมันมีสิ่งที่เรียกว่าฉนวนสำหรับดูดซับเสียงซึ่งเราสามารถหาได้จากร้านอะไหล่ได้ เพียงนำมันมาติดไว้รอบๆเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เสียงเบาลงได้แล้ว เพื่อให้อาหารที่ตักอย่างซุปหรือแกงที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ เย็นลงอย่างรวดเร็วคุณสามารถแช่จานชามที่จะนำมาใช้ในตู้เย็นสักครู่ก่อน และเมื่อนำมาใส่อาหารความเย็นที่มีอยู่จะช่วยลดอุณหภูมิของอาหารได้อย่างดีเลย การวางแปรงสีฟันให้สัมผัสกับพื้นผิวในห้องน้ำมันอาจจะทำให้แปรงสกปรกได้ แต่เพื่อนเพื่อนสามารถใช้คลิปหนีบกระดาษหรือตัวตัวหนีบผ้ามาช่วยได้นะ สำหรับเพื่อนเพื่อนที่มีสายไฟหรือสายเชื่อมต่อต่าง ๆ เยอะและแล้วละก็ลองเอาแกนกระดาษทิชชู่ที่ใช้หมดแล้วมาช่วยในการจัดเก็บสิ © Weekend Content เวลาที่เราลอกสติกเกอร์หรือเทปกาวออกมันจะเหลือคราบกาวเหนียวๆไว้ เพื่อนเพื่อนสามารถใช้เบบี้ออยในการเช็กทำความสะอาดได้เลยนะ ความมันของน้ำมันจะทำให้เช็ดคราบเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย เวลาที่เราแขวนภาพบนกำแพงขอบของกรอบรูปมันอาจจะขูดกำแพงเป็นรอยได้ เพื่อนเพื่อนสามารถใช้กาวยางหยอดตามมุมเพื่อเป็นตัวช่วยในการกันแทกได้นะหรือจะติดขอบยางเล็กๆลงไปก็ยังได้ สำหรับตอนที่เราต้องเดินเข้าออกประตูแบบที่ล็อคด้วยลูกบิดแบบนี้ในตอนที่ต้องยกของทั้งสองมือมันอาจจะเปิดยาก ดังนั้นลองใช้ยางรักไว้แบบนี้กช่วยป้องกันตัวล็อคไว้เพียงเท่านี้ก็เปิดออกได้ง่ายๆ แล้วและอย่าลืมเอายางออกหลังจากยกของเสร็จแล้วด้วยละ เราสามารถใช้แว็กที่เราใช้เคลือบรถมาเคลือบกระจกในห้องน้ำได้นะเพื่อไม่ให้มีไอน้ำหรือหยดน้ำมาเกาะนั้นเอง ผ้าบางชนิดอย่างผ้าไหม ผ้าวูลล์ ผ้าไนลอน ผ้าชีฟอง นั้นหากใช้น้ำที่อุณหภูมิสูงเกินไปจะทำให้ยับง่าย ดังนั้นควรเลือกใช้น้ำที่เย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ นำการเติมน้ำแข็งก็เป็นตัวช่วยง่ายที่เราสามารถทำได้ แต่ถ้าผ้าของคุณหนาเกินไปมันก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่นัก บางอย่างก็ช่วยให้เราผ่านจังหวะที่เร่งรีบมาได้อย่างสวยงามเลยนะ ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย…

งานอดิเรกของหลายหลายคนก็น่าจะเป็นการมองหาสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่อยากจะลองทำเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่นบางคนก็อาจจะชอบจัดงานหรือตกแต่งห้อง หรือบางคนก็อาจจะชอบการออกกำลังกายอย่างการวิ่งหรือปั่นจักรยาน ซึ่งไม่ว่าสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นอะไรก็แล้วแต่มันก็ช่วยสร้างความสุขเล็กๆน้อยๆให้เราได้จากการที่เราได้ลงมือทำสิ่งเหล่านั้นนั้นเอง และวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็อยากจะลองมาแนะนำอีกหนึ่งงานอดิเรกที่ไม่ง่ายและไม่ยากเกินไปที่เพื่อนเพื่อนสามารถลองเริ่มทำได้นั้นเอง และเจ้าสิ่งนั้นก็คือการปลูกต้นไม้นั้นเองเพราะการปลูกต้นไม้นั้นนอกจากจะทำให้บ้านของเราดูมีร่มรื่นมากขึ้นแล้ว การมีต้นไม้ในบ้านยังมีประโยชน์ เช่น การลดความกังวลและเพิ่มความสดให้เราได้อีกด้วยเหมือนกับที่หลายคนบอกว่าเวลาเหนื่อยให้มองออกไปกว้างๆ หรือมองดูของสีเขียวนั้นเอง แต่ถึงแม้ว่าพวกเราหลายคนจะอยากลองปลูกต้นไม้หรือดูแลต้นไม้ในบ้านเป็นงานอดิเรก แต่ก็อาจจะต้องผิดหวังไปเพราะต้นไม้ที่เลือกมานั้นมันจากเราไปอย่างรวดเร็วนั้นเอง วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยอยากจะลองมานำเสนอต้นไม้ที่ปลูกง่ายโตไว้เพื่อให้เพื่อนเพื่อนที่อยากจะลองเป็นนักปลูกต้นไม้มือใหม่ได้เริ่มต้นงานอดิเรกของคุณได้อย่างสวยงาม ไปชมกันเลยว่าจะมีต้นไม้อะไรให้เพื่อนเพื่อนได้ลองปลูกกันบ้างนะ ต้นแรกเลยนั้นก็คือทิลแลนเซีย หรือที่หลายคนบอกว่ามันคือพืชหรือต้นไม้ที่ปลูกง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ เจ้าทิลแลนเซียเป็นหนึ่งในสายพันธ์เดียวกับต้นเคราฤษีนั้นเองเราแแค่หากระถ่างที่เก็บความชื่นได้ดีและอากาศผ่านได้สะดวก โดยวางต้นทิลแลนเซียในที่สว่างและแสงทางอ้อมเท่านั้นไม่ต้องใช้ดินเหมือนพืชอื่นๆ หรือบางคนอาจจะใช้ลูกมะพร้าวแทนกระถ่างก็ยังมีเลยนะ โดยเพื่อนเพื่อนไม่ต้องกังวลเรื่องการให้น้ำเลยเพราะเราสามารถให้น้ำ ทุกๆ 1 ถึง 2 สัปดาห์ ก็ยังได้โดยการนำต้นไม้ของคุณแช่น้ำไว้ 5-10 นาที ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้น้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำฝน/น้ำในบ่อก็ได้ เอาที่คุณสบายใจเลย ซึ่งหากว่าต้นไม้ของคุณได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมแล้วละก็ มันจะออกดอกสวยงามให้คุณได้ชื่นชมเลยและ เมื่อดอกไม้แห้งให้ตัดออกเพียงเท่านี้แหละต้นไม้ของคุณก็จะเติบโตและเบ่งบานต่อไปเรื่อยแล้วเป็นไงละฟังดูง่ายเลยไหม กุหลาบหินอีกหนึ่งต้นไม้ที่ดูแลง่ายสุดๆ จัดเป็นพืชพุ่มที่จะมีการสะสมน้ำไว้ในตัวขอมันเองได้คล้ายต้นกระบองเพชร ใช้พื้นที่ปลูกไม่มากดูแลง่ายสุดๆเพราะแค่ตั้วไว้ไม่ให้โดนแสงแดดจ้าเท่านั้นและให้น้ำด้วยการรดน้ำ 1-2 สัปดาห์โดยไม่ต้องรดมากและรดจากด้านบนลงมาแค่พอให้ดินไม่แห้งจนเกินไปและใช้ฟ๊อกกี้พรมน้ำในส่วนลำต้นสักเล็กน้อยก็พอ ขอควรสังเกตุนั้นก็คทอการตั้งไว้ในห้องแอร์อาจจะทำให้ความชื่นของดินหายไปหรือดินแห้งเกินไปดังนั้นหากเพื่อนเพื่อนเห็นดินแห้งก็ควรจะเติ่มน้ำลงไปสักหน่อยก็เท่านั้นเอง ต้นกระบองเพชรคริสต์มาส © Pixabay.com อีกหนึ่งต้นไม้ที่เรียกว่าแข็งแกร่งและต้องการการดูแลน้อยมากมากเลยนั้นก็คือเจ้าต้นกระบองเพชรนี้แหละและเจ้าต้นกระบองเพชรคริสต์มาสนี้ก็เพียงแค่เลี้ยงในกระถ่างไม่ให้โดยแสงแดดตรง ๆ แค่ว่างไว้ในที่สว่างก็พอ แต่ถ้าคุณต้องการให้ต้นกระบองเพชรคริสต์มาสที่โตเต็มที่บานสะพรั่งในช่วงวันหยุด คุณอาจต้องทำขั้นตอนพิเศษบางอย่างในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เช่น วางไว้ในห้องมืดเป็นเวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง หรือวันหนึ่งหลังจากนั้นเมื่อออกจากห้องคุณจะเริ่มพบว่าเจ้าต้นกระบองเพชรของคุณก็พร้อมจะแสดงดอกสวยๆ แล้ว กาแฟอาราบิก้า © Depositphotos.com สำหรับคนชอบทานกาแฟด้วยแล้วละก็การได้ลองปลูกเจ้าต้นกาแฟไว้ในบ้านก็น่าจะดีเหมือนกันนะนอกจากนั้นมันยังปลูกง่ายกว่าที่หลายคนคาดอีกด้วยเพราะแค่ว่างไว้ใกล้หน้าต่างที่มีมู่ลี่หรือม่านบังตาไม่ให้โดนแสงแดดแรงๆ  รดน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง…

ทุกวันนี้มีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่มันเป็นความรู้รอบตัวแบบว่ารอบตัวเราจริง ๆ เลยนะเพราะมันมีเรื่องเล็กน้อยอย่างเช่นการสวมเสื้อสีต่าง ๆ มีผลอย่างไรเมื่อเราต้องออกไปเที่ยวนอกบ้าน หรือบางเรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่แบบเรื่องการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอะไรประมาณนั้น แต่สิ่งที่เราจะบอกนั้นก็คือที่พวกเราสามารถรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้นั้นก็เพราะว่าเรามีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทำให้เราสามารถสร้างหรือสิ่งต่อความรู้เหล่านี้ไปให้เพื่อนเพื่อนคนอื่นๆของเราได้ชมกันแม้พวกเราจะอยู่คนละซีกโลกก็ตาม และวันนี้พวกเราก็เลยได้ลองรวบรวมเรื่องราวบางอย่างที่น่าจะเป็นส่วนช่วยให้เพื่อนเพื่อนได้ลองอ่านแล้วจดจำไว้ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องราวเหล่านี้บ้างยังไงละ ยุงสามารถรับรู้เรื่องสีได้ ก่อนหน้านี้เราทราบกับว่ายุงนั้นจะเข้าหากลุ่มคนที่ปล่อยปริมาณคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ออกมามากกว่า ซึ่งไม่ได้คิดถึงองค์ประกอบส่วนอื่นเลย แต่จากการทดสอบแล้วเราก็ได้ข้อมูลใหม่เพิ่มและเมื่อตรวจสอบแล้วก็ทำให้เราได้พบกับเรื่องราวเหล่านี้ว่าเป็นไปได้ว่าแมลงตัวเล็ก ๆ เหล่านี้นั้น มักชอบสีเข้มอีกด้วย โดยพบว่าสีดำดึงดูดยุงได้มากกว่าสีขาว และการศึกษาเดียวกันนี้ยังบอกว่าแมลงเหล่านี้ถูกความร้อนดึงดูดได้ดีกว่าด้วย นั้นก็เพราะสีเข้มดูดซับความร้อนแสงมากกว่าสีที่สว่างนั้นเอง หากครั้งหน้าคุณต้องออกไปนอกบ้านหรือเดินในสวนยามค่ำแล้วละก็เราก็อยากให้คุณเลือกชุดสีอ่อนสักหน่อยจะได้ ไม่เป็นจุดสนใจจากเหล่าแมลงไงละ ถ้าคุณฝันร้ายหรือรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับหรือหลับไม่สนิทแล้วละก็ลองสังเกตุดูว่า เพื่อนเพื่อนทราบหรือไม่ว่าพวกเรานั้นต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารอย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมงทีเดียวเชียวนะ และระหว่างที่ร่างกายกำลังย่อยอาหารนั้นเราจะยังรู้สึกตื่นตัวอยู่นั้น ดังนั้นการที่คุณทานอาหารในช่วงก่อนนอนไม่นานจะทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท หรือบางคร้ังอาจจะทำให้คุณฝันร้ายก็ได้ โทรศัพท์ที่เราใช้งานกันอยู่เป็นประจำนั้นมันอาจจะมีสิ่งสกปรกกว่าในห้องน้ำซะอีกนะ © Reddit ที่เราบอกแบบนั้นก็เพราะว่าตามปกตินั้นพวกเราแทบจะไม่เคยดูแลทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือของพวกเราเลยดังนั้นลองคิดดูสิ เราเอาโทรศัพท์ไปวางตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนนับไม่ถ้วนแล้วแบบนั้นมันจะมีอะไรบ้างละที่จะอยู่บนโทรศัพท์ที่เรามองไม่เห็นบ้าง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้พวกเราก็ควรที่จะเช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์ของพวกเราบ้างอย่างน้อยสองถึงสามวันครั้งก็ยังดีนะ ต้นไม้เชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายใต้ดิน © depositphotos.com ต้นไม้อาจมีอะไรมากกว่าที่คิด เชื่อกันว่ารากของพวกมันเชื่อมโยงถึงกันใต้ดินในรูปแบบเครือข่ายขนาดมหึมาที่สามารถเปรียบเทียบได้กับระบบประสาทของมนุษย์ ตามที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า เครือข่ายนี้อนุญาตให้มีการสื่อสารระหว่างต้นไม้ซึ่งช่วยให้มีพฤติกรรม การป้องกัน การเรียนรู้ และความจำ ร่างกายของเรามีจุลินทรีย์มากกว่าเซลล์ของมนุษย์ ความจริงที่ว่าเราประกอบด้วยจุลินทรีย์หลายล้านล้านตัวอาจทำให้บางคนตกใจ ในความจริงแต่ละเซลล์ของมนุษย์จะมีจุลินทรีย์ 10 ตัว อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลเพราะสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้ช่วยการทำงานของร่างกายของเรา…

ความสวยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พวกเราเหล่าสาวสาวทั้งหลายค้นหาอยากจะได้มาเป็นของตัวเองเสมอ เรียกได้ว่าจะยังไงเราก็อยากที่จะดูดีเอาไว้ก่อนเลยนั้นเอง ซึ่งตอนนี้ก็มีเทคโนโลยีหลากหลายมากมากเลยที่สามารถจะมาช่วยทำให้พวกเรานั้นดูดีได้อย่างมากมาย ทั้งปรับส่วนที่ไม่ชอบให้หายไปหรือทำสิ่งที่เป็นส่วนเกินให้หมดไป หรือแม้แต่สร้างสิ่งที่เราไม่มีให้กลับมีเพิ่มขึ้นก็ยังได้ แต่บางคนก็อาจจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นนั้นเอง และเหล่าสาวๆส่วนใหญ่ที่พอใจกับสิ่งที่มีที่เป็นแล้วก็ตามก็ยังมีอีกอย่างที่ไม่อยากที่จะให้มันเกิดขึ้นเลยนั้นก็คือ การที่ดูแก่นั้นเอง ซึ่งวันนี้พวกเราก็มีสิ่งที่เรียกว่าเคล็ดลับจากเพื่อนชาวญี่ปุ่นมาบอกทุกคนเกี่ยวกับ ประโยชน์ของบางสิ่งบางอย่างที่พวกเรามีใช้กันแทบทุกบ้านแต่ก็มองข้ามไป อย่างน้ำซาวข้าวนั่นเอง มาลองดูกันเลยดีกว่าว่ามันสามารถมีประโยชน์อย่างไรได้บ้างและเข้าใช้งานกันยังไงนะ อย่างแรกเลยนั้นก็คือมันช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัยได้นะเออ เพื่อนเพื่อนทราบไหมละว่าสิ่งที่พวกเราฮิตทานกันอย่างเจ้าคอลลาเจนนั้นมันมีอยู่ในน้ำซาวข้าวด้วยนะ ดังนั้นการใช้น้ำข้าวมาช่วยทำความสะอาดหน้านั้น จึงมีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ เนื่องจากน้ำซาวข้าวจะเข้าไปช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนของคุณ อีกทั้งช่วยให้ผิวอวบอิ่มและอ่อนเยาว์นานขึ้น นอกจากนี้น้ำข้าวยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยต้านสิ่งไม่ดีอีกหลาอย่างซึ่งเป็นเครื่องมือจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการช่วยชลอการเกิดและลด พวกร่องรอยก่อนวัยได้ยังไงละ เป็นครีมกันแดดง่ายๆจากธรรมชาติเลยนะ © Depositphotos.com ถ้าลองสังเกตุดูก็จะพบว่าน้ำที่เราซาวข้าวนั้นมันจะมีความเย็นกว่าน้ำปกติเล็กน้อย ดังนั้นเมื่อทาลงบนผิวจะช่วยบรรเทาบรรเทา ความรู้สึกจากการโดนแดดร้อนๆได้ และช่วยบันเท่าอาการระคายเคืองได้ด้วย เนื่องจากองค์ประกอบที่พบในข้าวนั้นได้รับการตรวจสอบแล้วว่ามันมีความสามารถในการเคลือบและยังช่วยกันแสงแดดได้ ซึ่งแสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการทำให้เกิดร่องรอบบนหน้าเราได้ยังไงละ ดังนั้นการใช้น้ำข้าวเป็นวิธีที่ง่ายใกล้ตัวเราอีกด้วย ซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย © Depositphotos.com อย่างที่บอกไปแล้วว่าในเมล็ดข้าวนั้นมีส่วนประกอบที่ดีดีอยู่มากมายดังนั้นเมื่อเราล้างทำความสะอาดจึงผสมออกมากับน้ำซาวข้าวนั้นเอง ซึ่งนั้นทำให้การนำน้ำซาวข้าวกลับมาใช้ทำความสะอาดใบหน้าเจ้าสิ่งเหล่านั้นนั้นแหละที่กลับมาช่วยดูแลเราได้ยังไงละ ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวที่เข้มขึ้นได้ © Depositphotos.com และเพราะมันช่วยเคลือบจากการได้รับแสงแดดนั้นเองมันจึงมีส่วนช่วยลดการที่เจ้าเม็ดสีบนร่างกายเรานั้นจะลดการสร้างสีที่เข้มขึ้นจากการโดนแดดได้ด้วยนั้นเอง ควบคุมความมันได้ดี  © Depositphotos.com อันนี้ต้องบอกเลยว่าน้ำมันธรรมชาตินั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพผิวของเราอย่างมากแต่มีมากไปก็ไม่ควรมันต้องมีแบบพอดีพอดียังไงละ เพราะเจ้าสิ่งนี้แหละที่ทำให้ชุ่มชื้นนั้นเองดังนั้นแล้วหากเพื่อนเพื่อนเลือกใช้ส่วนผสมของที่ล้างหน้าแบบที่ขจัดเจ้าน้ำมันธรรมชาตินี้มากไปมันก็เลยทำให้เราเสียความชุ่มชื้นไปด้วยนั้นเอง แต่การใช้น้ำซาวข้าวล้างทำความสะอาดนั้นมันล้างออกไปเพียงบางส่วนเท่านั้นจึงทำให้ไม่เกิดความแห้งจนเกินไปนั้นแหละ โบนัส: วิธีทำน้ำซาวข้าวแบบเข้มๆไว้ใช้เอง  © Shutterstock.com เป็นเพื่อนนำเข้ามาซักหนึ่งกำมือคัดเอาเฉพาะเมล็ดข้าวนะพวกหินหรือเปลือกสามค่าต่างๆหรือสิ่งสกปรกอื่นๆที่เจือปนมาก็ให้ค่อยคัดออก แล้วล้างข้าวด้วยน้ำ 2-3 ถ้วยปล่อยไว้ที่อุณหภูมิห้องนานถึง 48 ชั่วโมงคนข้าวและกรองน้ำ…

สำหรับเพื่อนเพื่อนที่ไม่ชอบการออกไปเที่ยวนอกบ้าน แต่ก็ยังอยากจะอยู่กับธรรมชาติสีเขียวแล้วละก็การได้ปลูกต้นไม้เอาไว้ในบ้านน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างหนึ่งที่สามารถทำได้เองเลย โดยเราอาจจะเลือกต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายและเติบโตได้ดีในพื้นที่ของเรา แต่ใครละจะสามารถบอกพวกเราได้ว่าต้นไม้แบบไหนที่เหมาะกับบ้านของเรา เพราะถ้าคิดต่กจำนวนชนิดของพืชหรือต้นไม้ที่มีอยู่ประมาณ 450,000 สายพันธุ์แล้วเราจะเลือกแบบไหนกันดีละ วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยลองคัดเลือกต้นไม้ที่ทั้งปลูกง่ายและมีประโยชน์มาให้เป็นข้อมูลกับเพื่อนเพื่อนที่อยากจะลองปลูกต้นไม้ดูซักหน่อย ต้นแปะก๊วย (biloba ginkgo) © Reddit หลายคนคงเคยได้ยินและได้ฟังมาแล้วว่าเจ้าแปะก๊วย หรือ biloba เป็นวัตถุดิบของอาหารหรือวัตถุดิบของเครื่องดื่มที่ช่วยให้เราได้รับความสดชื่นสดใสเมื่อได้รับประทานนั้นเอง แต่เพื่อนเพื่อนอาจจะไม่ทราบว่าเจ้าแปะก๊วยนี้เป็นต้นไม้ที่มีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง โดยใบมีลักษณะสีเขียวอ่อนและจะเขียวเข้มเมื่อใบแก่ ใบเริ่มแตกออกมาในตอนปลายฤดูใบไม้ผลิ ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลืองในราวเดือนตุลาคมหรือขึ้นอยู่กับความเย็นของสถานที่ที่ปลูก ต้นแป๊ะก๊วยเป็นไม้ที่ไม่ค่อยมีแมลงมารบกวนนอกจากนั้นยังสามารถทนต่อแสงแดดได้อีกด้วยจึงสามารถปลูกกลางแจ้งก็ได้ หรือในที่ที่ถูกแสงแดดจะทำให้เติบโตดีกว่าในร่มเงา ดอกคาโมไมล์สวยและยังนำมาทานได้ด้วยนะ © Unsplash.com ซึ่งเราจะพบมากที่สุดในการนำมาทำเป็นชาสำหรับดื่มนั้นเอง ซึ่งประโยชน์ที่เราได้รับนั้นก็มีหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น ช่วยเรื่องการนอนหลับ และยังดีสำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำตาลหรือของหวานอีกด้วย หรือจะนำมาทำการอบแห้งแล้วใช้เป็นเครื่องหอมก็ได้ ซึ่งคุณปลูกมันง่ายมากมากเลยด้วยการโรยเมล็ดของมันไว้แล้ว ฉีดละอองน้ำเบาๆแทนการรดน้ำอย่าให้โดนแสงมากนักหรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ และควรเริ่มปลูกในช่วงที่อากาศเย็นจะทำให้เติบโตได้ดีกว่าและเมื่อต้นกล้ามีความสูงประมาณ 1 – 2 นิ้วควรแยกกระถ่างออกมาเพื่อให้ต้นของมันขยายและเติบโตมากขึ้นอีกนั้นเอง เอ็กไคนาเซีย (Echinacea) © Reddit ปลูกไว้ใกล้ระเบียงห้องนอนจะทำให้คุณหลับสบายมากขึ้นเพราะกลิ่นของมันช่วยคลายความกังวลได้ดี โดยเพื่อนเพื่อนอาจจะต้องเตรียมดินที่ร่วนซุยสักหน่อย และโรยเมล็ดของมันลงไปบนดินก่อนจะกลบให้เรียบร้อยแต่ไม่ต้องสูงมากนัก และเมื่อพ่นละอองน้ำก็ควรจะนำออกมารับแสงแดดสักครู่ ก่อนจะนำกลับเข้าไปในที่ร่วม เมื่อต้นอ่อนงอกออกมาก็สามารถแยกกระถ่างออกมาดูแลต่างหากได้แล้ว ดอกเบญจมาศ (Feverflower) © Reddit ต้องบอกเลยว่าหลายคนอาจจะเข้าใจผิดได้ว่ามันเป็นดอกไม้ชนิดอื่น…

เพื่อนเพื่อนเคยสังเกตุกันบ้างไหมละว่าบางครั้งคนที่เค้าทำอะไรบางอย่างได้ดีหรือทำบางสิ่งได้เยี่ยมนั้นเค้าก็ดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไปนี้แหละ เพียงแต่ว่าคนเหล่านี้จะมีอะรบางอย่างที่เฉียบคมหรืออาจจะเป็นลักษณะที่แสดงออกบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากคนทั่วไป ซึ่งบางครั้งการแสดงออกถึงเรื่องเหล่านี้บ่อย ๆ มันก็อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเราหรือพวกเค้าเหล่านั้นเป็นคนฉลาดก็เป็นได้นะ อ้อความฉลาดในที่นี้ของพวกเราชาวสัพเพเหระไม่ได้หมายถึงทำข้อสอบได้คะแนนดีดีหรือ พูดได้หลายภาษานะเพราะมันยังมีความฉลาดอื่นๆอีกด้วยนะ อย่างบางคนฉลาดในการแก้ไขปัญหา หรือฉลาดในการใช้คำพูดสามารถเจรจาต่อรองหรือปลอยใจให้กำลังใจผู้อื่นได้ หรือแม้กระทั้งการทำอาหารและสามารถจินตนาการถึงผลลัพท์ก่อนที่จะออกมาชิมก็ถือได้ว่าเป็นความฉลาดอีกอย่างหนึ่งนะ เกริ่นกันมามากพอละ ตอนนี้พวกเราไปลองชมเรื่องราวและข้อสังเหตุที่เราหามาเลยดีกว่าว่าอันที่จริงมันจะสามารถบอกให้เรารู้ได้ขนาดไหนกันนะว่าคนที่อยู่ข้างๆเราหรือตัวเรานี้แหละที่จะเป็นหนึ่งในเหล่าคนที่ฉลาดเหล่านั้น รู้สึกอยากที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่ทำอยู่ อย่างที่เราบอกแบบนี้ก็เพราะคนฉลาดนั้นมักจะมองเข้าไปในงานเหล่านั้นที่เค้ากำลังทำอยู่โดยหากเค้าชำนาญสิ่งเหล่านั้นก็จะทำให้เค้ามองเห็นถึงสิ่งที่ควรจะแก้ไขหรืออยากจะลองหาวิธีการที่จะทำสิ่งเหล่านั้นให้ง่ายขึ้นหรือทำให้มันเสร็จเร็วขึ้น เพราะนอกจากมันจะเป็นความเข้าใจที่เค้ามีกับสิ่งเหล่านั้นแล้วมันยังเป็นเรื่องของการดึงเอาสิ่งที่เค้าสามารถทำได้ออกมาอีกด้วย ดังนั้นหากเพื่อนเพื่อนมีเพื่อนร่วมงานที่อาจจะเพิ่งมาใหม่แต่เค้ามีความคิดที่อยากจะลองปรับเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างละก็ เราอยากจะให้คุณลองเปิดใจรับฟังและลองทำสิ่งเหล่านั้นดูสักหน่อยเพราะบางครั้งคุณอาจจะมีอัฉริยะทางด้านนั้นเข้ามาทำงานแล้วก็ได้นะ มีแนวโน้มที่จะดูอ่อนกว่าวัย อาจจะเป็นเพราะพลังที่ล้นเหลือที่ซ่อนอยู่ในร่างกายและจิตใจของเค้าก็ได้ทำให้พวกเค้าเหล่านี้รู้สึกถึงความต่างของกาลเวลาที่ไม่เหมือนกับคนทั่วไปนั้นคือพวกเค้าจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองนั้นมีเรี่ยวแรงและกำลังในการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงพลังที่จะจัดการกับงานต่าง ๆ ตรงหน้าของพวกเค้าเหมือนกับว่าตัวเองนั้นเป็นวัยรุ่นที่สามารถวิ่งเล่นได้ทั้งวันอยู่นั้นเอง และนั้นอาจจะเป็นผลสะท้อนให้พวกเค้ายังดูเด็กได้อีกด้วย เค้าจะค้นพบปัญหาในงานที่ทำอยู่เสมอทั้งที่เป็นเรื่องเล็กน้อยจนขยับไปเรื่องใหญ่อยู่เสมอ © Secret Window / Columbia Pictures ไม่ใช่ว่าพวกเค้าเป็นคนสร้างปัญหาหรือเป็นมนุษย์เจ้าปัญหาหรอกนะแต่ตรงกันข้ามเค้ากับมองในสิ่งที่คนอื่นๆ ยอมทำตามไปโดยไม่ได้สอบถามหรือสงสัย นั้นก็เพราะเค้ากำลังคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้นให้ดีขึ้นได้หรือเปล่าหรือจะทำให้สิ่งที่ทำอยู่มันสะดวกมากขึ้นได้อย่างไรนั้นเองที่ทำให้เค้าดูเหมือนคนเจ้าปัญหา แต่อันที่จริงการตั้งคำถามเหล่านี้มันกลับช่วยทำให้หลายหลายสิ่งเกิดขึ้นและดีขึ้น อย่างที่สตีฟจ๊อบผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากคำถามเพียงคำเดียวว่าจะสามารถทำให้โทรศัพท์ที่มีอยู่สามารถใช้งานสะดวกโดยไม่มีแป้นพิมพ์ได้ไหมก็นำไปสู่การพัฒนาและต่อยอดทำให้เรามีระบบโทรศัพท์ที่เรียกได้ว่าดีเยี่ยมกว่าแต่ก่อนมากมายนักในเวลาไม่ถึง 15 ปีเท่านั้นเอง เพื่อนที่ดูเก่งและฉลาดในเรื่องต่าง ๆ หลายคนแต่กลับดูอ่อนประสบการณ์มากมากในเรื่องเข้าหาเพื่อน © Warner Bros. Television ที่เรายกข้อสังเกตุแบบนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า สำหรับเพื่อนที่มีความฉลาดที่ดูแตกต่างนั้นพวกเค้าจะมุงมั่นกับสิ่งที่พวกเค้าคิดและทำซึ่งนั้นทำให้พวกเค้าเหล่านั้นอาจจะไม่ทันสังเกตุไปว่าคนรอบข้างหรือคนอื่นๆ นั้นมีกำลังมีความรู้สึกอย่างไรหรือแบบไหนทำให้เค้าดูเหมือนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นๆ แต่อันที่จริงแล้วเค้าก็เหมือนๆเราทุกคนนี้แหละเพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เค้าคิด เพราะอันที่จริงแล้วคนที่จริงใจแต่พูดหรือสื่อสารไม่เก่งก็มีนะ เล็บที่สั้นอยู่เสมอบอกอะไรได้มากกว่าที่คิด © Pxhere เราอธิบายเรื่องนี้ด้วยสิ่งที่เจอและจากข้อมูลได้ข้อสรุปว่าพวกเค้ามักจะทำกิจวัตรประจำวันในแบบง่ายๆเช่นเลือกสวมชุดเดิมๆที่คุ้นเคยตัดผมหรือตัดเล็บให้ดูเรียบร้อย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเค้าจะต้องแต่งตัวเชยๆหรอกนะ…

หนึ่งในสามของเวลาของพวกเรานั้นคือการนอน ที่เราบอกแบบนี้ก็เพราะว่าในหนึ่งวันมียี่สิบสี่ชั่วโมงนั้นพวกเราต้องการเวลานอนพักผ่อนถึงแปดชั่วโมงเลยทีเดียว แต่พวกเราหลายคนก็น่าจะเคยเจอเรื่องตลกอย่างการนอนไม่หลับในบางวันทั้งๆที่วันรุ่งขึ้นพวกเรายังต้องมีงานสำคัญรออยู่ หรือบางครั้งการตั้งนาฬิกาปลุกกลับกลายเป็นสิ่งเตือนให้เราค่อยลุกขึ้นมาตรวจดูเวลาอยู่ตลอดคืนจนแทบไม่ได้นอนเลยก็มีเหมือนกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็เกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลาและเกิดขึ้นกับใครหลายหลายคนอีกด้วย แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับเราหลายครั้งในการนั้นก็คือในตอนที่เรานอนและห่มผ้าห่มนั้น พวกเราหลายคนคงชอบที่จะห่มผ้าห่มนอนแต่กลายเป็นว่าเรากลับพยายามยื่นขาของเราออกไปหนึ่งข้างหรือขยับขาให้พ้นไปจากผ้าห่มสักนิดสัดหน่อยก็ยังดี ซึ่งห้องนอนส่วนใหญ่ก็มักจะเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อให้อากาศเย็นกว่าปกติอยู่แล้ว แต่พวกเราก็ยังอยากที่จะยื่นขาออกไปสักนิดก็พอที่จะทำให้เราทำแล้วก็นอนหลับสบายหายห่วงเลยทีเดียว แล้วเราเคยส่งสัยกันบ้างหรือเปล่าละว่าทำไมเราถึงรู้สึกสบายเมื่อได้นอนแล้วยื่นขาสักข้างออกไปนอกผ้าห่ม วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยลองหาข้อมูลมาให้เพื่อนเพื่อนฟังกันสักหน่อยนะมาลองฟังกันเลยดีกว่าว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น ข้อแรกเลยที่เราอยากจะบอกให้เพื่อนเพื่อนรู้นั้นก็คือ บนร่างกายของเรานั้นเท้าเป็นส่วนที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายของเรานั้นเอง เพราะถ้าเปรียบตัวของเรานั้นทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องจักรแล้วละก็ยอมต้องมีส่วนในการระบายความร้อนที่เกิดจากการทำงานของระบบต่าง ๆ และเท้านั้นเองที่เป็นกลไกที่ช่วยทำให้ความร้อนในร่างกายของเราระบายออกเพราะเมื่อเกิดอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมอย่างเช่นร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป ส่วนของเท้าก็จะขยายออกเพื่อทำให้ของเหลวในร่างกายที่ไหลผ่านบริเวณเท้านั้นทำให้อุณหภูมิกลับเข้าสู่สภาวะที่ควรจะเป็นนั้นเอง © Depositphotos.com แต่เมื่อเราห่มผ้าห่มมิดชิดคลุมเท้าทำให้ระบบระบายความร้อนของเรานั้นทำงานได้ไม่เต็มที่นั้นเองที่ทำให้เรารู้สึกสบายตัวมากขึ้นเมื่อลองเอาเท้าออกมานอกผ้าห่มนั้นเอง การยื่นเท้าออกช่วยให้คุณหลับได้เร็วขึ้น © Depositphotos.com หนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราหลับเร็มขึ้นเมื่อลองยื่นเท้าออกไปนอกผ้าห่มนั้นก็เพราะว่าเวลาที่เรารู้สึกง่วงนอนหรือร่างกายต้องการการพักผ่อนแล้วละก็ร่างกายจะพยายามลดการทำงานลงและเมื่อเป็นเช่นนั้นอุณหภูมิก็จะลดลง1- 2 องศาและยิ่งเรายื่นเท้าออกไปก็จะช่วยทำให้อุณหภูมิลดลงและระบบต่าง ๆ ก็ทำงานลดลงได้เร็วขึ้นจนร่างกายรู้สึกสบายจนหลับไปอย่างรวดเร็วนั้นเอง เป็นท่าที่สบายที่สุดหากคุณต้องการนอนใต้ผ้าห่ม เพราะการได้ห่มผ้าห่มนั้นให้ความรู้สึกบางอย่างกับเราด้วยนอกเหนือจากการที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไมหลายคนจึงต้องการการห่มผ้าแม้ในวันที่อากาศร้อนก็ตาม และเหตุผลที่เราพบนั้นก็คือความรู้สึกได้รับการปกป้องหรือรู้สึกปลอดภัยเมื่อนอนโดยมีผ้าห่มคลุมตัวอยู่นั้นเอง แต่ถึงแม้ว่าเราจะอยากได้รับการปกป้องมากขนาดไหนพออุณหภูมิมันอยู่ในจุดที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวก็ต้องหาทางออกนั้นเอง และทางออกที่ดีที่สุดที่หลายคนตัดสินใจเลือกนั้นก็คือการยื่นเท้าหรือขาสักข้างออกไปข้างนอกผ้าห่มนั้นเอง แต่ก็ยังคงห่มผ้าคลุมตัวเอาไว้เพราะมันเป็นสัญชาตญาณในการปกป้องสิ่งสำคัญของเรานั้นเอง วันนี้ถ้าคุณจะนอนก็ลองสังเกตุสิ่งที่เราบอกให้เพื่อนเพื่อนได้ฟังกันไปในบทความนี้แล้วลองนอนในท่าทางแบบที่เราบอกนั้นก็คือลองยื่นขาออกไปข้างนอกผ้าห่มดูสักข้างก่อนก็ได้แล้วลองดูสิว่าค่ำคืนนี้ของคุณจะหลับสบายหรือคุณจะหลับลงอย่างรวดเร็วอย่างที่เราบอกหรือเปล่าหรือหากว่าเพื่อนเพื่อนมีท่าทางในการนอนแบบไหนที่ช่วยทำให้หลับสบายได้อีกก็ลองส่งมาให้เราชมกันด้วยสิ ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ

นับจากอดีตอันยาวนานสิ่งที่ทำให้พวกเราต้องประหลาดใจนั้นก็คือการบันทึกความรู้และสิ่งต่างๆ ด้วยการเขียนเป็นตัวอักษรและภาพวาดซึ่งจากสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นนั้นเองที่สร้างการเรียนรู้และส่งต่อความคิดและความเข้าใจทำให้ทุกวันนี้พวกเราได้พัฒนาสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาใช้งานได้อย่างที่ถ้าหากนำพาคนจากยุคเก่ามาได้ก็คงต้องบอกว่าเรื่องง่ายอย่างที่เราทำกันทุกวันนี้นั้นแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเกิดข้นได้ ไม่ว่าจะการสื่อสารข้ามน้ำข้ามทะเลที่สามารถทำได้ด้วยการเปิดโทรศัพท์เล็กๆที่อยู่ในมือของเรา หรือการเดินทางออกไปสำรวจดวงดาวอันห่างไกลจากพื้นโลกสูงขึ้นไปบนท้องฟ้านับได้ หลายพันหลายหมื่นกิโลพวกเราก็สามารถทำได้แล้วในทุกวันนี้ แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะบอกนั้นก็คือการเก็บบันทึกภาพของโลกเราจากบนจักรวาลใช่แล้วละตั้งแต่ปี1961 ที่เราสามารถส่งยานออกไปถึงขั้นบรรยากาศนอกโลกได้ สิ่งต่างๆก็ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อทำให้เราสามารถทำหลายหลายสิ่งหลายหลายอย่างโดยมีตัวช่วยเป็นอุปกรณ์ที่ลอยอยู่บนจักรวาลได้ และสิ่งนั้นก็คือกลุ่มดาวเทียมจำนวนมากที่ถูกส่งขึ้นไปเพื่อเก็บบันทึกและใช้ในการสื่อสารส่งต่อข้อมูลอีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่บนจักรวาลอีกด้วย และสิ่งที่เราเอามาให้เพื่อนเพื่อนได้ลองชมกันในวันนี้ก็คือภาพถ่ายจากดาวเทีียมจาก Google earth ซึ่งเป็นระบบที่ใครต่อใครก็สามารถที่จะเข้าไปชมภาพเหล่านี้ได้ และพวกเราชาวสัพเพเหระก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่ามันช่างเป็นเรื่องที่เราเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าด้วยหลายหลายอย่างพวกเราและธรรมชาติก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ ลองไปชมกันเลยดีกว่านะ ที่เพื่อนเพื่อนกำลังชมอยู่นี้คือภาพของดูไบที่มีหมู่เกาะใหม่ๆเกิดขึ้น แต่มันไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองหรอกนะเพราะมันเกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของพวกเรานี้แหละซึ่งมันคือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนอยากจะไปสักครั้งนั้นคือ The Palm Islands ซึ่งเป็นพื้นที่ชายหาดใหม่ที่มีมากถึง520 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว © Google Earth ซึ่งจากการที่หลายหลายอย่างพัฒนาทำให้เมืองแห่งนี้เติบโตจากเมื่อก่อนมากเพราะจากเดิมนั้น คาดว่ามีประชากรอยู่ราวๆ 500,000 คนแต่ตอนนี้ก็นับได้กว่า3 ล้านคนเข้าไปแล้ว ทะเลสาบ Natron แทนซาเนีย © Google Earth คุณอาจจะคิดว่ากำลังได้เห็นภาพของการเปลี่ยนแปลงจากพื้นดินเป็นพื้นน้ำแต่อันที่จริงคือก่อนหน้านี้มันเป็นทะเลสาปที่มีน้ำสีชมพูจากความเค็ม ที่มองจากบนอากาศแล้วเหมือนเป็นที่ดินต่างหากและเมื่อเวลาผ่านไปทำให้ความเค็มของน้ำลดลงและตอนนี้เมื่อสภาพของน้ำเหมาะสมกับการเติบโตของสาหร่ายก็ทำให้มันกลายเป็นน้ำที่มีสีเหมือนน้ำทั่วไปนั้นเอง ซานจูเลียนจากผืนป่าอันกว้างใหญ่ก็กลายเป็นไร่ถั่วเหลืองซะงั้น © Google Earth เมื่อพื้นที่ป่าที่ไม่มีคนจัดการดูแลกลายเป็นสถานที่ที่ใครต่อใครก็ต้องการ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเรื่องที่จากพื้นที่สีเขียวจะถูกเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ทางการเกษตรแบบนี้ สำหรับพื้นที่โล่งๆซึ่งแทบไม่มีอะไรสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างทะเลทรายหลายแห่งนั้นก็ถูกทำให้เกิดประโยชน์ได้ด้วยการทำสิ่งนี้ © Google Earth นั้นก็คือการสร้างพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์และสิ่งที่เพื่อนเพื่อนชมกันอยู่นั้นก็คือโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งหนึ่งในทุ่งทะเลทรายอันเวิ้งว้าง ธารน้ำแข็งที่กำลังหายไป © Google…