เหตุผลที่บางประเทศมักไม่ดื่มน้ำขณะรับประทานอาหาร

หากเราแบ่งความหลากหลายของสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในโลกใบนี้ด้วยหลักการอะไรสักอย่างละก็ มันก็คงมีหลักการมากมายให้เราเลือกใช้แต่ที่เรามักได้ยินบ่อยๆก็คือการเรียกแบบฝั่งตะวันตก หรือฝั่งตะวันออกหรือฝั่งตะวันตกซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่ามันถูกคิดและเรียกตามสภาพภูมืศาสตร์ของการตั้งอยู่โดยยึดเอาเจ้าเส้นศูนย์สูตรมาเป็นตัวบงบอกแต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่บอกได้แบบนั้นเพราะอันที่จริงแล้วในบางแง่มุมที่มีการพูดถึงกันถึงความเป็นตะวันออกหรือตะวันตกนั้นก็มีการนำเอาวัฒนธรรมมาใช้ในการบงชี้มากกว่าทางภูมิศาสตร์  แต่เอาเป็นว่าไม่ว่าจะแบบออกหรือแบบตกก็มีสิ่งที่หลายคลึงหรือเหมือนกันอยู่อีกมาก ซึ่งแน่นอนว่ามันก็มีสิ่งที่มองในมุมที่แตกต่างกันด้วยนะ อย่างเรื่องของการดูแลตัวเองที่มีการพูดถึงธาตุต่าง ๆ ในร่างกายที่ประกอบไปด้วยดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง หรือ หยิน หยาง เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะถูกมองในแง่หลักการที่มีข้อพิสูจน์เป็นหลักฐานว่ามีความน่าเชื่อถือน้อย นั้นเพราะเป็นเรื่องของการบอกต่อต่อกันมาหรือที่เรียกว่าเป็นภูมิปัญญาเฉพาะทางที่สอนและส่งต่อการใช้งานกันมาแบบรุ่นต่อรุ่น ซึ่งใครจะเชื่อหรือปฏิเสธก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร และวันนี้เราก็อยากจะเอาเจ้าสิ่งที่เรียกว่าความรู้จากรุ่นสู่รุ่นของหลายหลายแห่งที่บังเอิญมันออกมาสอดคล้องกันที่พูดเกี่ยวกับเรื่องของการทานอาหารนั้นเอง โดยหลักการของธาตุว่าเอาไว้ว่าภายในของเรามีพลังของธาตุไฟที่ไว้ใช้ทำให้เกิดพลังงานนั้นเองซึ่งจะเปรียบก็เหมือนเตาที่เราเอาอาหารมาแทนฟืนนั้นแหละ ซึ่งถ้ากล่าวแบบนี้แล้วสิ่งที่ไม่ถูกกับไฟก็ต้องเป็นน้ำนั้นเอง พวกเราจึงเห็นว่าในร้านอาหารบางแห่งจะเลือกใช้แก้วเสริฟน้ำขนาดเล็กเพื่อให้ทานน้ำได้น้อยเพื่อเป็นการไม่ไปขัดตอการทำงานของธาตุไฟที่กำลังทำหน้าที่จัดการกับเหล่าอาหารที่ทานเข้าไปนั้นเองแล้วนอกจากหลักการนี้แล้วยังมีอีกหลายหลายอย่างที่เราได้รวมรวบมาให้เพื่อนได้ลองอ่านกันด้วยนะ อย่างแรกเลยฟังแล้วอาจจะเอะกันเลยเพราะนั้นคือ ยิ่งทานน้ำคุณอาจจะยิ่งหิวน้ำ เป็นเรื่องที่เอะกันตั้งแต่ข้อแรกเลยนั้นคือทำไมกินน้ำจะยิ่งหิวน้ำละ นั้นก็เพราะว่าในบางแห่งนั้นไม่ได้นิยมที่จะดื่มเปล่าเท่าไหร่นักซึ่งน้ำอื่นก็เช่นน้ำอัดลม หรืออาจจะเป็นน้ำที่ใส่มะนาวฝานบางๆลงไปด้วยนั้นเองซึ่งหลักการง่ายที่เราพบก็คือความเป็นกรดของน้ำที่เรากำลังดื่มเข้าไปนั้นแหละที่ไปรบกวนเรื่องของความสมดุลย์ภายในทำให้ยิ่งทานน้ำเหล่านี้แล้วก็ยิ่งอยากทานน้ำมากขึ้นไปอีกนั้นเอง อาจเป็นผลต่อการทำงานของระบบการย่อยอาหารของคุณ © shutterstock.com ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำเปล่าธรรมดาก็ตามแต่นำก็มีส่วนเข้าไปเจือจางบางสิ่งบางอย่างที่ทำหน้าที่ในการจัดการกับเหล่าอาหารที่เพื่อนเพื่อนทานเข้าไปนั้นก็คือ มันไปมีผลกับพวกน้ำลายที่จะทำหน้าที่ในการกระตุ้นการสร้างน้ำย่อยต่อมานั้นเองดังนั้นจึงทำให้บางคนรู้สึกได้ถึกความอึดอัดเพราะอาหารไม่ย่อยนั้นแหละ เมื่อการจัดการกับอาหารที่ทานเข้าไปทำได้ไม่ดีพอจึงเกิดเรื่องของการขาดสารอาหารได้ ก็เพราะว่าการดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหารจะทำให้น้ำย่อยของคุณเจือจาง และทำให้การย่อยอาหารที่ต้องทำให้เรียบร้อยตามขั้นตอนถูกขัดจังหวะ ซ่งสิ่งนี้ส่งผลเสียต่อสิ่งที่ต้องทำในลำดับถัดมานั้นก็คือการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ นั้นเองเป็นเพราะเมื่อเราทานได้เท่าเดิมแต่ย่อยได้น้อยลงนั้นหมายความว่าเราก็ได้สารอาหารน้อยลงนั้นเอง การทานน้ำบางอย่างเช่นกาแฟก่อนหรือหลังอาหารทันทียิ่งทำให้คุณอึดอัด เป็นเพราะว่ากาแฟ หรือ อาจจะน้ำเปล่าที่ปริมาณเกินพอดีนั้นทำให้น้ำย่อยอาจจะมีมากหรือน้อยเกินไปซึ่งสาเหตุเหล่านี้แหละที่ทำให้เกิดท้องอึดจุกเสียดได้ดังนั้น เพื่อนเพื่อนที่รู้สึกแบบนี้ละก็ลองทานน้ำให้น้อยลงหรืออาจจะงดกาแฟนมหลังการทานอาหารทันทีดูสักหน่อยแล้วลองสังเกตุว่าสิ่งที่เราเคยเป็นนั้นจะดีขึ้นหรือไม โบนัส: วิธีช่วยในการลี่ยงการดื่มน้ำพร้อมอาหาร อย่างที่เราได้บอกเพื่อนเพื่อนไปแล้วว่าเราไม่ได้สนับสนุกหรือบอกว่าการทานน้ำหรือทานน้ำน้อยๆหรือไม่ทานน้ำเลยในขณะที่รับประทานอาหารนั้น เพราะเพื่อนเพื่อนสามารถสังเกตุสิ่งเหล่านี้และลองทำในแบบที่เหมาะสมกับตัวเองจะดีกว่านะแต่เราก็มีเทคนิคอีกนิดหน่อยที่จะมาบอกเพื่อนเพื่อนทีอยากจะลองทานน้ำให้น้อยลงระหว่างทานอาหารด้วยการเลือกอาหารรสเค็มให้น้อยลง เนื่องจากเกลือจะทำให้คุณกระหายน้ำ และการทานอาหารให้ช้าลงบวกกับการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดมากขึ้นสักหน่อย นอกจากนี้การได้ดื่มน้ำสักหนึ่งแก้วก่อนเวลาอาหาร 30 นาที เพื่อเป็นการรักษาความชุ่มชื้นภายในร่างกายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่ง…

Read More

7 เรื่องที่ทำได้ก็ยืดเวลาอยู่กันไปได้อีกนานๆ

สำหรับเราชาวสัพเพเหระแล้วละก็สิ่งที่เรียกว่าเป็นอันดับต้นๆในความสนใจของพวกเราเลยนั้นก็คือเรื่องของความสุข และการทำให้คนรอบรอบตัวเรานั้นมีความสุขไปด้วยเพราะพวกเราคิดว่าไหนไหนก็ได้มีโอกาสแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้วจะคิดจะทำอะไรก็แล้วแต่ถ้าเป็นไปได้ละก็เราจะเอาความสุขนำหน้า เพราะอย่างน้อยเวลาที่พวกเราได้มองย้อนกลับมายังจุดจุดเดิมนี้ก็ยังทำให้เรามั่นใจว่ามันคือสิ่งที่ทำให้เรายังยิ้มได้เสมอนั้นเอง และอีกอย่างก็คือพวกเราคิดว่าการที่ได้ทำอะไรที่เป็นความสุขและที่ได้มอบความสุขให้กับผู้อื่นถึงแม้มันอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่แต่อย่างน้อยมันก็คือความภูมิใจที่เราสามารถสร้างสรรค์และส่งต่อรอยยิ้มให้กับเพื่อนเพื่อนได้ ที่เราพูดถึงเรื่องความสุขขึ้นมาก็เพราะว่าเราเพิ่งได้ฟังคำพูดหนึ่งจากเพื่อนของเรานั้นก็คือ “หากอยู่ได้ร้อยปีแต่ไร้ซึ่งรอยยิ้มจะมีค่าอะไร” พอเราเอามาคิดดูมันก็คงจะไม่ดีแน่ถ้าเราอยู่ไปนานขนาดนั้นแต่ไม่ได้มีความสุขอะไรเลย แต่ตอนนี้เรามีรอยยิ้มจากความสุขทีเป็นอยู่ๆแล้วเอะแล้วจะทำยังไงให้อยู่ไปได้นานๆละ เออคิดไปคิดมาก็เลยลองไปดูซะหน่อยสิว่าถ้าเรายังอยากจะมีความสุขแบบอยู่ไปอีกนานๆด้วยมันจะมีอะไรที่พอช่วยได้ไหมนะ ซึ่งพอได้ลองไปสำรวจข้อมูลต่างๆพวกเราก็ได้พบกับเรื่องราวเยอะแยะมากมายเลยละที่พออ่านๆไปแล้วก็พอจะเข้าเค้าเราก็เลยรวบรวมมันมาบอกกับเพื่อนเพื่อนของเราด้วยดีกว่า เพราะอยากน้อยๆเราก็ควรจะมีเพื่อนที่ช่วยกันสร้างรอยยิ้มแบบนี้กันไปนานๆยังไงละ เรื่องแรกที่ต้องบอกเลยว่ามันอาจจะไม่ง่ายเท่าไหร่แต่ถ้าใครทำได้ก็เอาหนึ่งคะแนนไปก่อนเลย นั้นก็คือเรื่องของการดูแลตัวเองกับระดับหน้าท้องหรือพุงของเพื่อนเพื่อนนี้แหละให้มันมีน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ถึงแม้ว่าเพื่อนของเราบางคนนั้นอาจจะตัวเล็กหรือใครๆอาจจะมองว่ากำลังพอดีแล้วก็ตามแต่เราก็อยากให้เพื่อนเพื่อนลองสังเกตุเจ้าหน้าท้องของเพื่อนๆเอาไว้ให้ดีดีเพราะสิ่งนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับความหนักของร่างกายเลยเพื่อนเพื่อนอาจจะเคยเห็นบางคนที่ดูตัวเล็กแต่ก็มีความกลมบริเวลณหน้าท้องถึงขนาดที่ขึ้นรถสาธารณะไปก็อาจจะมีคนลุกให้นั่งเพราะคิดว่าเราท้องอ่อนๆก็มีนะ เพราะร่างกายของเราจะสะสมส่วนเกินไว้ที่ส่วนนี้เป็นหลักและถ้ามันมีจำนวนมากมากละก็มันก็เป็นที่มาของอีกหลายหลายสาเหตุของการบันทอนตัวเรานั้นเองดังนั้นพยายามอย่าให้มีมันจะดีมากมากเลยโดยการที่เราขอเสนอให้เพื่อนเพื่อนได้ออกกำลังกายสักสิบห้านาทีต่อครั้งและทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ ด้วยการคาร์ดิโอก็จะช่วยได้เยอะเลยละ เมื่อออกกำลังกายเบาๆกันแล้วก็ต้องมาจัดลำดับความคิดกันสักหน่อยที่เราบอกว่าจัดลำดับความคิดนั้นก็คือการรู้จักบริหารเวลาที่เราจะใช้ไปกับเรื่องราวต่างๆ นั้นเองหรือที่จะเรียกกันง่ายๆว่าคือการจัดการให้ความสำคัญกับการทำสิ่งต่างๆ เพราะเราเองมีเวลาในแต่ละวันเท่ากันนั้นก็คือยี่สิบสี่ชั่วโมงแต่เพื่อนเพื่อนทราบไหมละว่าทำไมเจ้ายี่สิบสี่ชั่วโมงของพวกเรานี้ถึงสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้ไม่เท่ากันสิ่งหนึ่งนั้นก็คือพวกเรามีความสามารถไม่เท่ากันและก็มีทรัพยากรในการใช้ไม่เท่ากันนั้นเอง แต่เราจะไม่ได้ไปพูดถึงสิ่งเหล่านั้นหลอกนะที่เราจะบอกก็คือเราสามารถบริหารเวลาและให้ความสำคัญกับเรื่องที่ทำให้พวกเรามีความสุขได้เท่ากันนั้นเอง อย่างเช่นเพื่อนเพื่อนอาจจะแบ่งเวลาทำงานทานอาหารหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องทำเพื่อการเลี้ยงชีพแต่ก็อย่างลืมที่จะใส่สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขลงไปในแต่ละวันด้วยอย่างเช่น การได้พูดคุยกับครอบครัว หรือการได้เลือกไปทานอาหารที่ชอบ หรือบางคนแต่ฟังเพลงหรือได้ติดตามข่าวของนักแสดงคนโปรดก็ทำให้ยิ้มได้แล้ว สิ่งเหล่านี้แหละคือที่เราบอกว่าเราควรจะต้องจัดเข้าไปในแต่ละวันเพื่อให้อย่างน้อยๆที่สุดเจ้าความสุขเล็กๆเหล่านี้ก็จะได้เข้ามาช่วยให้เราชุ่มชื่นได้ในแต่ละวัน มีใครสักคนเคยกล่าวไว้ว่าการได้หัวเราะในทุกทุกวันจะทำให้เราอยู่ได้อีกนาน (ถ้าแบบนั้นเราหัวเราะตลอดเวลาเราก็จะเป็นอมตะนะสิ) เพราะการหัวเราะนั้นทำให้เราร่าเริงทั้งร่างกายและจิตใจ มันช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับชีวิตเราได้มีการเก็บข้อมูลมากมายที่ช่วยบอกเราว่าเวลาที่เราหัวเราะอย่างมีความสุขนั้นเราจะผ่อนคลายมากมากและนั้นเองที่ทำให้ทุกๆอย่างดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เราเผชิญอยู่ดังนั้นร่าเริงเข้าไว้ละ ลองจัดระเบียบให้กับสิ่งของและตัวเองดูบ้าง ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าคนที่มีระเบียบนั้นจะจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นอย่างเช่นถ้าคุณจัดบ้านให้เรียบร้อยหรือจัดโต๊ะทำงานให้เข้าที่เข้าทางอยู่เสมอแล้วละก็การหยิบจับค้นหาสิ่งต่างๆก็สามารถทำได้โดยง่ายและความเป็นระเบียบก็ทำให้เกิดความผิดพลาดได้น้อยลงอีกด้วยดังนั้นก็จะทำให้เรามีปัญหากับสิ่งต่าง ๆ หรือเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องน้อยลงและนั้นก็ทำให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้นรวมถึงการมองหาความสุขอื่นๆด้วยเช่นกัน ลองออกไปเดินสักวันละสิบถึงสิบห้าถึงสามสิบนาทีสิ ใครจะไปคิดละว่าเจ้าการเดินแบบเบาๆหรือจะเดินแบบเดินเล่นๆชมนกชมไม้ในสวนนั้นมีส่วนช่วยทำให้เราอยู่ไปได้อีกนานด้วยเพราะมันเป็นสิ่งใกล้ตัวที่ต้องบอกว่าใกล้มากมากจนเราไม่ได้คิดถึงมันเลยนั้นเอง แต่การเดินที่ดีมันก็ต้องเดินในเวลาที่เหมาะสมด้วยนะ ซึ่งนั้นก็คือการเดินต่อเนื่องเบาไปแบบไม่ต้องเร่งรีบเดินสบายโดยเพื่อนเพื่อนอาจจะเริ่มต้นที่สิบห้านาทีจนไปถึงสามสิบนาทีต่อครั้งนั้นเองเพราะการเดินต่อเนื่องสามสิบนาทีนี้เองที่จะช่วยเรื่องของการขยับร่างกายส่วนต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการคลายความตึงของส่วนต่าง ๆ อีกด้วยนั้นทำหลายหลายสิ่งภายในยังคงทำหน้าทีของมันได้ดีต่อไปยังไงละ การได้พบและพูดคุยกับเพื่อนหรือคนแปลกหน้าทำให้คุณสบายใจขึ้น เพราะสิ่งที่เราทำเวลาอยู่คนเดียวนั้นก็คือการคิดนั้นเอง และหลายหลายคนก็คิดแต่เรื่องที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ซึ่งนั้นเรียกว่าการคิดมากนั้นแหละ ดังนั้นการที่เราได้ออกไปพูดคุยรับฟังหรือแม้แต่ได้ออกไปเห็นบรรยากาศของใครที่เราอาจจะไม่รู้จักเลยที่กำลังสนุกสนานอยู่มันก็ช่วยลดการคิดมากของเราลงไปได้แล้ว และมันยิ่งดีขึ้นไปอีกเมื่อคุณได้พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆกับคนรู้จักดังนั้นหากคุณว่างอยู่คนเดียวก็ลองออกไปนั่งชมบรรยากาศของผู้คนในร้านอาหารหรือร้านกาแฟบ้างก็ได้นะไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เพื่อนใหม่จากการที่ได้ออกไปทำอะไรใหม่ๆเหล่านี้ก็ได้นะ ถ้าคุณไม่มีเวลาละก็การทำสิ่งใกล้ตัวอย่างงานบ้านของเรานี้แหละดีที่สุด © shutterstock.com…

Read More

8 ความก้าวหน้าที่กำลังจะมาเยื่อนเรา

เคยได้ยินคำพูดจากใครหลายหลายคนที่พอได้เผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ หรือต้องอยู่ในเหตุการณ์หนึ่งแล้วกลับกล่าวออกมาได้ด้วยความมั่นอกมั่นใจว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างนั้นเมื่อก่อนเป็นอย่างนี้ แล้วก็สรุปไปว่าเมื่อก่อนดีกว่าตอนนี้ซึ่งเราเองก็อยากจะบอกว่าสิ่งที่พูดนั้นมันก็อาจจะดีจริงๆอย่างที่บอกกันแต่ว่าตอนนี้เรากำลังเผชิญหน้าอยู่กับสิ่งเหล่านี้และมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วซึ่งการที่จะกล่าวย้อนกลับไปมันก็ดูเหมือนกับเป็นการพุดที่เลื่อนลอยซะเหลือเกินเพราะสิ่งที่เราวันนี้เราก็เลยอยากจะเอาเรื่องราวบอกถึงความก้าวหน้าของเราในยุคนี้หรือที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้มาให้เพื่อนเพื่อนได้ฟังว่ามันมีอะไรบ้างที่เรากำลังจะได้พบเจอซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นความก้าวหน้า พวกเราชาวสัพเพเหระคิดว่าเราคงย้อนกลับไปเอาสิ่งดีดีในอดีตกลับมาให้ไม่ได้หรือได้ก็อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยแต่เราก็ยังอยากให้เพื่อนเพื่อนได้เห็นว่าอันที่จริงแล้วนอกจากบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไปแล้วอาจจะไม่ถูกใจบางคนมันกันยังมีอีกหลายหลายสิ่งเกิดขึ้นซึ่งจะบอกว่าถูกให้อีกหลายหลายคนก็ว่าได้และมันก็คงดีถ้าเรายังช่วยกันทำสิ่งดีดีเหล่านี้ให้เกิดขึ้น อย่างเช่นการท่องเที่ยวซึ่งตอนนี้เราอาจจะต้องวางแผนในการเดินทางในอวกาศกันแล้วก็ได้ จากที่เราได้แต่มองหรือจินตนาการตามหนังอวกาศต่าง ๆที่เราได้ชมกันมาตั้งแต่ในอดีตตอนนี้ข่าวคราวของการเดินทางไปท่องเที่ยวนอกโลกก็มีให้เห็นกันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วซึ่งตามการคาดการณ์ จากขนาดของตลาดการท่องเที่ยวจากปัจจุบันทำให้เหล่านักคิดวางมูลค่าของการเดินทางในอวกาศไว้สูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 เลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้ถึงแม้ว่าเราจะเดินทางไปได้แค่ขอบโลกเพื่อมองชั่นบรรยากาศ แต่อีกไม่นานการได้ไปลองใช้ชีวิตบนสภาพไร้แรงโน้มถ่วงก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงแรกกลุ่มเป้าหมายก็คือเหล่านักธุรกิจชั้นนำต่าง ๆ นั้นเอง มีแนวโน้มของการศึกษาที่กล่าวถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะยกระดับความคิดของเราได้ ด้วยโครงการที่เรียกว่า Neuralink ของ Elon Musk ที่เป็นการใช้ไมโครชิปมาช่วยในการสร้างการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ซึ่งจะทำได้เพียงแค่ผ่านการคิดเท่านั้นนอกจากนี้ในอนาคตมันยังจะช่วยรักษาอาการบางอย่างอีกด้วยและยังมีแนวคิดที่จะผ่านสิ่งนี้ในการสั่งการไปยังหุ่นยนต์เพื่อให้ช่วยทำงานต่าง ๆ ได้อีกด้วย เราประสบความสำเร็จในการปลูกฟันมนุษย์ได้แล้ว ถ้าจะบอกว่าเรื่องของฟันเป็นสิ่งเล็กๆที่สร้างเรื่องใหญ่ให้กับเราได้เลยนั้นหลายหลายคนอาจจะยังไม่อินสักเท่าไหร่แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งเคยต้องไปทำฟันมาแล้วละก็จะรู้เลยว่าหากเราขาดเจ้าสิ่งนี้ไปมันช่างเป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นซะนี้กะไร ดังนั้นการทำฟันหรือทำวัสดุที่มาใช้แทนฟันนั้นจึงเป็นสิ่งที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่การใช้ ขี้ผึ้ง และไม้เพื่อทดแทนส่วนที่หายไป ซึ่งปัจจุบันมีการใช้วัสดุที่ทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังทำจากวัสดุเทียมและต้องยึดติดกับขากรรไกรด้วยโครงสร้างที่ซับซ้อน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์สามารถปลูกฟันที่หายไปของเราโดยมีโครงสร้างใกล้เคียงกับฟันจริงมาก และนี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในด้านทันตกรรม นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้สามารถสร้างการเคลือบฟันได้อีกด้วย เรื่องดีดีอย่างการดูแลสิ่งต่างๆก็มีนะเพราะตอนนี้แพนด้ายักษ์ไม่อยู่ในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกต่อไปแล้ว ถ้าพูดถึงวิวัฒนาการและการอยู่รอดแล้วละก็มันเป็นสิ่งที่ทำให้ก่อนหน้านี้มีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อยู่หลายชนิด ซึ่งแพนด้ายักษ์ก็ถูกระบุว่ามีความเสี่ยงอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยแต่เนื่องจากการปกป้องป่าและการปลูกป่าที่มีประสิทธิภาพอีกทั้งมาตรการต่างๆที่ออกมาให้ดูแลทำให้ตอนนี้เรามีจำนวนแพนด้ายักษ์มากขึ้นเยอะเลย จะมีพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงและปลอดภัยมากขึ้น การเดินทางถือเป็นอีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราสามารถแลกเปลี่ยนทั้งสิ่งของและความรู้ ถึงแม่ว่าเราจะมีโครงข่ายอินเตอร์เน็ตที่ช่วยในการสื่อสารโดยที่เราไม่จำเป็นต้องออกเดินทางไปที่ไหนเลยก็ได้ แต่การได้เดินทางไปสถานที่ไหนด้วยตัวเองก็ทำให้เราได้รับประสบการณ์ใหม่ๆอีกด้วยซึ่งตอนนี้ มีแนวคิดที่เรียกว่า Hyperloop ที่เป็นเทคโนโลยีสำหรับการเดินทางโดยเฉพาะซึ่งประเมินว่าจะสามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงถึง 750 ไมล์ต่อชั่วโมงโดยผ่านอุโมงค์สุญญากาศที่และใช้การลอยตัวด้วยพลังงานจองแม่เหล็กไฟฟ้า ในอีกห้าหรือสิบทีข้างหน้า การพิมพ์สิ่งต่าง…

Read More

7 ภาพพาชมอุปกรณ์ในบ้านญี่ปุ่นให้หายคิดถึง

ถ้าถามเพื่อนเพื่อนว่าตอนนี้อยากออกไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนหลายหลายคนคงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าญี่ปุ่น อย่างแน่นอนถึงแม้ว่าเพื่อนของพวกเรารวมถึงตัวเราเองด้วยที่เคยไปเที่ยวมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ยังให้ความรู้สึกว่าอยากไปเที่ยวซ้ำที่ประเทศแห่งนี้อีกเรื่อยๆที่เป็นแบบนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่าในที่แห่งนี้นั้นมันเหมือนมีสิ่งแปลกใหม่และการผสมผสานความเป็นอยู่ของการใช้ชีวิตทั้งแบบที่เรียกว่าเป็นไปตามธรรมชาติและยังมีสถานที่ล้ำๆแบบที่เรียกว่าเหมือนหลุดเข้าไปในหนังอวกาศเลยก็มี จนถึงขนาดที่เพื่อนๆของเราหลายหลายคนบอกว่าคุณสามารถไปเที่ยวได้ทั้งปีโดยที่ทุกวันนั้นก็ยังมีเรื่องที่ต้องทำให้คุณว้าวได้ตลอด ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะพาคุณไปท่องเที่ยวแบบนั้นไม่ได้ก็ตามแต่วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็อยากจะหยิบยกเอาเรื่องใกล้ๆตัวของเหล่านักท่องเที่ยวที่ใครจะเดินทางก็ต้องคิดถึงสิ่งนี้นั้นก็คือเรื่องภายในที่พักนั้นเอง เพื่อนเพื่อนอย่าเพิ่งคิดว่ามันจะธรรมดาเกินไปเพราะสิ่งที่คุณต้องทำคือมองเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของคุณในตอนนี้ก่อนแล้วกลับมาอ่านบทความของเรา และคุณจะคิดว่าเออมันช่างแตกต่างจริงๆเลยและคงต้องมีบางอย่างที่คุณเห็นแล้วคงต้องร้องว้าวและรีบไปตามหามาใช้บ้างแหละ อย่างที่เราบอกเพื่อนเพื่อนไปแล้วว่าบางแห่งของประเทศนี้มันช่างดูล้ำยุคเหมือนอยู่ในหนังอวกาศสักเรื่องเลยที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าหนึ่งในความสนใจของคนที่นี่ก็คือการทำให้ทุกอย่างสะดวกสบายและก่อให้เกิดผลต่อสิ่งรอบตัวน้อยที่สุดนั้นเองดังนั้นสิ่งของเครื่องใช้หลายหลายอย่างจึงถูกคิดเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นและทำให้ผู้ใช้งานสะดวกขึ้นยังไงละ มาพบกับอย่างแรกเลยดีกว่ากับเรื่องทั่วไปที่ไหนๆก็มีนั้นก็คือท่อระบายน้ำนั้นเองแต่ของที่นี่นั้นมันจะมาพร้อมกับที่รองหรือตาข่ายที่จะช่วยเก็บเส้นผมหรือสิ่งของไม่ให้ไปอุดตันด้วยนะ © her.atlas พวกเราต่างทราบดีว่าพื้นที่นั้นถูกจำกัดเนื่องจากเป็นเกาะดังนั้นจึงมีการสร้างอาคารที่อยู่อาศัยเป็นตึกสูงดังนั้นแต่ละห้องก็จะมีผังหรือผังของระบบต่างๆอยู่ในแนวเดียวกันและเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องการอุดตันของท่อน้ำนั้นตามท่อน้ำทิ้งต่าง ๆ ก็จะมีตะแกรงที่มีรูพรุนหลากหลายขนาดตามแต่ความเหมาะสมและคุณจะพบเห็นได้ทั่วไปเพื่อป้องกันไม่ให้มีเศษวัสดุหรือสิ่งของใดๆลงไปอุดตันเพราะถ้าหากว่าท่อห้องคุณตันแล้วละก็มันอาจจะสร้างปัญหาให้ห้องอื่นๆด้วยเช่นกันนอกจากนั้นในระบบของท่อหรืออ่างล้างจานนั้นยังมีระบบบดและแยกเศษอาหารอีกด้วยนะ ในส่วนพื้นห้องน้ำของบางสถานที่คุณจะพบกับพื้นยางแบบพิเศษ © her.atlas / YouTube เนื่องจากสังคมของที่นี้เริ่มมีคนสูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆดังนั้นในพื้นที่สาธารณะเราจะพบเห็นพื้นยางกันลื้นในห้องน้ำหรือบนถนนเพื่อที่ว่าการเดินทางและการใช้ห้องน้ำหรือพื้นที่สวนกลางของทุกคนจะสามารถใช้ได้อย่างสบายใจยังไงละ แผงควบคุมแบบมัลติฟังก์ชั่น © Dream Kate ก็บอกแล้วว่าที่นี้มันล้ำกว่าที่เราคิด เพราะเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆนั้นสามารถสั่งงานได้จากเจ้าแผงควบคุมตัวเดียวกันได้เลย อย่างเช่นการระบายอากาศที่คุณสามารถดูดอากาศชื้น หรือสร้างอากาศอุ่นในห้อง นอกจากนี้ยังสามารถใช้สั่งเครื่องปรับอากาศและเครื่องอบผ้าได้อีกด้วย อ่างใหญ่ล้างหน้าที่มีขนาดใหญ่มาก © her.atlas เราก็สงสัยว่าทำไมเจ้าอ่างล้างมือหรืออ่างล้างหน้าในห้องน้ำนั้นมีขนาดที่ใหญ่มากกว่าที่เราเคยใช้งานที่บ้านของเราและเมื่อได้ลองสอบถามดูก็รู้ถึงประโยชน์ของมันเพราะว่าบางคนก็ใช้มันเพื่อซักผ้าด้วยนั้นเอง ยังไม่นับว่าบ้างครั้งก็ยืนสระผมกันตรงนี้แหละสำวันที่อากาศหนาวและไม่อยากอาบน้ำ กระจกให้ห้องน้ำมีระบบทำความร้อนเพื่อจัดการกับหมอกที่มาเกาะด้วย © Olha Z / YouTube นอกจากจะมีรีโมทหรือแผงควบคุมที่รวมเอาทุกอย่างที่จำเป็นไว้ด้วยกันแล้วเรายังพบว่าในห้องน้ำหน้ากระจยังมีระบบทำความร้อนเวลาที่มีหมอกจับที่กระจกอีกด้วย ทำให้เราไม่ต้องมาค่อยเช็ดเลยเวลาที่เราเพิ่งอาบน้ำอุ่นเสร็จ 8. อินเตอร์คอมพร้อมฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอ © Olha Z / YouTube อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราเห็นว่าที่นี้ปลอดภัยมากกว่าหลายหลายแห่งก็เพราะเราจะพบเห็นระบบอินเตอร์คอมที่มีฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอได้ทั่วไปเลย หรือต้องบอกว่าแทบจะมีทุกหลังเลยก็ว่าได้ซึ่งนั้นก็สร้างความสบายใจเวลาที่ไปพักตามที่ต่างๆว่าหากมีใครที่ไม่น่าปลอดภัยก็สามารถมีภาพเก็บไว้ได้เลย อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องบอกเลยว่าถูกเตรียมไว้อย่างดีเพื่อการใช้งานนั้นก็คือ © her.atlas เครื่องดูดควันนั้นเอง…

Read More

7 เรื่องเล่าของมนุษย์ออฟฟิศที่ส่งถึงเพื่อนที่กำลังเพิ่งเริ่มทำงาน

ชาวสัพเพเหระทั้งหลายที่กำลังอยู่ในวัยทำงานหรือกำลังจะเริ่มเข้าไปทำงานเป็นครั้งแรกหรืออาจจะเป็นใครหลายหลายคนที่อาจจะเคยผ่านการทำงานมาแล้วหลายที่ต่างก็มาถามพวกเราเกี่ยวกับเคล็ดลับบางสิ่งบางอย่างที่พวกเค้าจะสามารถเอาไปใช้ในการทำงานได้เพื่อทำให้ตัวเองนั้นก้าวหน้าหรือนอกเหนือจากการทำงานในหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่แล้วว่ายังมีอย่างอื่นอีกบ้างหรือเปล่าที่ยังสามารถทำได้ เพราะแน่นอนว่ามันไม่มีอะไรที่เป็นการบงบอกเลยจากการที่เราเรียนจบมาเพื่อใช้สิ่งต่าางๆ นอกจากวิชาความรู้พื้นฐานและแน่นอนว่าไม่มีพนักงานใหม่คนไหนหรอกที่บริษัทจะส่งคนมาฝึกสอนหรือบอกถึงเรื่องราวต่างๆภายในบริษัท ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราและอีกหลายหลายคนเวลาที่ย้ายที่ทำงานหรือเริ่มงานในที่ใหม่ๆนั้นก็คือเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับประสบการณ์การลองผิดลองถูกนั้นเอง เพราะใครจะก็บอกไม่ได้หรอกว่าสิ่งที่คุณเคยทำผ่านมานั้นมันเหมือนกับสิ่งที่คุณกำลังจะต้องทำต่อไปหรือไม่ แต่เราชาวสัพเพเหระก็ยังมีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่อยากจะเอามาบอกให้เพื่อนเพื่อนของเราได้ลองอ่านและไปปรับใช้กันดูตามสถานะการณ์ต่าง ๆ ซึ่งมันอาจจะดีกว่าที่เราได้เคยเตรียมตัวหรือฟังเรื่องราวเหลานี้มาบ้างเพราะการที่เราไม่มีหรือไม่รู้อะไรหรือไม่มีการเตรียมตัวมาก่อนมันก็ทำให้เราสามารถทำบางสิ่งบางอย่างผิดพลาดไปได้ง่ายๆเลยละ สิ่งแรกเลยเวลาที่มีข้อเสนอที่ฟังดูดีจากบริษัทเราอยากจะให้เพื่อนเพื่อนลองฟังอย่างตั้งใจ และอย่าเพ่งเร่งรีบที่จะรับข้อเสนอเหล่านั้น ที่เราแนะนำแบบนี้เพราะว่าไม่มีอะไรได้มาแบบเปล่าๆหรอกนะ อย่างการที่บริษัทจะทำการขึ้นค่าแรงหรือการเลื่อนตำแหน่งให้ใครสักคนแล้วละก็มันมักจะมาพร้อมกับความรับผิดชอบเพิ่มเติมจากที่คุณเคยทำอยู่แล้วอีกด้วยดังนั้นที่เราบอกให้คุณชลอการตอบรับก็เพื่อที่ว่าคุณจะได้ถามคำถามบางอย่างเพิ่มและขอข้อมูลอื่นๆอย่างเช่นความคาดหวังที่ต้องการจากการเพิ่มเงินเดือนครั้งนี้ หรือทักษะของหน้าที่ใหม่ที่ได้เสนอมานั้นเราเองมีพร้อมหรือยังขาดส่วนไหนอีกบ้างหรือเปล่าอีกทั้งการที่เราสามารถใช้เวลาก่อนการตอบรับเพื่อกลับไปต่อรองสิ่งต่างๆเพิ่มได้อีกอย่างเช่น คุณอาจจะกำลังมองหาหรือได้งานที่มีผลตอบแทนใกล้เคียงกันก็สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะสมได้ หรือหากคุณคิดว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายใหม่นั้นเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยทำมาก่อนก็ยังสามารถขอผู้ช่วยหรืออาจจะขยับเวลาเพื่อเรียนรู้งานต่าง ๆได้อีกด้วยนั้นเอง ซึ่งหากคุณมีเวลาคิดอย่างเพียงพอและทบทวนถึงสิ่งที่ได้มานั้นคือสิ่งตอบแทนเทียบกับเวลาและความรับผิดชอบต่างๆที่คุณจะต้องมีเพิ่มเข้าไปแล้วบางครั้งมันอาจจะกลายเป็นว่าคุณปฎิเสธโอกาสนั้นไปมันยังจะดีกับตัวคุณเองซะมากกว่าเพราะความสุขของแต่ละคนและเป้าหมายของแต่ละคนก็แตกต่างกันดังนั้นสิ่งตอบแทนที่เราอยากจะได้ก็ไม่เหมือนกันการคิดอย่างรอบครอบจึงเป็นสิ่งที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนเพื่อนได้ลองทำก่อนที่จะตอบรับข้อเสนอหรือโอกาสใหม่ๆที่เข้ามานั้นเอง ทราบไว้เป็นแนวทางอย่างหนึ่งเลยว่าถึงแม้ว่าคุณจะเก่งที่สุดในทีมแต่การเลื่อนตำแหน่งในทันทีหรือปีแรกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย @Parks and Recreation ผลการทำงานถือเป็นตัวชี้วัดหรือเป็นสิ่งที่ใช้ในการประเมินในตอนสิ้นปีก็จริงแต่ว่าการที่คุณเข้ามา ทำงานที่ใหม่ในปีแรกนั้นถึงแม้ว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ดีมากมากแต่นั้นก็ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสิ้นปีคุณจะได้ขึ้นตำแหน่งนั้นเป็นเพราะว่าในช่วงต้นของการเริ่มงานไม่ว่าที่ไหนก็แล้วแต่ทีมงานหรือหัวหน้าจะค่อยๆให้งานที่เหมาะสมกับเราโดยเริ่มจากสิ่งที่ทีมคิดว่าง่ายท่ีจะเรียนรู้นั้นเองและอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าก่อนหน้าที่เราจะเข้ามานั้นทีมงานก็ยอมที่จะต้องมีคนที่สร้างผลงานที่กำลังรอที่จะขึ้นตำแหน่งอยู่นั้นเองดังนั้นดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็คือเตรียมตัวให้พร้อมและเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่จะทำให้เราพร้อมสำหรับการรับข้อเสนอใหม่ๆที่เหมาะสมกับเวลานั้นเอง ฝ่ายไอทีสามารถเก็บข้อมูลการใช้งานบนระบบต่างๆของออฟฟิศได้มากกว่าที่หลายหลายคนคิด © Mr. Robot / USA TV Network คงไม่มีใครปฎิเสธว่าปัจจุบันนั้นการทำงานที่ออฟฟิศนั้นสะดวกสบายขึ้นมากไม่ว่าจะเป็นการนัดประชุมหรือส่งเอกสารขออนุมัติต่างๆ ก็สามารถทำผ่านระบบไอทีได้ทั้งหมดอีกทั้งเรายังสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงของออฟฟิศ แต่นอกจากความสะดวกสบายที่เราได้รับมานั้นอีกสิ่งหนึ่งที่ยิ่งสะดวกขึ้นไปอีกก็คือการติดตามเก็บข้อมูลการใช้งานต่าง ๆของเราบนระบบของออฟฟิศนั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายได้มากมากเช่นกัน เพราะไม่ว่าคุณจะใช้งานคอมพิวเตอร์ของออฟฟิศทำอะไรก็แล้วแต่หากทางบริษัทต้องการจะเก็บข้อมูลเหล่านั้นแล้วละก็มันก็สามารถทำได้อย่างสบายเลย และหากคุณคิดว่าทางเลือกของการใช้อุปกรณ์อื่นๆเช่นโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตส่วนตัวจะทำให้คุณมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเราก็ขอเสริมอีกสักหน่อยว่าถ้าคุณยังใช้ระบบ WIFI ของออฟฟิศแล้วละก็มันก็ไม่ต่างอะไรกันเลยเพราะทีมไอทีนั้นสามารถเก็บข้อมูลการใช้งานจากWIFIที่คุณใช้อยู่นั้นแหละ ดังนั้นถ้าคุณต้องการเก็บเรื่องส่วนตัวให้ห่างจากออฟฟิศแล้วละก็เราขอแนะนำให้แยกการใช้งานอุปกรณืต่างๆของออฟฟิศเพื่อทำงานเท่านั้นรับรองว่าทีม ไอทีที่เก่งขนาดไหนก็เข้ามาตรวจสอบข้อมูลของคุณไม่ได้แล้ว ไม่ว่าใครจะพูดถึงเรื่องผลงานหรือความสามารถขนาดไหนก็ตามสุดท้ายแล้วพวกเราก็ยังมีคนที่สนิทและคนที่เรามักจะเห็นดีเห็นงามด้วยเสมอ © Blackish / ABC คุณอาจจะเคยได้ยินคำพูดสวยหรูอย่างที่เจ้านายหลายหลายคนบอกว่า “ที่นี่เราอยูกันอย่างพี่น้อง” หรือ  “ที่นี่เราให้ความสำคัญกับความสามารถมากกว่าความสนิทสนม” แต่ท้ายที่สุดแล้วในการทำงานและในชีวิตจริงที่เราพบก็คือไม่ว่าที่ไหนๆก็ล้วนใช้อารมณ์และความรู้สึกในตอนทำงาน ดังนั้นสิ่งที่ดีและคำแนะนำที่ดีที่สุดที่เราบอกเพื่อนเพื่อนได้ก็คือจงสร้างมิตรให้มากและคุณสามารถแสดงความสามารถได้แต่อย่าพยายามแสดงความเด่นดังเพราะใครจะรู้ละว่ามันอาจจะไม่ถูกใจใครเมื่อไหร่ก็ได้ การตรงต่อเวลาหมายถึง…

Read More

4 เรื่องบอกว่าเราไม่ควรเอาอะไรเข้าไปอ่านขณะเข้าห้องน้ำ

วันนี้พวกเราเพลินเพลินจะมาหยิบยกเรื่องใกล้ตัวมากมากของพวกเรามาให้เพื่อนเพื่อนฟังกันสักหน่อยกับเรื่องของการใช้ห้องน้ำนั้นเอง เพื่อนเพื่อนทราบกันไหมว่าจากการเก็บข้อมูลจากที่ต่างๆ มาแล้วทำการศึกษาทำให้พวกเราพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วเราใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำเพื่อไปทำธุระส่วนตัวนั้นนานมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ซึ่งเมื่อลองเอามาคำนวนเล่นๆกันก็คือต่อวันประมาณสามสิบนาทีนั้นเอง ซึ่งนั้นเกินกว่าที่เราเคยได้รับแนะนำจากหลายหลายที่ว่าให้เราใช้ห้องน้ำเพื่อทำธุระแบบถ่ายหนักนั้นอยู่ที่ราวๆ 10-15 นาทีต่อครั้งเท่านั้นหรือถ้าหากคิดในสัดส่วนต่อรอบสัปดาห์ก็คือประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาทีต่อสัปดาห์เท่านั้นซึ่งที่เราพบว่าหลายหลายคนนั้นมาใช้เวลาในห้องน้ำแบบยาวนานนั้นก็เพราะว่าคุณไม่ได้เข้าไปทำธุระเพียงอย่างเดียวแต่กลายเป็นว่าคุณได้หยิบเอาบางสิ่งบางอย่างเข้าไปด้วยนั้นเอง และหากคุณสงสัยว่าสิ่งนั้นคืออะไรเราก็บอกเลยว่ามันก็คือเจ้าโทรศัพท์มือถือที่เรามีติดตัวกันอยู่ตลอดเวลานั้นแหละคือคำตอบที่ทุกๆคนพกไปด้วย และไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจำนวนมากยอมรับด้วยรอยยิ้มว่าได้ใช้เจ้าโทรศัพท์ขณะอยู่ในห้องน้ำในระหว่างที่กำลังทพธุระอยู่ตลอดนั้นเอง ซึ่งพวกเราเพลินเพลินก็มิอาจบอกได้ว่าสิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่ควรหรือไม่ควรเพราะเราก็ยังทำเช่นเดียวกันในบางครั้ง แต่พวกเราอยากจะบอกเพื่อนเพื่อนว่าการที่คุณพกอะไรเข้าไปอ่านระหว่างทำธุระหนักของคุณนั้นอาจมีสิ่งที่ไม่คาดคิดกำลังเกิดขึ้นนอกจากการที่คุณเข้าห้องน้ำเกินเวลา 15 นาทีแล้วด้วย ข้อแรกเลยซึ่งหลายหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงมาก่อนนั้นก็คือเจ้าสิ่งที่เราเอาเข้าไปด้วยอย่างโทรศัพท์ของเรานั้นจะเป็นสนามเด็กเล่นของเหล่าสิ่งไม่พึงประสงค์ที่เรามองไม่เห็นนั้นเอง เพราะว่าเราต้องสัมผัสประตูและฝาชักโครกรวมไปถึงสิ่งต่างๆในห้องน้ำบางในระหว่างการเข้าไปใช้งานดังนั้นเมื่อคุณหยิบจับเจ้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอ่านหรือทำอะไรระหว่างนั่งในนั้นละก็มันก็จะสามารถถ่ายโอน สิ่งที่เรามองไม่เห็นจากมือของเราไปสู่บริเวณเครื่องโทรศัพท์ด้วยนั้นเอง หรือบางครั้งเมื่อคุณวางมันไว้ตามที่ต่างๆในห้องน้ำเพื่อล้างมือมันก็จะซึมซับเอาสิ่งที่เรามองไม่เห็นเข้ามาแล้ว ซึ่งคงไม่มีใครหรอกนะที่จะเอาเจ้าโทรศัพท์ลงไปล้างน้ำดังเช่นการล้างมือหรือเอาออกมาเช็ดทำความสะอาดหลังจากเข้าห้องน้ำดังนั้นสิ่งที่ติดอยู่มันก็จะกลับมาติดที่มือของเราต่อนั้นเอง ดังนั้นครั้งหน้าหากคุณพกบางสิ่งเข้าไปด้วยละก็ทางที่ดีตอนที่ออกมาถ้าสามารถเช็ดทำความสะอาดเจ้าสิ่งนั้นด้วยก็จะดีมากแต่อันที่จริงไม่ต้องเอาอะไรเข้าไปหรือไม่ต้องหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเลยจะดีกว่านะ การทำงานของระบบขับถ่ายถูกทำให้ไม่สมดุลย์ อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าระยะเวลาที่เหมาะสมในการขับถ่ายหนักนั้นควรจะอยู่ในช่วงหนึ่งนาทีและไม่เกินสิบห้านาทีจึงถือว่าการนั่งชักโครกครั้งนั้นเป็นเรื่องปกติ แล้วถ้าเราใช้เวลาในการนั่งที่นานกว่านั้นละมันจะเป็นอย่างไรเพื่อนเพื่อนหลายอาจจะคิดว่าไม่มีอะไรแต่อันที่จริงแล้วการใช้เวลานานกว่านั้นจะทำให้เกิดแรงกดดันต่อระบบขับถ่ายโดยไม่จำเป็น ซึ่งเมื่อคุณทำแบบนี้บ่อยๆจนกลายเป็นว่าใช้เวลานานแบบไม่คิดอะไรเลยแล้วละก็มันก็จะนำมาซึ่งปัญหาของระบบขับถ่ายอื่นๆอีกเยอะเลยละเพื่อนเพื่อน เพราะคุณมีเวลาอีกมากดังนั้นทำที่ละอย่างก็ได้ เพื่อนของเราบางคนบอกว่าการเข้าห้องน้ำนั้นช่างเป็นช่วงเวลาที่หายไปเฉยๆดังนั้นเพื่อนของเราจึงหยิบเอาหนังคือหรือเอกสารที่ต้องอ่านเข้าไปนั่งอ่านระหว่างที่ต้องเข้าไปทำธุระในห้องน้ำด้วยซะเลย แต่อันที่จริงแล้วการทำแบบนั้นกลับได้ผลตรงข้ามกันด้วยซ้ำเพราะนอกจากว่าคุณต้องมาค่อยพะวงกับการทำความเข้าใจเรื่องที่อ่านแล้วยังต้องมาค่อยคิดถึงเรื่องธุระในห้องน้ำอีกนั้นเองกลับจะทำให้คุณแทบจะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยด้วยซ้ำไปดังนั้นครั้งหน้าหากคุณกำลังต้องรีบอ่านหรือทำอะไรก็แล้วแต่แล้วดันต้องการเข้าห้องน้ำแล้วละก็ควรทำธุระให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงค่อยออกมาอ่านหรือทำธุระอื่นต่อไป การเข้าห้องน้ำทำธุระเพียงอย่างเดียวถือเป็นการฝึกฝนความอดทน เรามีข้อมูลที่บอกว่าอันที่จริงแล้วพวกเรากำลังถูกสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยีที่ใช้นำเสนอเรื่องราวต่างๆนั้นทำให้รู้สึกว่าเราต้องการข้อมูลหรือต้องการความเพลิดเพลินอื่นๆอยู่ตลอดเวลายิ่งในตอนที่เรารู้สึกว่าว่าง ซี่งอันที่จริงแล้วมันเป็นเพราะว่าสมาธิที่เราใช้ในการจดจ่อกับสิ่งที่เราทำตรงหน้านั้นลดลงหรือเรียกได้ว่าพวกเรานั้นถูกดึงดูดด้วยสิ่งอื่นๆได้ง่ายขึ้นนั้นเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวจากเพื่อนเพื่อนของเราผ่านระบบโซเชียลต่างๆ หรือเป็นข้อมูลที่สิ่งต่อกันทางอีเมล์ก็ตามนี้ยังไม่รวมไปถึงความสนุกจากการรับชมวีดีโอต่างๆ ที่เหล่าครีเอเตอร์ได้ทำออกมาเป็นคอนเทนต์ตามเรื่องต่างๆที่เราสนใจที่มีอย่างมากมายในทุกวันนี้นั้นเองดังนั้นการที่คุณสามารถเข้าไปนั่งทำธุระในห้องน้ำสักห้าถึงสิบนาทีได้โดยที่ไม่มีการนำหนังสือหรือโทรศัพท์เข้าไปเล่นก็ช่วยทำให้คุณได้ฝึกฝนการอดทนรอไปในตัวด้วยนะ ดังนั้นพวกเราชาวสัพเพเหระก็อยากจะบอกเพื่อนเพื่อนของเราว่า พวกเราเองนั้นก็ต้องรู้จักใช้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์กับเรามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการพักผ่อนด้วยการดูสื่อบันเทิงเหล่านี้ก็ยังสามารถทำได้แต่ก็ควรจะมีเวลาที่แน่นอนและแบ่งเวลาเพื่อไปทำอย่างอื่นที่เสริมความรู้ของเราในแต่ละวันด้วยนั้นจึงจะเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ที่เราจะหาได้จากสิ่งเหล่านี้อย่างแท้จริงนั้นเอง ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน

Read More

5 เรื่องกับการที่ไม่ควรกลั้นการผายลม

เป็นเรื่องธรรมชาติมากมากที่พวกเราทั้งหลายจะต้องทานอาหารและขับถ่ายซึ่งอีกบางครั้งการระบายออกซึ่งสิ่งของที่เรารับเข้าไปก็ออกมาในรูปแบบของอากาศใช่แล้วละพวกชาวสัพเพเหระกำลังจะพูดถึงเรื่องของการผายลมนั้นเอง เพื่อนเพื่อนทราบกับบ้างไหมว่าในบางคนเรานั้นต้องผายลมแทบจะทุกวันและในบางคนที่มีลมอยู่ภายในหรือทานอาหารเข้าไปเป็นจำนวนมากนั้นอาจจะมีการผายลมมากกว่าคนทั่วไปโดยเฉลี่ยแล้วอาจจจะผายลมได้ถึง 15 ครั้งต่อวัน และอาจในกรณีที่มีลมภายในมากจริงๆอาจจะทำได้มากถึง 40 ครั้ง โอโฮ้ช่างมากมายอะไรขนาดนั้น ซึ่งการผายลมนั้นเกิดจากอากาศหรือก๊าซที่สะสมอยู่ภายในร่างกายของเรานี้แหละ ถึงแม้ว่ามันเป็นกระบวนการปกติตามธรรมชาติ แต่เพราะบางครั้งมันออกมาพร้อมเสียงที่ดังเกินไปหน่อยจึงต้องทำให้เราต้องเขิลอายกันเลยทีเดียวซึ่งนั่นเองคือเหตุผลที่คนเราส่วนใหญ่พยายามที่จะกลั้นมันไว้ซึ่งการทำเช่นนี้บ่อยบ่อยอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก พวกเราชาวสัพเพเหระอยากจะบอกกับเพื่อนเพื่อนว่าการกลั้นผายลมที่หลายหลายคนได้ทำอยู่นั้นบางที่อาจทำให้คุณมีปัญหาได้นะ ซึ่งพวกเราชาวสัพเพเหระก็ได้ไปลองหารายละเอียดต่างๆเพื่อที่จะมาบอกเล่าให้เพื่อนเพื่อนได้ฟังกันในวันนี้ด้วยสาระตามสไตล์ของชาวสัพเพเหระนั้นเอง อย่างแรกเลยเพื่อนเพื่อนต้องเข้าใจสิ่งหนึ่งก่อนว่าภายในร่างกายของเรานั้นมีกระบวนการหนึ่งซึ่งจะพยายามดูดซับสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อมีอะไรก็ตามที่ค้างอยู่ภายในอย่างเช่นอาหารตกค้างหรือแม้กระทั้งการผายลมที่คุณบังคับให้ร่างกายของคุณหยุดผายลม ร่างกายที่ไม่มีทางเลือกในการระบายออกนั้นก็จะทำการดูดซับมันกลับเข้าไป แล้วมันถูกนำไปสู่การไหลเวียนอีกครั้ง และยังเปลี่ยนแปลงไปจนสามารถผ่านออกมาจากลมหายใจของคุณจากการเรอแทนได้ด้วยนะ มันอาจจะย้อนกลับจากด้านล่างขึ้นไปสู่ด้านบนแทนก็ได้ เพราะการที่เราต้องบังคับกล้ามเนื้อบางส่วนของเราเพื่อหลีกเลี่ยงการผายลมออกมา อาจเกิดแรงกดดันภายในจากล่างขึ้นบนแทนภายในร่างกายของเราและสามารถนำไปสู่กระบวนการบางอย่าง เช่นอาหารไม่ย่อย และหากเกิดขึ้นบ่อยครั้งมันอาจเป็นที่มาของการทำงานของการขับถ่ายก็เป็นได้ การผายลมก็คือการระบายลมส่วนเกินที่เกิดขึ้นภายในเส้นทางของการขับถ่าย © DetagePhotos.com ลองคิดภาพของลูกโป่งที่พองขึ้นเพราะภายในมีบางอย่างที่สร้างอากาศเพิ่มขึ้นอยู่ตลอด สิ่งที่จะทำก็คือลูกโป่งจะต้องพยายามระบายลมออกมาที่ทางออกซึ่งหากไม่ทำแบบนั้นลูกโป่งก็จะพองออกไปเรื่อยซึ่งนั้นก็เช่นกันหากเรากลั้นลมไว้มากมากภายในของเราก็จะต้องพยายามขยายขึ้นเหมือนลูกโป่งและหากส่วนที่มันขยายนั้นไปดันหรือเบียดเข้ากับสิ่งอื่นๆก็จะทำให้เราปวดท้องได้นั้นเอง บางคนอาจจะรู้สึกเหมือนร่างกายกลมและอีดอัด แม้ว่าจะไม่มีใครบอกชัดเจนว่าการที่เราทำการกลั้นหรืออั้นการผายลมนั้นจะทำให้ตัวกลมแต่ที่เราพบจากการสอบถามก็คือคนที่ทำการกลั้นการผายลมนั้นจะทำให้ช่วงเวลานั้นของเขาหรือเธอแอบรู้สึกไม่มั่นใจและอึดอัดเล็กน้อยอีกด้วย กลิ่นที่ออกมาบอกเราได้ถึงบางอย่าง กลิ่นของการผายลมนั้นเป็นตัวบ่งบอกบางสิ่งบางอย่างได้มากกว่าที่คุณคิด นั้นก็เพราะว่ากลิ่นของลมที่ออกมานั้นมันก็คือกลิ่นของสิ่งที่อยู่ภายในของเรานั้นเองซึ่งยิ่งถ้ามันมีกลิ่นแรงมากนั้นหมายความว่าภายในนั้นต้องมีสิ่งตกค้างอยู่อย่างแน่นอนและหากเพื่อนเพื่อนยังพยายามที่จะกลั้นการผายลมไว้อีกนั้นก็ยิ่งทำให้เกิดการสะสมของสิ่งต่างๆ มากขึ้นไปอีกดังนั้นทางที่ดีที่เราควรทำเมื่อรู้สึกต้องการผายลมแล้วละก็คือการหาสถานที่ปลอดคนสักหน่อยแล้วอาศัยจังหวะเหมาะๆในการผายลมออกมานั้นเอง ท้ายบทความเราอยากนำเสนอเทคนิคการหลีกเลี่ยงการผายลมที่ดังและกลิ่นแรง © pixabay.com วิธีการง่ายๆเลยก็คือพยายามอย่าเพิ่มลมหรือแก๊สเข้าไปในตัวเราดังนั้นการลดการทานน้ำอัดลมก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยได้และข้อที่สองก็คือการทานอาหารให้ช้าลงและเคี้ยวให้ละเอียดมากขึ้นเพื่อที่จะได้ทำให้การย่อยอาหารทำได้ง่ายและดีขึ้น สุดท้ายแล้วก็คือการทานอาหารที่ช่วยให้การขับถ่ายทำได้ดีขึ้นอย่างผักและผลไม้ที่มีเส้นไยอาหารสูงและทานน้ำให้เพียงพอ เมื่อร่างกายเราระบายสิ่งต่างๆได้ปรกติการผายลมก็จะลดลงทั้งจำนวนและกลิ่นนั้นเอง แล้วเพื่อนเพื่อนละเคยต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เกิดอยากจะผายลมแต่ก็ต้องกลั้นไว้บ้างหรือเปล่าพวกเราไม่อยากให้เพื่อนเพื่อนต้องเจอกับเรื่องราวเหล่านั้นเลยดังนั้นก็ดูแลตัวเองทานอาหารให้ครบและดื่มน้ำตามให้เหมาะสมด้วยนะ ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน

Read More

7 ภาพลักษณะบนตัวเราที่เปิดเผยอายุได้

เคยบ้างไหมที่พอเราออกไปท่องเที่ยวหรือเดินเล่นตามสถานที่ต่าง ๆ หรือแม้แต่การออกไปวิ่งออกกำลังกายแถวบ้านก็สามารถทำให้เราได้พบและรู้จักเพื่อนใหม่ใหม่ได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้โดยบังเอิญแต่ครั้งแรกที่เจอกันนั้นคุณจะเรียกเพื่อนใหม่ของคุณว่าอย่างไรดีละแน่นอนว่ากลางพูดกลางๆออกไปก่อนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างเช่นแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นอย่างและเรียกเพื่อนใหม่ของเราว่าคุณน่าจะเป็นการดีแต่ถ้าบางคนอยากจะลองขยับไปอีกขั้นด้วยการเรียกน้องหรือพีแล้วละก็เพื่อนเพื่อนคงต้องประเมินอีกหลายหลายอย่างเช่นอายุและความเหมาะสมที่จะเรียกด้วยซึ่งพวกเราชาวสัเพเหระนั้นชอบที่จะใช้แทนด้วยคำว่าคุณแล้วตามด้วยชื่อจะดีกว่าเพราะบางครั้งเพื่อนใหม่หรือคนที่ถูกเรียกว่าพี่หรือน้องนั้นอาจจะรู้สึกตรงกันข้ามกับเราก็ได้ดังนั้นจะดีว่าถ้าหากเพื่อนใหม่ของเราเกริ่นออกมาเองว่าให้เรียกเขาว่าอย่างไร เพราะสมัยนี้ใครใครก็อยากที่จะดูเด็กและสดใสอยู่เสมอดังนั้นการถูกเรียกว่าพี่หรืออะไรที่ฟังแล้วไม่ค่อยอายุน้อยสักเท่าไหร่มันช่างปวดเข้าไปถึงข้างในเหลือเกิน แต่เราก็ควรว่างตัวให้ถูกต้องด้วยแล้วเราจะวางตัวอย่างไรหากไม่รู้ว่าเพื่อนใหม่ของเรานั้นเด็กหรืออายุมากกว่าเรา วันนี้เราชาวสัพเพเหระก็เลยมีจุดสังเกตุง่าย ๆ ที่จะมาบอกเพื่อนเพื่อนให้ลองสังเกตุและมันบอกได้ถึงอายุของคนอื่น ๆแบบคร่าวๆ ในบทความนี้เราขอพูดถึงการมองสาว ๆ ก่อนซึ่งหากเพื่อนเพื่อนอ่านแล้วชอบใจในเรื่องราวแล้วละก็พวกเราก็จะขยับมาทำบทความของหนุ่ม ๆ กันต่อไปพร้อมแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่านะ สังเกตที่หน้าผาก © Color China Photo / SIPA ลองคิดกันเล่น ๆ ว่าในร่างกายของเรานั้นภายใต้ชั้นกล้ามเนื้อต่าง ๆ ก็จะมีหลายหลายส่วนประกอบกันอยู่และเมื่อเราอายุมากขึ้นสิ่งเหล่านั้นก็จะค่อยๆสลายหายไปและส่วนที่เรามองเห็นได้บนใบหน้านั้นก็คือปริเวณหน้าผากนั้นเองดังนั้นจุดหนึ่งที่เราเอามาคิดได้ก็คือหากหน้าผากยังดูอิ่มและไม่มีร่องรอยนั้นแสดงว่าเธอยังอายุไม่มากเท่าไหร่ จุดที่สองคือริมฝีปากกับความชุ่มชื้น © J. Cummings / Photoshothot / Eastnews อย่างที่บอกไปแล้วว่าเมื่ออายุมากขึ้นจะมีบางส่วนในกล้ามเนื้อนั้นหายไป ดังนั้นรูปร่างของริมฝีปากของคุณก็จะเปลี่ยนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและจะยิ่งมากขึ้นเมื่อเข้าเลขสี่นำหน้า บางคนนั้นริมฝีปากเปลี่ยนไปถึงขนาดที่ทำให้ดูเล็กและแตกต่างอย่างมากเมื่อมีภาพมาเทียบให้เห็น รอยคล้ำใต้ตาจะยิ่งชัดเจนมากขึ้น © S_BUCKLEY / DENDSPOTOS ต้องบอกว่ารอยคล้ำทีคุณเห็นนั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วเพราะอันที่จริงมันก็คือสีของเส้นต่างๆที่อยู่ในกล้ามเนื้อนั้นเองแต่พอ ชั้นไขมันที่เคยมีอยู่เริ่มบางลงในช่วงหลังจากอายุ 30 ดังนั้นลักษณะบริเวณรอบดวงตาจึงเริ่มสูญเสียความสดชื่นที่เคยมีมา และดวยความที่มันจะมีความโปร่งใสมากขึ้นดังนั้นเราจึงมองเห็นสีต่าง ๆ ที่อยู่ภายในปรากฏตัวมาในรูปแบบรอยคล้ำนั้นเอง ลองมองดูที่ติ่งหูคุณก็จะทราบได้ ต้องบอกเลยว่าบางคนนั้นดูแลตัวเองมากมากแต่ถึงกระนั้นติ่งหูก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ยากที่จะปิดบังอายุ เพราะคุณไม่สามารถที่จะออกกำลังหรือทำอะไรกับมันได้มากนักดังนั้นเมื่ออายุเริ่มขึ้นเลขสี่ไปแล้วจะสักเกตุได้เลยว่าความตึงของติ่งหูนั้นจะลดลงอย่างมากอีกทั้งยังจะรู้สึกได้เลยว่ามันเริ่มยืดยาวขึ้นกว่าแต่ก่อน ระยะห่างของคิ้วต่ำและขอบตาบน ©…

Read More

เรื่องเล่ากับการเปิดพัดลมตอนนอน

ถ้าพูดถึงช่วงเวลาในแต่ละวันของเราแล้วละก็ต่างคนก็ต่างมีเวลาเท่ากันแต่ว่าพวกเราต่างก็มีวิธีการใช้งานเวลาของเราแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันอย่างนักเรียนก็ต้องตื่นขึ้นมาใช้ช่วงเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนและทำการบ้านหรือแบบฝึกหัดแล้วถ้าคุณเป็นคนทำงานแล้วละก็คงต้องบอกว่าเวลาส่วนใหญ่ของคุณก็ต้องใช้ไปกับการทำงานหรือทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และทุกคนมีเวลาเท่ากันแต่ผลงานของเรานั้นต่างกันไปอีกมากมายหลายส่วน แต่นั้นไม่ได้เป็นเรื่องราวที่เราอยากจะสื่อสารกับเพื่อนเพื่อนในวันนี้หรอกนะ ที่เรากำลังจะบอกก็คือช่วงเวลาหลังจากสิ้นวันต่างหากนั้นก็คือช่วงเวลาของการพักผ่อนนอนหลับนั้นเอง เพราะพวกเราชาวสัพเพเหระได้พูดคุยกับเพื่อนเพื่อนของเราและก็กลับกลายเป็นข้อสงสัยถึงการนอนของพวกเราเพราะบางคน กลับชอบเปิดเครื่องปรับอากาศให้อากาศเย็นๆ และนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น แต่อีกหลายคนก็ชอบนอนเปิดพัดลมธรรมดาถึงขนาดที่ต้องบอกว่าไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือหนาวอย่างไรก็แล้วแต่หรือเปลี่ยนสถานที่นอนไปยังที่สวยอสวยของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็ต้องมีเจ้าผัดลมตัวน้อยเปิดอยู่สักหน่อยให้ได้ฟังเสียงแล้วได้รับสายลมเบาๆจากพัดลมก็ทำให้นอนหลับได้อย่างสบายใจแล้ว พอพวกเราชาวเพลินเพลินได้ยินเรื่องการนอนกับพัดลมแบบนี้ก็เลยต้องสงสัยกันไปตามสไตล์ชาวสัพเพเหระที่อยากที่จะรู้เรื่องราวเหล่านี้ประดับความรู้เล็กๆ สักหน่อยเลยได้ไปหาข้อมูลและทำให้เรารู้เรื่องราวต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมาบ้างวันนี้เราเลยอยากจะมาลองเล่าเรื่องให้เพื่อนเพื่อนได้ฟังเกี่ยวกับการนอนและเจ้าพัดลมนั้นเองพร้อมไปฟังกันแล้วละสิ ข้อแรกเลยนะการนอนเปิดพัดลมให้เป่าโดนร่างกายตรง ๆจะทำให้อากาศแห้ง เราพบกว่าการเปิดพัดลมทิ้งไว้ในวันที่อาการร้อนมากมากจนทำให้คุณเหงื่อออกนั้นสามารถช่วยระบายเหงื่อ และความชื้นออกจากร่างกายของคุณได้ แต่ถ้าหากว่าที่ที่คุณอยู่นั้นมีอากาศแห้งมากมากอยู่แล้วคุณอาจจะปากแห้งหรือจมูกแห้งจนเกินไปได้ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำก็คือการดื่มน้ำสักเล็กน้อยก่อนนอน และปรับให้พัดลมไม่โดนตัวมากเกินไป ข้อสองหากคุณไม่่ค่อยได้ทำความสะอาดห้องแล้วละก็คงต้องพิจารณาก่อน แน่นอนว่าหากคุณไม่ได้ทำความสะอาดห้องเป็นประจำแล้วละก็สิ่งที่ต้องมีอยู่แน่นอนที่พื้นห้องหรือตามตู้เตียงโต๊ะต่าง ๆ นั้นก็คือเจ้าฝุ่นนั้นเองซึ่งมีคุณเปิดพัดลมแล้วละก็สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความกระจายของฝุ่นเหล่านั้นนั้นเองดังนั้นคุณควรจะเช็ดทำความสะอาดห้องบ้างอย่างน้อยก็สัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครั้งเพื่อที่เวลาเปิดผัดลมแล้วจะได้นอนอย่างสบายใจนั้นเอง ข้อที่สามในวันที่อากาศเย็นต้องห่มผ้าให้ดีดี เป็นเรื่องปรกติที่เราหลายๆคนทราบอยู่แล้วแต่อาจจะหลงลืมกันไปว่า อากาศตอนช่วงค่ำกับช่วงดึกนั้นจะต่างกันอีกเนื่องจากอุณหภูมิในตอนกลางคืนมีแนวโน้มที่จะลดลงและบางครั้งก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการการสัมผัสกับอากาศที่มีความเย็นเป็นสาเหตุหนึ่งของการเป็นตะคริวของตามส่วนต่าง ๆ ดังนั้นสิ่งที่เราจะต้องแนะนำเพื่อนเพื่อนก็คือให้คุณเปิดพัดลมให้กดลงที่พื้นแทนที่จะโดนตัวตรงๆ และอีกอย่างก็คืออย่าเพิ่งเปิดแรงมากเกินไปและถ้าดีขึ้นไปอีกถ้าเพื่อนเพื่อนสามารถมีผ้าห่มอาจจะเป็นแบบบางๆ เพื่อที่จะช่วยให้เราไม่โดนลมตรงๆและยังช่วยให้เราไม่ร้อนจนเกินไปอีกด้วย ในบางวันเพื่อนเพื่อนาสามารถเลือกทำสิ่งเหล่านี้แทนการเปิดพัดลมได้ เราขอเสนอเรื่องง่าย ๆ ที่หลายหลายคนหลงลืมไปอย่างการเปิดหน้าต่าง ซึ่งนั้นเป็นวิธีแสนง่ายสำหรับวันที่อากาศไม่ร้อนมากการเปิดหน้าต่างสักหนึ่งหรือสองบานก็จะช่วยทำให้ลมเย็นในตอนกลางคืนผ่านเข้ามาได้สะดวกและ หรือหากเพื่อนเพื่อนยังรู้สึกร้อนอยู่แล้วละก็เพื่อนเพื่อนลองเราเจ้าพัดลมตัวเดิมนั้นแหละแต่แทนที่จะเปิดแล้วเป่าลมไปมาภายในห้องไปลองเป่าลมออกจากห้องทางหน้าต่างที่เราเปิดไว้บานใดบานหนึ่งนั้นแหละซึ่งการทำแบบนี้นั้นจะช่วยพลักอากาศร้อนออกจากห้องไปได้แล้วเมื่ออากาศมีการเคลื่อนไหวอากาศที่เย็นกว่าก็จะไหลเข้ามาแทนที่ทำให้ห้องของเราเย็นขึ้นได้ยังไงละซึ่งจากที่เราทราบมาทำให้อากาศเย็นลงได้หนึ่งถึงสององศาเลยนะ หากห้องของเพื่อนเพื่อนร้อนหรืออากาศแห้งเกินไปแล้วละก็ผ้าชุบน้ำหมาดๆหรือถังที่มีน้ำใส่อยู่สักใบจะช่วยได้ สำหรับบ้านเราแล้วละก็เราอยากให้เพื่อนเพื่อนลองใช้ถังน้ำสักใบใส่น้ำแล้ววางไว้ภายในห้องตอนนอนเพื่อที่ว่าเวลากลางคืนนั้นจะมีไอน้ำระเหยออกมาช่วยให้ห้องของคุณและอากาศในห้องไม่แห้งจนเกินไปแต่อย่าลืมวางไว้ในจุดที่ไม่เดินไปเตะหกละและอย่าลืมเททิ้งในตอนเช้าด้วยละ แล้วเพื่อนเพื่อนละเป็นอย่างไรบ้างกับการนอนโดยที่ใช้เพียงแค่พัดลมเท่านั้นคุณมีเคล็ดลับแบบไหนที่ช่วยในนอนหลับได้อย่างเย็นสบายบ้างยังไงก็ส่งมาให้พวกเราทราบกันทางเพจของเราด้วยสิ ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ

Read More

5 สิ่งของภายในบ้านที่ใช้จัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากตัวเราได้ง่ายๆ

ทราบกันบ้างหรือไม่ว่ากลิ่นต่าง ๆ นั้นที่เราสามารรับรู้ได้แท้จริงแล้วมันก็คืออนุภาคเล็กๆ ของสิ่งต่าง ๆ ที่ลอยออกมาจากต้นทางนั้นเองซึ่งกลิ่นที่หอมหรือเหม็นของแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันไปตามความชอบของแต่ละคนนั้นเอง ดังนั้นเมื่อได้กลิ่นแบบเดียวกันบางคนอาจจะชอบก็บอกว่าหอมหรือบางคนที่ไม่ชอบก็จะบอกว่าเหม็น และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือเมื่อคุณได้กลิ่นของอะไรก็ตามต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ พอถึงจุดหนึ่งแล้วละก็ร่างกายของเราจะไม่สนใจเจ้ากลิ่นนั้นทำให้ไม่ได้รู้สึกถึงทั้งที่มันก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมก็ตามและที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ พวกเราต่างมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน และอย่างที่บอกว่าเวลาเราได้กลิ่นอะไรก็แล้วแต่ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆมันก็จะไม่สนใจแล้วซึ่งนั้นเองที่เราไม่ค่อยรู้สึกถึงกลิ่นของเราเอง แต่คนอื่นๆ ยังคงได้รับรู้ถึงสิ่งนี้อยู่ซึ่งไม่ต้องกังวลไปเพราะวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระได้หาเรื่องราวของการใช้สิ่งที่อยู่ในบ้านเพื่อมาช่วยลดกลิ่นเหล่านี้ลงได้แบบง่าย ๆ เลย พวกเรารู้สึกว่าการทำ การแช่เท้าในน้ำผสมกับน้ำส้มสายชู ต้องบอกเลยว่าน้ำส้มสายชูนั้นถือเป็นสิ่งของที่อยู่คู่บ้านของเราและมันยังมีประโยชน์หลากหลายมากมายที่เราสามารถเอามาใช้ได้และอีกหนึ่งประโยชน์ของมันก็คือช่วยจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ดังนั้นถ้าหากว่ารองเท้าหรือเท้าของคุณมีกลิ่นแล้วละก็คุณสามารถใช้สิ่งนี้เล็กน้อยผสมกับน้ำอุ่นๆแล้วแช่เท้าของคุณไว้ 10 นาทีก่อนที่จะล้างด้วยน้ำสบู่โดยเพื่อนเพื่อนลองทำอาทิตย์ละครั้งก็จะช่วยได้ กากกาแฟสารพัดประโยชน์ © flockine / Pixabay เราทราบกันอยู่แล้วว่ากากกาแฟที่ได้จากการชงกาแฟนั้นมีประโยชน์ในการดุดความชื่นและยังขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นในห้องหรือในตู้ของคุณแต่นอกเหนือจากสิ่งนี้แล้วคุณสามารถเอามาล้างมือเพื่อลดกลิ่นที่ติดมาจากการทำอาหาร และนอกจากนั้นคุณยังสามารถนำกากกาแฟมาขัดตัวได้อีกด้วย โดยคุณสามารถแยกเก็บกากกาแฟไว้แล้วเมื่อต้องการนำมาใช้ล้างหรือขัดตัวก็นำมาผสมกับน้ำมันมะพร้างหรือน้ำมันมะกอกสักเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความลื่นของตัวกากกาแฟหลังจากใช้แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสบู่ตามปรกติ การดื่มน้ำมะนาวก็สามารถช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ มะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซี และกรดซิตริกซึ่งช่วยปกป้องร่างกายของคุณจากสิ่งที่ก่อให้เกิดกลิ่นได้และ การดื่มน้ำมะนาวและหรือทาน้ำมะนาวก็ช่วยปรับเปลี่ยนระดับค่า pH ของร่างกายได้ซึ่งจะทำให้กลิ่นเบาบางลงได้ และคุณไม่ควรโดนแดดเวลาทาน้ำมะนาวเพราะมันจะทำให้เกิดรอยได้ น้ำมันมะพร้าวสามารถใช้กลั้วปากได้ด้วย เพื่อนเพื่อนทราบกันบ้างไหมว่าน้ำมันมะพร้าวนั้นอุดมสารต่างๆและมีคุณสมบัติที่ดีต่อร่างกายอีกทั้งยังสามารถต้านสิ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นภายในปากของเราได้ดังนั้น ในการใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำยาบ้วนปากหรือที่เรียกว่าการดึงน้ำมันกลั้วคอโดยใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะแล้วกลั้วคออย่างน้อย 5 นาทีหรือนานที่สุด 20 นาทีจึงบ้วนน้ำมันออกแล้วล้างออกด้วยน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่น เบกกิ้งโซดา © Evita Ochel / Pixabay, © Congerdesign เบกกิ้งโซดาคืออีกหนึ่งสิ่งที่หากคุณมีไว้ในบ้านแล้วละก็คุณสามารถใช้มันได้อย่างหลากหลายวิธีทั้งการผสมกับที่ล้างจานหรือนำมาล้างผักผลไม้ก็ยังได้ และอีกสิ่งหนึ่งก็คือการควรลดกลิ่นไม่พึงประสงค์เพราะด้วยคุณสมบัติในการดูดความชื่นและจัดการกับตัวที่ทำให้เกิดกลิ่นโดยเพื่อนเพื่อนสามารถผสมมันเข้ากันแป้งข้าวโพดในอัตรส่วน…

Read More
Back To Top