สาระน่ารู้

หลายหลายคนที่ไม่ได้ออกไปไหนเลยนานๆ พอตอนนี้ต้องเริ่มที่จะกลับไปทำงานนอกบ้านเหมือนอย่างเคยก็เริ่มที่จะหันกลับมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้นแล้ว วันนี้พวกเราที่สัพเพเหระก็เลยลองไปหาดูสิว่ามีเรื่องอะไรที่เราพอจะเอามาบอกกับเพื่อนเพื่อนเผื่อว่าจะไปประโยชน์ให้กับเพื่อนเพื่อนในตอนที่ต้องออกจากบ้านได้บ้าง แล้วเราก็ไปอ่านเจอเรื่องราวน่าสนใจของคุณ Vera ที่ทำงานในวงการความงามมานานถึง 6 ปี และด้วยความสามารถของเธอนี้เองที่ทำให้เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการตัดแต่งทรงผมแต่ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังมีความรู้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเส้นผมให้เราได้เรียนรู้อีกด้วย โดยเธอได้เขียนบทความลงในเว็บไซต์แห่งหนึ่งโดยชื่อบทความว่า “The Hairdresser’ s Diary” และเมื่อเราได้ลองอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่เพื่อนของเราท่านนี้ได้บอกเล่าไว้เราก็เลยคิดได้ว่าสิ่งนี้นั้นเองที่น่าจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนเพื่อนของเราได้ใช้กันนั้นเองเพราะหลายหลายอย่างที่เธอแนะนำนั้นก็ต่างจากสิ่งที่เราได้เคยรับรู้มาก่อนหน้านี้อย่ารอช้าเลยไปอ่านเรื่องราวของเธอกันเลยดีกว่า พวกเราควรสระผมบ่อยแค่ไหน เป็นคำถามซึ่งหลายหลายคนก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเธอเองนั้นต้องสระผมทุกวันหรือเปล่าเพราะหลายคนก็บอกว่ายิ่งสระผมบ่อย ๆ ก็ยิ่งไม่ดีต่อเส้นผลแต่ถ้าไม่สระผมทุกวัน ผมจะยิ่งสกปรกเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้ว บริเวณศีรษะ และเส้นผมของเรานั้นก็ได้รับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในอากาศเวลาที่เราออกไปข้างนอกและผลจากสิ่งสกปรกดังนั้นการการสระผมบ่อย ๆ ก็สามารถทำได้เพียงแต่ว่าคุณต้องรู้จักเลือกสิ่งที่ดูอ่อนโยนสักหน่อย เพราะความแรงของแชมพูที่เราเลือกต่างหากที่ทำให้เกิดความแห้งดังนั้นถ้าคุณรู้สึกว่าต้องสระผมทุกวันก็เลือกให้มันอ่อนโยนและเหมาะสมเท่านั้นเอง ทำไมเราถึงรู้สึกว่ามีผมขาดร่วงไปกองอยู่ที่ฝาท่อจำนวนมากขึ้นช่วงในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง © Depositphotos ซึ่งนั้นเป็นเรื่องตลกมากมากว่าฤดูกาลจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไน สิ่งที่เราต้องทำก็คือให้ลองสังเกตุดูก่อนว่าในช่วงดังกล่าวนั้นคุณได้ทานอาหารครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ หรือว่ามีอาการป่วยอะไรบ้างหรือเปล่าเพราะ อันที่จริงแล้วผมที่ขาดนั้นมักจะเกิดจากสาเหตุเหล่านี้นั้นเอง (ไม่นำที่เป็นตามช่วงอายุที่มากขึ้น) ทำไมผมของเราถึงพันกัน © pixabay หลายหลายคนที่มีผมยาวมักตั้งคำถามนี้เพราะไม่ว่าจะดูแลระหว่างวันอย่างดีแล้วก็ตามก็กลับพบว่ามีผมพันกันอยู่ดีในตอนสิ้นวัน ซึ่งคำตอบนั้นก็คือผมของคุณแห้งเกินไปแล้วนั้นเองลองคิดภาพของเส้นผมกันก่อนนะอันที่จริงมันก็คือเส้นยาวๆ ที่มีแกนตรงกลางและบริเวณภายลองก็เหมือนกันเปลือกหุ้มเท่านั้นเมื่อมีน้ำมันค่อหล่อเลียงก็ทำให้เปลือกยังคงสภาพที่ดีนั้นเองแต่พอแห้งเกินไปก็ทำให้เกิดการหลุดลอกของเปลือกนั้นเองที่ทำให้เกิดเป็นขุยและนั้นเองที่ทำให้ผมพันกันและมักจะเกิดขึ้นกับปลายผมดังนั้นคคุณก็แค่ต้องเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับส่วนนี้ก็เท่านั้นเอง น้ำมีผลต่อเส้นผม และสิ่งอื่นๆบนศีรษะของเราอย่างไร © Depositphotos อย่างแรกเลยมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าน้ำนั้นมีความกระด้างอยู่แล้วจะมากจะน้อยก็แล้วแต่ ซึ่งหากเพื่อนเพื่อนได้ลองสีงเกตุว่ามีคราบเคลือบสีขาวภายในก๊อกน้ำ และกาน้ำชาแสดงว่าน้ำที่คุณใช้นั้นกระด้าง ซึ่งเส้นผมของคุณก็จะได้รับการเคลือบแบบเดียวกันนี้…

กระแสต้นไม้และไม้ประดับต่าง ๆ ช่างมาแรงเหลือเกินในช่วงปีที่ผ่านมาและขนาดที่ว่าในหลายหลายเดือนให้หลังนี้เราก็ยังได้เห็นและได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้สวย ๆ ที่เพื่อนเพื่อนของเราหลายหลายคนเริ่มหันมาสนใจไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้ ไม้โบราณ หรือ แบบเรียบง่ายอย่างแคนตัสเล็ก ๆที่ไม่ต้องการการดูแลที่ยุ่งยากเลยเพียงแค่มีน้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ กับแสงแดดอุ่น ๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่เรื่องราวเหล่านี้มันจะมาเกี่ยวข้องกับเจ้าเบกกิ้งโซดาได้อย่างไรกันนะเพราะที่เรารู้จักมาก่อนก็คือเจ้าเบกกิ้งโซดานี้เป็นหนึ่งในสิ่งพวกเราหลาย ๆ คนหรืออาจจะทุกคนมีไว้ที่บ้าน และเราก็ใช้มันเพื่อทำความสะอาด คราบดำสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือมาล้างจานชาม แต่ใกล้จะไปคิดละว่าเจ้าสิ่งนี้มันจะมีประโยชน์มากขึ้นไปอีกด้วยการที่เราสามารถใช้มันเพื่อการดูแลเหล่าต้นไม้ของเราได้ด้วย(ถึงจะไม่ทุกชนิดก็ตามนะ) พวกเราชาวสัพเพเหระที่เริ่มต้นหัดเลี้ยงต้นไม้ก็เหมือนกับเพื่อนเพื่อนทุกคนนั้นแหละ ก็คือเริ่มหาดูและถามเอาจากคนอื่น ๆ หรือมีการค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการเลี้ยงต้นไม้ที่เราสนจากจากแหล่งต่าง ๆ เท่าที่จะหาได้ แล้วเราก็บังเอิญไปเจอเข้ากับเจ้าสิ่งสารพันประโยชน์ ใช้แล้วมันก็คือเบกกิ้งโซดาที่จะมาช่วยเราปกป้องเหล่าต้นไม้ของเรา และพอเรารู้เรื่องก็อยากที่จะทำการแบ่งปันสิ่งที่เราค้นพบกับเพื่อนเพื่อนด้วยแต่ถ้าใครรู้แล้วก็ลองมาช่วยบอกเพิ่มได้นะ 1. sาดำที่เพื่อนเพื่อนเห็นตามขอบกระถ่างหรือที่ต่าง ๆ © PicsFive / Depositphotos ขั้นตอนง่าย ๆ เพียงแค่เตรียมน้ำผสมสบู่สักหน่อยแล้วเอาเบกกิ้งโซดาใส่ลงไปอาจจะต้องเขย่าให้เข้ากันสักหน่อย แค่นี้คุณก็พร้อมแล้วที่จะนำไปใช้งานในการฉีดรอบรอบกระถ่างต้นไม้หรือ ในส่วนของใบไม้หรือกิ่งไม้ที่มีเจ้าsาดำขึ้นอยู่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้หายไปทันที่แต่มันก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างแน่นอนนอกจากนั้นยังช่วยลดการปรากฏตัวของเพลี้ยที่น่ารำคาญ © Shnurochek13 / Depositphotos เพลี้ยเป็นหนึ่งในสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่เหล่าคนที่ดูแลต้นไม้และดอกไม้ต่างไม่อยากให้มาเยี่ยมเยี่ยนแปลงหรือสวนของเราอย่างแน่นอน เนื่องจากเพลี้ยอ่อนตวเล็ก ๆ…

พวกเราต่างรู้ดีว่าอะไรที่ดีต่อตัวเราเอง อย่างเช่นการได้ทานอาหารที่เหมาะสมและพักผ่อนอย่างเพียงพอและการได้ขยับเนื้อขยับตัวอย่างการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนควรทำ และถึงแม้ว่าพวกเราจะรู้ดีว่าการออกกำลังกายเป็นประจำมีประโยชน์มากมายแต่พวกเราหลายหลายคนก็ยังไม่ค่อยอยากจะทำสักเท่าไหร่นัก แล้วมันจะมีท่าออกกำลังกายหรือการทำอะไรบ้างละที่จะสามารถช่วยเราทดแทนการวิ่งหรือออกกำลังกายนอกบ้านได้บ้าง พวกเราชวนสัพเพเหระจึงได้ลองคิดกันว่ามันจะเป็นอย่างไรหากคุณสามารถทำการออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องลุกจากเตียง หรือระหว่างรออาหารทานอาหารเช้า คุณสามารถฟิตและจัดการกับแคลอรี่ที่เพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมใด ๆ บนพื้นห้องนั่งเล่นของคุณเองโดยไม่ต้องไปโรงยิม พอคิดได้แบบนั้นพวกเราก็แยกย้ายไปกันลองดูแล้วก็ได้พบกับบทความนี้เข้าซึ่งมันน่าสนใจมากมาก เมื่อพวกเราชาวสัพเพเหระพบการออกกำลังกายง่าย ๆ บางอย่างที่แม้แต่คนที่ไม่ค่อยชอบการออกกำลังกายมากที่สุดก็สามารถเพลิดเพลินได้จากบนที่นอนของห้องนอนของเพื่อนเพื่อน มาเริ่มกันเลยกับท่ายืดท่าแรก ที่เรียกว่าท่า Piriformis การทำท่านี้จะทำให้คุณได้ยืด และเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วน piriformis ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในการหมุนสะโพก นี่เป็นกล้ามเนื้อที่สำคัญซึ่งอาจจะทำให้คุณรู้สึกเมื่อยเอวได้หากกล้ามเนื้อ piriformis ตึงเกินไปไปเริ่มกันเลยดีกว่า  นั่งโดยเหยียดขาออกไปข้างหน้า  ไขว้ขาขวาไปทางซ้ายแล้ววางเท้าขวาราบกับพื้น  จากนั้นวางมือขวาบนพื้นด้านหลังลำตัว และมือซ้ายบนเข่าขวา (หรือข้อศอกเพื่อยืดตัวขึ้น)  กดขาขวาไปทางซ้าย แล้วบิดลำตัวไปทางขวาเบา ๆ  ค้างไว้เป็นเวลา 30 วินาทีแล้วทำซ้ำในอีกด้านหนึ่ง 2. ท่ายืดขาด้านนอก สำหรับเพื่อนเพื่อนที่รู้สึกว่าตึงบริเณสะโพก การออกกำลังกายท่านี้สามารถปรับปรุงการเคลื่อนไหวของสะโพกของคุณในระยะยาวได้ ซึ่งบางครั้งเราอาจละเลยมันในการใช้ชีวิตประจำวันของเราหากเรานั่งทำงานทั้งวัน นั่งโดยให้เข่าขวาอยู่ตรงหน้าคุณโดยให้ทำ 90 องศา และต้องแน่ใจว่าน่องของคุณตรงอยู่ และส่วนล่างของเท้าหันไปทางซ้าย พร้อมกับงอเท้าขวา วางเข่าซ้ายไปทางด้านซ้ายของลำตัว และงอเข่าโดยให้เท้าของคุณหันเข้าหากำแพงด้านหลังคุณ พร้อมกับงอเท้าซ้าย ให้แก้มก้นขวาติดพื้น แล้วขยับแก้มก้นด้านซ้ายให้ชิดพื้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค้างไว้ตั้งแต่ 30 วินาทีถึง 2 นาทีขึ้นอยู่กับระดับความสะดวกสบายของคุณ…

วันนี้เราชาวสัพเพเหระไปพบเรื่องราวที่ดูสบาย ๆ ซึ่งเพื่อนของเราหลายหลายคนเคยบอกว่าการได้ลองหยุดพักวางจากสิ่งที่มีเดินให้ช้าลง หรือไม่มีโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัวปล่อยให้เราได้อยู่ในช่วงที่เป็นตัวของตัวเองบ้างถือว่าเป็นการพักผ่อนและเติมพลังให้กับตัวเองซึ่งฟังดูแล้วมันก็เข้าท่ามากมากแต่คงทำได้สักไม่กี่วันหรอก เพราะทุกวันนี้เราเหมือนกำลังวิ่งแข่งอยู่ตลอดเวลาแน่นอนว่าเพราะทุกอย่างมันรวดเร็วขึ้นมากเราจึงต้องทำให้ตัวเราเองรวดเร็วตามไปด้วยนั้นเอง แต่ถ้าเราจะบอกเพื่อนเพื่อนว่ายังมีที่แห่งหนึ่งซึ่งยังคงเดินหน้าไปด้วยความเรียบง่ายและไม่ต้องการอะไรมากนอกจากความสุขละแถมทุกวันที่นี้ก็ยังดำเนินไปแบบเรียบง่ายไม่เร่งรีบตามแบบที่เราบอกให้เพื่อนเพื่อนได้ฟังในช่วงต้นละเพื่อนเพื่อนจะสนใจไปอยู่บ้างไหม ใช่แล้วเรื่องราวที่เรากำลังจะบอกให้เพื่อนเพื่อนได้ทราบกันเป็นเรื่องราวของชุมชน ชาวoามิชซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อาศัยและตั้งขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยที่นี้ไม่ใช้ไฟฟ้าหรือแม้กระทั้งโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก็ไม่มีพวกเขายังคงใช้ม้าในการเดินทางและขนของเดินไปซูเปอร์มาร์เก็ตภายในกลุ่ม โดยที่หากเพื่อนเพื่อนสนใจก็สามารถไปทัวร์สำหรับชมชุมชนของพวกเขาได้ พอได้ยินแบบนี้แล้วทำให้เราอยากเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่ใช้มาตั้งแต่ยุค 1700 ที่อยู่ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างไร มีเรื่องราวต่าง ๆ น่าสนใจมากมากเกี่ยวกับพวกเขาซึ่งเราจะค่อย ๆ อธิบายให้เพื่อนเพื่อนฟังนะพร้อมแล้วก็ไปเริ่มกันเลยดีกว่า ©Depositphotos ข้อแรกเลยที่นี้เป็นชุมชนปิดของชาวoามิชที่ได้รับการบันทึกไว้ว่ารูปแบบต่าง ๆ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 100-200 ปีก่อน เพื่อนเพื่อนยังสามารถนั่งเกวียนม้าบนถนนแต่ก็สามารถมองเห็นรถยนต์สมัยใหม่ได้บ้างบางครั้ง เป็นที่ทราบกันดีว่าชาวอามิชแทบไม่สนใจในการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ พวกเขาใช้ชีวิตตามรูปแบบที่ทำต่อต่อกันมาโดยแยกออกจากโลกปัจจุบัน พวกเขายังชอบลงมือทำงานด้วยกันกับคนครอบครัวดังนั้นที่นี้หนึ่งครอบครัวจึงมีลูกเฉลี่ยประมาณ 6 คน มีชาวอามิชมากกว่า 300,000 คนและส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามกฎและประเพณีของพวกเขาแตกต่างกันไปแต่ล่ะกลุ่ม ©Depositphotos ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง แต่เขาก็ยังสามารถเป็นผู้โดยสารได้เช่นกัน การนั่งรถประจำทาง รถไฟ หรือรถยนต์ของคนอื่นที่ต้องการให้พวกเขานั่ง เพราะมันช่วยให้พวกเขาเข้าถึงสถานที่ที่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถม้าที่มี ชาวอามิชไม่ใช้จักรยาน แต่รถสกู๊ตเตอร์แบบใช้แรงส่งจากขากลับได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจากรถม้า ซึ่งคนหนุ่มสาวจำนวนมากใช้ขี่ไปโรงเรียน และจริงๆแล้วพวกเขาเรียกว่าสกูตเตอร์อามิช ซึ่งมีบริษัทพิเศษที่ผลิตสกูตเตอร์เหล่านี้ ©Depositphotos จุดหลักเลยที่ทำให้ที่นี้ยังคงความเรียบง่ายอยู่เพราะมีกฎที่ว่าจะไม่มีการใช้ไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถใช้วิทยุ ทีวี หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น…

โดยทั่วไปแล้วเรามักจะได้ยินคำแนะนำจากใครต่อใครที่ว่าให้ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และหลายคนพยายามทานน้ำหรืออาจจะพกขวดน้ำไปทุกที่เพื่อให้ได้ดื่นน้ำในปริมาณน้ำที่ต้องการ หรือบางครั้งพวกเขาก็สร้างวิธีการต่างๆเพื่อเตือนตัวเอง และบางคนก็วางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะข้างเตียงเพื่อเตือนตัวเองให้จิบในตอนเช้า อย่างไรก็ตามการเก็บน้ำไว้ใกล้เตียงของคุณอาจไม่เป็นประโยชน์อย่างที่คุณคิด พวกเราได้ตรวจสอบข้อสงสัยนี้ และเราอยากจะะอธิบายให้ผู้อ่านของเราเข้าใจว่าทำไมจึงควรเตรียมน้ำเปล่าในตอนเช้า ดีกว่าการดื่มจากแก้วที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงตั้งแต่เมื่อคืน ข้อแรกเพราะละอองต่าง ๆ อาจหล่นลงไปในน้ำของคุณ © shutterstock.com, © Depositphotos.com การเทน้ำลงในแก้วที่เปิดโล่งและทิ้งไว้จนถึงเช้าอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสิ่งแปลกปลอมประเภทต่างๆ เช่น ยุง แมลงวัน และแมลงอื่น ๆ จะมาเกาะที่แก้วของคุณในตอนกลางคืน รวมไปถึงฝุ่น และเศษต่างๆ บางอย่างอาจเข้าไปในน้ำในขณะที่คุณกำลังนอนหลับ ซึ่งคุณอาจไม่ทันสังเกตเห็นในขณะที่ดื่มน้ำในตอนเช้า น้ำเปลี่ยนรสชาติได้ หากคุณเทน้ำประปาลงในแก้วแม้ว่าจะกรองแล้วก็ตามมันก็อาจยังหลงเหลือคลอรีนอยู่ แต่คลอรีนจะเริ่มระเหยในช่วงกลางคืน จากนั้นรสชาติของน้ำก็จะเปลี่ยนไป ด้วยเหตุนี้คุณอาจคิดว่าน้ำมีรสชาติค่อนข้างจืดหากคุณคุ้นเคยกับการดื่มน้ำกรองทันที  อีกทั้งเมื่อคุณดื่มน้ำจากแก้วเดียวกันซึ่งดื่มเมื่อคืนก็อาจจะทำให้สิ่งเจือปนต่างๆ เติบโตขึ้นในช่วงกลางคืนและนั้นเองที่ให้คุณควรจะล้างแก้วน้ำหลังจากทานเสร็จแล้ว อย่าตั้งแก้วน้ำไว้ใกล้ตัวในที่ที่มีปลั้กไฟ © Depositphotos.com หลายคนชอบที่จะชาร์จอุปกรณ์ เช่นโทรศัพท์ไว้ใกล้เตียงและใกล้ตัว ดังนั้นหากคุณวางแก้วน้ำไว้บนนั้นอีกอย่าง แล้วบังเอิญทำหกโดยไม่ได้ตั้งใจ มันก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาได้อีกเยอะ และสุดท้ายการวางแก้วน้ำไว้ใกล้เตียงอาจรบกวนการนอนของคุณได้ หากคุณดื่มน้ำในตอนกลางคืน หรือก่อนเข้านอนทันทีนั้นอาจจะทำให้ระหว่างคืนนั้นคุณต้องตื่นเพื่อมาเดินไปเข้าห้องน้ำ และการที่คุณกลับมาที่เตียงแล้วพบกับแก้วน้ำบางครั้งคุณอาจจะดื่มลงไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่นั้นเองที่เป็นจุดเริ่มให้คุณต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำอีกรอบเพราะ ระหว่างที่คุณนอนลงและกำลังจะเริ่มเข้าสู่ช่วงหลับสนิทร่างกายก็จะอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาพอดีและนั้นเองทำให้จังหวะการนอนของคุณไม่เพียงพอและทำให้ ตื่นเช้ามาด้วยความรู้สึกเพลียอีกด้วย คุณมีปัญหากับการดื่มน้ำให้เพียงพอในระหว่างวันหรือไม่? และคุณใช้เทคนิคอะไรในการรักษาความชุ่มชื้นให้ตัวเอง? แบ่งปันเรื่องราว…

เพื่อนเพื่อนของเราน่าจะต้องเคยได้ยินได้ฟังคำว่า “แคลอรี่” กันมาบ้างหรืออาจจะแค่ผ่านหูเฉยๆ ก็ได้แล้วมันคืออะไรเหรอเจ้าแคลอรี่เนี้ย ?  ใช่แล้วละมันคือหน่วยวัดของพลังงานที่เราจะได้จากการทานอาหารอาหารนั้นเอง ถ้าหากคถณเป็นคนหนึ่งที่เริ่มหันมาสนใจกับคำนี้แสดงว่าคุณกำลังสนใจตัวเองขึ้นมาอย่างแน่นอน และนั่นเองเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการทานอาหาร อย่างไรก็ตามจำนวนของอาหารไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล แต่มันเป็นเรื่องของปริมาณของแคลอรี่มากกว่าที่ต้องใส่ใจ เราจะลองมาแสดงให้คุณเห็นว่าอาหารที่มีแคลอรี่แค่ 100 แคล มีอะไรบ้าง และมันอาจเป็นอาหารที่คุณโปรดปราน รีบเช็คไวๆ ว่ามันคุ้มไหมที่จะกินมันเมื่อคุณกำลังต้องการความเพรียว วันนี้พสกเราชาวสัพเพเหระลองหาบทความที่เกี่ยวกับอาหาร 100 แคลมาให้เพื่อนเพื่อนได้ชมหันโดยให้เพื่อนเพื่อนดูจากเส้นที่เราวงไว้ให้นะว่านั้นคือปริมาณที่ทานแล้วได้ เริ่มต้นจากอาหารเช้าง่ายง่ายที่ใครหลายหลายคนชอบทาน 1. โยเกิร์ตกรีก (มันดูน้อยกว่าที่เราคิดไว้มากเลยนะ) © Shutterstock.com 2. ไข่ต้ม ทานได้ตั้ง 1 ใบ ครึ่งเลยนะ © Shutterstock.com 3. เบคอน 2 ชิ้นเล็กๆ นะ © Flickr 4. เนยถั่วครึ่งช้อนนะจ้า © Shutterstock.com 5. ครัวซองต์ต้องว่าว่าได้แค่นี้จริงจริง © Unsplash.com 6. สตรอเบอร์รี่ทานให้เต็มที่ไปเลย © Shutterstock.com อาหารกลางวัน /…

พวกเราอาจคิดว่าการสระผมเป็นเรื่องง่าย แต่ก็มีข้อผิดพลาดบางอย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า สิ่งที่คุณทำอาจทำให้ผมขาดน้ำ แตกปลาย หรือแม้แต่เกาหนังศีรษะแรงเกินไป และยังมีกลเม็ดบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนให้ผมของคุณดู “ว้าวขึ้นมาโดยไม่ต้องไปร้านเสริมสวย” พวกเราได้ทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อหาข้อผิดพลาดในการสระผมที่ทำให้ผมไม่แข็งแรงและไม่เงางาม 1.สระผมบ่อยเกินไป © Shutterstock.com ภาพซ้ายคือผมที่ผ่านการสระทุกวัน ภาพขวาคือสัปดาห์ละสองครั้ง ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องใช้แชมพูทุกครั้งที่สระผมในการรักษาความสะอาด การล้างผมด้วยน้ำหลายๆ ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอที่จะขจัดสิ่งสกปรกที่มองเห็นได้ การใช้แชมพูมีเหตุผลแค่ด้านความงามเป็นหลัก และฟองแชมพูจะขจัดน้ำมันออกจากเส้นผมของคุณ แต่น้ำมันก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเส้นผมเพื่อให้ผมมีสุขภาพดี มันช่วยให้ความชุ่มชื้นและปกป้องเส้นผมจากความเสียหาย 2. คุณล้างผมไม่สะอาดพอหรืออาจจะใช้แชมพูมากเกินไป © Depositphotos.com, © AdoreBeautyNZ / Pixabay การล้างผมให้สะอาดอย่างน้อยหนึ่งนาทีก่อนใช้แชมพูจะช่วยขจัดสิ่งตกค้างจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมล่าสุดที่คุณใช้ การปล่อยให้ผมเปียกจนหมดก่อนค่อยใช้แชมพูเป็นขั้นตอนสำคัญในการสระผมอย่างมีประสิทธิภาพ หากผมของคุณเปียกจากบนลงล่าง แชมพูจะจับตัวเป็นฟองได้ดีขึ้นและกระจายอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะช่วยให้คุณใช้แชมพูน้อยลงอีกด้วย 3. ถ้าใช้ครีมนวดผมหลังสระผม © Shutterstock.com ภาพซ้าย ใช้แชมพูก่อน ภาพขวา ใช้ครีมนวดก่อน เราคุ้นเคยกับการสระผมด้วยแชมพูก่อนแล้วจึงตามด้วยครีมนวดผม แต่การสระผมแบบใช้ครีมนวดก่อนใช้แชมพูจะได้ผลดีกว่าสำหรับผมบางประเภท การใช้ครีมนวดผมก่อนจะทำให้ผมของคุณดูพองฟูขึ้น วิธีนี้ได้ผลดีที่สุดสำหรับผมเส้นเล็กที่ต้องการความชุ่มชื้น แต่คอนดิชันเนอร์ส่วนใหญ่สามารถทำให้ผมหนักและมัน 4. ถ้าใช้แชมพูที่ปลายผม © Depositphotos.com, © Depositphotos.com หากคุณใช้แชมพูที่รากผมแล้วยังเติมลงไปบนเส้นผมส่วนที่เหลือ นั่นอาจทำให้ปลายผมเสียหายได้…

เพื่อน ๆ ก็คงรู้มาบางว่าการที่เหล่าดาราทั้งหลายนั้นจะมีรูปร่าง หรือ ผิวพรรณที่ดูดีได้นั้น มันต้องผ่านการดูแลอย่างดีมาก่อน ซึ่งโดยปกติจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะเพื่อดูแลดาราเหล่านี้ และนี่คือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาดูอ่อนเยาว์และสดใสอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามดาราบางคนยอมรับว่าในชีวิตปกติ พวกเขาใช้เทคนิคเล็ก ๆ น้อย แต่มันมีประสิทธิภาพมาก เพื่อทำให้พวกเค้าและเธอเหมือนกับว่าออกมาจากร้านเสริมสวยเลยทีเดียว หลังจากที่พวกเราได้ทราบข้อมูลเหล่านั้น และได้ลองตรวจสอบดูก็พบว่ามีเพื่อน ๆ บางคนได้ตัดสินใจที่จะทดสอบวิธีแปลกๆเหล่านี้ ว่าสิ่งที่เหล่าคนดังเหล่านั้นทำเพื่อช่วยให้พวกเขาสดชื่น หรือ ดูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว มีผลลัพธ์เป็นแบบไหนบ้าง Kate Hudson ใช้น้ำแข็งเพื่อทำให้ผิวของเธอดูยืดหยุ่นขึ้น นักแสดงหญิง Kate Hudson ยอมรับว่าการแช่ตัวในน้ำแข็งช่วยให้ผิวของเธอสดชื่นขึ้นในเวลาไม่กี่นาที “ถ้าฉันรู้สึกเหนื่อยหรือใบหน้าของฉันมีความคร่ำเครียดหรือฉันไม่ค่อยได้นอน ฉันจะจุ่มหน้าของฉันในชามน้ำแข็ง และฉันจะพยายามแช่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้” เคทยังบอกอีกว่าวิธีนี้ช่วยให้เธอดูดีแม้หลังจากคืนที่ไม่ได้นอน เจน: ฉันทำตามนั้นโดยใช้น้ำเย็น + น้ำแข็ง’ เป็นเวลา 5 วัน หลังจากทำทุกขั้นตอนฉันรู้สึกดีขึ้น และเห็นว่าผิวฉันสดชื่นขึ้นริ้วรอยเล็ก ๆ หายไปทีละน้อย ซึ่งแตกต่างจากการถูด้วยน้ำแข็ง เนื่องจากวิธีนี้ผิวจะกลายเป็นสีแดง แต่ก็ให้ความชุ่มชื้นอย่างแท้จริง สรุป: ฉันจะเลือกการแช่น้ำเย็นแบบนี้แทนทุกวัน Kim Kardashian ใช้วิธีดูแลรูปร่างและน้ำหนักด้วยการดูแลอาหารตามหลักโภชนการ เพื่อดูแลรูปร่างและ น้ำหนัก และ…

บทความนี้เป็นการรวบรวมเรื่องราวและประสพการณ์ที่อยากจะส่งต่อให้กับ คนหนุ่มสาวบางคนที่เตรียมจะออกมาใช้ชีวิตอิสระ ด้วยการแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว ซึ่งนั้นเปรียบเสมือนการออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่สำหรับหลาย ๆ คนเลยทีเดียว เพราะพวกเขาไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร พวกเขาบางคนยังไม่รู้วิธีการจัดการกับเงินที่มี หรือการทำอาหารเพื่อลดค่าใช่จ่าย ซึ่งส่วนใหญ่คงทำเป็นแต่เมนูไข่ต้มง่าย ๆ  เนื่องจากขาดการเตรียมตัวสำหรับปัญหาใหญ่ เมื่อพวกเขาตัดสินใจย้ายออกจากบ้านของพ่อแม่ เด็กๆ ส่วนใหญ่จึงต้องเรียกรู้และปรับตัวอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงแรก ๆ ของการออกมาอยู่นอกบ้าน พวกเราเชื่อว่าไม่มีอะไรน่าอายถ้าคุณจะไม่รู้เรื่องอะไรสักเรื่อง แต่อาจเป็นเรื่องน่าละอายที่คุณไม่ยอมหาทางออก หรือไม่ยอมแก้ไขปัญหา ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะรวบรวมเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มทักษะในชีวิตที่ต้องใช้เพื่อดูแลตัวเองสำหรับมือใหม่หัดอยู่คนเดียวอย่างคุณ วิธีการจัดระเบียบชีวิตของคุณ – หากคุณกำลังเปิดกล่องที่มีใส่ของหนักๆ อย่างเช่น ทีวี ควรเปิดกล่องจากด้านล่าง แล้ววางมันลงบนพื้น หลังจากนั้นก็แค่ยกกล่องขึ้น เท่านี้ก็ง่ายกว่ายกทีวีออกจากกล่องตั้งเยอะ © Ayushi-Patel / Quora – เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในบ้านบางอย่าง ให้เริ่มจากซื้อสิ่งนั้นเลือกที่ราคาถูกแต่ดูทนทานไว้ก่อนอย่า และเมื่อใช้มันจนพังแสดงว่าคุณจำเป็นต้องใช้มันจริง ๆ และตอนนี้ก็คุ้มค่าพอที่จะซื้อของในราคาที่แพงขึ้นแล้ว © marco262 / Reddit – เมื่อคุณล้างหน้าต่าง ควรเช็ดกระจกด้านในเป็นแนวตั้ง และแนวนอนด้านนอก เพื่อให้รู้ว่าด้านไหนเช็ดเรียบร้อยแล้ว โดยสังเกตจากลายเส้นบนกระจก © Overheard. Lifehacks / vk…

เรามีข้อมูลที่หลายหลายคนคิดว่าไม่สำคัญแต่จริง ๆ แล้วมันสำคัญมากมากกับตัวคุณและคนรอบรอบข้าง มันเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่หลายครั้งเรากลับไม่ให้ความร่วมมือหรือ บอกข้อมูลที่ไม่ตรงไปตรงมาทั้งหมด ใช่แล้วเรากำลังพูดถึง เวลาที่ไปหาหมอในตอนที่เราไม่สบาย คนส่วนใหญ่มักจะบอกข้อมูลไม่ครบ หรือปิดบังอาการไว้ และนั้นเองนำมาซึ่งการวินิจฉัยที่มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดมากกว่าเดิมและบางครั้งก็เกิดผลกระทบร้ายเกินกว่าที่เราคาดเอาไว้ แต่นอกจากการให้ข้อมูลไม่ครบแล้วยังมีอีกหลายปัจจัย ซึ่งเราอาจจะตาดไม่ถึงว่ามันร่วมอยู่ในขั้นตอนการ วินิจฉัยด้วย โดยจากการศึกษาพบว่าสาเหตุนั่นเกิดจากการกระทำผิดๆ ของผู้ป่วย ดังนั้นเมื่อไปพบแพทย์สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือคุณต้องตรวจสอบตัวคุณเองก่อนเช่นกัน พวกเราได้รวบรวมเคล็ดลับที่สามารถช่วยคุณหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการวินิจฉัย และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงได้ต่อไปนี้ การทำเล็บก่อนไปพบแพทย์ผิวหนัง © shutterstock.com แพทย์ผิวหนังให้การรักษามากกว่า 3,000 โรค ในระหว่างการตรวจร่างกายแพทย์ไม่เพียงแต่ตรวจสอบผิวของคุณ แต่พวกเขายังต้องตรวจสอบเล็บของคุณ สุดท้ายอาจมีการติดเชื้อรา มันจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่แพทย์จะต้องเห็นสภาพเล็บจริงๆของคุณ เล็บอาจบ่งบอกถึงโรคของอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย ดังนั้นควรให้ความสนใจตัวเองมากพอ 2. อย่าดื่มสารกระตุ้น หรือ ที่ทำให้เกิดอาการมีน ก่อนวัดค่าคอเลสเตอรอล © depositphotos.com © depositphotos.com แม้ว่ามันจะปราศจากคอเลสเตอรอล แต่ก็มีน้ำตาลเป็นจำนวนมากรวมถึงมีคาร์โบไฮเดรตซึ่งอาจทำให้คอเลสเตอรอลในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าระดับคอเลสเตอรอลของคุณจะกลับสู่ปกติ แต่แพทย์อาจได้รับผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง 3. ดื่มน้ำมากพอก่อนการตรวจปัสสาวะ © depositphotos.com ปัสสาวะของมนุษย์เป็นน้ำ 99% และมีเพียง 1%…