การค้นพบสิ่งเหล่านี้ที่เปิดมุมมองใหม่ๆให้เราได้อีกเยอะ

465

หากเพื่อนเพื่อนยังจำโครงเรื่องของภาพยนตร์สุดดังในอดีตอย่างไททานิคได้ละก็ เพื่อนเพื่อนจะพบว่าอันที่จริงแล้วจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เราประทับใจนั้นก็คือการที่มีกลุ่มนักสำรวจที่พยายามจะไปค้นหาของล้ำค่านั้นก็คืออัญมณีที่สาปสูญไปกับการจมลงของเรือลำมหึมานั้นเอง ซึ่งจากจุดเริ่มต้นเล็กๆเหล่านี้และการออกค้นหาบางสิ่งบางอย่างก็ทำให้เราได้พบกับเรื่องราวประทับใจที่รออยู่อย่างที่เราเองก็คาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน ซึ่งนอกจากเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ที่เราได้ชมกันไปแล้วอันที่จริง พวกเราชาวสัพเพเหระเองก็มีความคิดแบบเดียวกันนี้เหมือนกันนะ

เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวหรือการค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่เคยได้เจอมาก่อนนั้นมันช่วยบอกเล่าเรื่องราวและจุดประกายความคิดต่อสิ่งต่าง ๆ ที่จะตามมาในภายหลัง หลังจากที่ได้พบเจอสิ่งเหล่านั้นก็อาจจะเป็นได้ อย่าง พวกเราก็ได้นำภาพสิ่งของที่เพื่อนเพื่อนของเราได้ค้นพบโดยความบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม ซึ่งมันก็ทำให้เราพวกเราได้รับรู้เรื่องราวบางอย่างเพิ่มขึ้นอีกด้วย ลองไปชมกันเลยดีกว่าว่าจะมีเรื่องราวอะไรดีดีที่น่าสนใจกันบ้าง

ในภาพยนตร์เค้าอาจจะกำลังหาเพชรหรืออัญมณีอันงดงามและสูงค่าซึ่งจะมีหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ในอีกด้านหนึ่งนี้คือภาพของนาฬิกาของจริงที่นำกลับมาจากจุดที่เรือจมลง และมันหยุดเดินหลังจากเรือจมไป 8 นาทีซึ่งภายนอกยังอยู่ในสภาพที่ดีมากมากเลย
© Titanic

ในกรุงเวียนนาเราเห็นสถานที่หนึ่งที่หลายคนพยายามเลี่ยง นั้นคือประติมากรรมกลางแจ้งที่เห็นแล้วก็อยากเดินผ่านจุดนั้นให้ไว สงสัยจริงๆว่าสร้างจากแนวคิดแบบไหนกันนะ© reddit
เพื่อนเพื่อนน่าจะเคยพบงูกันมาบ้างแต่ที่สีของเกล็ดเป็นแบบนี้ละเคยเจอกันบ้างหรือเปล่า และถ้า มองให้ชัดจะเห็นว่ามันเหมือนใบหน้าที่กำลังยิ้มให้เราอยู่ด้วยนะ
© reddit

ใครจะคิดว่ากระดาษธรรมดาใบนี้จะมีค่า เพราะมันคือบัตรสมาชิกระดับVIP ของคุณปู่ที่ร้านข้างบ้านยังสามารถเอามาเป็นส่วนลดพิเศษได้เสมอ ที่น่าสนใจนั้นก็คือร้านเค้ายังจำได้และมีการบริการที่ดีเสมอมานี้แหละที่ทำให้เราประทับใจ
© reddit
นาฬิกากุ๊กกูที่อยู่มุมหนึ่งในห้องตอนที่ไปเจอก็ไม่ได้คิดอะไรแต่พอคุณพ่อมาเห็นเข้าก็เล่าให้ฟังว่ามันคือของเล่นชิ้นแรกที่เราได้มาและตอนนั้นเรามักจะนั่งดูมันก่อนจะหลับไปและตื่นพร้อมเสียงปลุกในตอนเช้า ทำให้คิดถึงวันเก่าๆเลย
© reddit
เมื่อถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไปต้นไม้ก็จะเริ่มเปลี่ยนสีและเติบโตเหมือนกับคนเรานี้แหละ แต่ที่เปลี่ยนที่ละครึ่งต้นแบบนี้ก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันนะ
© reddit
ใบเสร็จรับเงินที่มาพร้อมหนังสือเก่าจากปี 1981 เป็นไงละเก่าจริงแน่นอนแต่ที่อยากจะบอกก็คือการดูแลและการเก็บรักษาสิ่งต่างๆมันสามารถทำได้ อย่างหนังสือที่ทำจากกระดาษเล่มนี้ยังอยู่มาแล้ว 40 กว่าปีเลยเพียงแค่เราเข้าใจและดูแลมันเท่านั้นเอง
© Puggledor / reddit
เพื่อนกระรอกน้อยที่สอนบทเรียนอันสำคัญนั้นก็คือ มันจะค่อยเก็บเอาลูกไม้ที่หล่นไปสะสมไว้ทานในฤดูหนาว เหมือนกับเราที่ต้องเตรียมเก็บเงินไว้สำหรับช่วงเวลาในอนาคตยังไงละ
© reddit
ที่คุณกำลังอ่านอยู่คือหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวเรื่องไททานิคจมในวันถัดมา
© reddit
ความน่ารักของศิลปินท่านหนึ่งที่เปลี่ยนพื้นที่ของก้อนอิฐธรรมดาที่อยู่มุมตึกให้กลายเป็นผลงานที่ใครๆก็ต้องเหลี่ยวมอง
© reddit
ที่เห็นเป็นเส้นขาวอยู่กลางภาพไม่ใช่ว่าเราเอาตกแต่งภาพนะ แต่มันคือลำแสงที่เกิดจากดาวตกที่เราบังเอิญถ่ายไว้ได้
© Samtulp6 / reddit
นี้แหละที่เค้าบอกว่าเราดูกันที่ภายนอกไม่ได้อย่างโรงแรมที่เราไปพักนั้นถ้านับอายุจริงๆ ละก็มันสร้างมาร่วม 60 ปีแล้วแต่ที่เพื่อนเพื่อนกำลังเห็นอยู่นั้นคือเครื่องวัดแรงลมที่จะเชื่อมอยู่กับระบบเปิดปิดกันสาดและผ้าม่านซึ่งมันจะทำงานเองโดยเมื่อแรงลมเกินกว่าที่กำหนดเพื่อให้แน่ใจว่าผ้าม่านจะไม่ถูกแรงลมผัดไปสร้างความเสียหายให้กระจก เป็นไงละนี้แหละที่เค้าเรียกว่าทุกอย่างสามารถปรับตัวให้เข้ากับอนาคตได้
© maypop80 / reddit
ที่กำลังเห็นอยู่ไม่ใช่นามบัตรทั่วไปแต่อันที่จริงมันคือเครดิตการ์ดที่มีมาตั้งแต่ปี 1955 ซึ่งตอนนั้นยังใช้วัสดุที่เป็นกระดาษอยู่เลย โดยคุณปู่เล่าว่าแต่ก่อนนนั้นจะใช้การจดบันทึกและการโทรศัพท์สอบถามเพื่อยืนยันการใช้งานคู่กับรหัส
© moon_jock / reddit
ความน่ารักของคนออกแบบหนังสือบทนี้นั่นก็คือพวกเขาใช้บทกวีที่กล่าวถึงเด็กชายคนนึงเรียงตัวอักษรให้ได้เป็นเค้าโครงของผู้ชายคนหนึ่งนั้นเองซึ่งมันทำให้เข้าใจเลยว่าเจ้าของบทกวีกำลังพยายามสื่อสารถึงอะไร
© reddit
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ