การจะสร้างสรรค์ผลงานอะไรออกมาสักชิ้นนั้นไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย เพราะมันต้องใช้ทำกำลังสมองและกำลังทางการเงินอีกจำนวนไม่น้อยเลยกว่าจะทำสิ่งแปลกใหม่หรือสิ่งที่เราต้องการนำเสนอให้ออกมาดีและเป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนใหญ่ได้ ยิ่งการสร้างภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆยิ่งแล้วใหญ่เพราะมันจะมีกระบวนการที่มหัศจรรย์เบื้องหลังอีกมากมาย ซึ่งมันมีข้อมูลวงในที่รู้กันเฉพาะสมาชิกในกองถ่ายและนักแสดงที่ทำงานในเรื่องเท่านั้น นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมรายละเอียดพิเศษมากมายยังไม่ถูกคลี่คลายสำหรับผู้ชมทั่วไป ตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์เรื่อง Speed คีอานู รีฟส์บังเอิญทำกระจกแตกในรถบัสซึ่งมันไม่มีในบทแต่ทางผู้สร้างก็ยังจัดให้ฉากนี้ยังคงอยู่ในภาพยนตร์ที่ออกฉาย และในภาพยนตร์ Alien Resurrection, Sigourney Weaver ที่มีเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมายเกิดขึ้นแต่ก็ไม่มีใครนำสิ่งเหล่านี้ออกมาบอกเล่ากัน และเป็นเพียงเรื่องราวที่บอกต่อต่อกันไปในกลุ่มของผู้สร้างเท่านั้น
แต่วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็ได้พบข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ่นในขั้นตอนการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ดังๆหลายเรื่องที่เราก็ไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องราวเหล่านี้ ซึ่งนั้นก็เป็นที่มาของบทความที่เพื่อนเพื่อนกำลังจะได้อ่านกันนั้นเอง
ในเรื่อง Terminator 2: Judgement Day ตัวเอกอย่างลินดา แฮมิลตันต้องเรียนรู้วิธีเปิดล็อกเข็มขัดที่มัดตัวเธออยู่ด้วยคลิปหนีบกระดาษ และเธอผู้กำกับก็ให้เธอทำมันจริงๆ ในฉากที่เธอหนีออกมาจากโรงพยาบาลนั้นเอง ดังนั้นสิ่งที่คุณเห็นมันคือความสามารถล้วนๆ ไม่ได้เกิดจากตัวช่วยอื่นๆ เลยนะ
© Terminator 2: Judgment Day
แล้วเพื่อนเพื่อนทราบไหมว่าความทุ่มเทของเหล่านักแสดงนั้นก็คืออีกเรื่องที่ต้องทำให้เราทึ้งอย่างเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบทบาทหลักใน The Theory of Everything นักแสดงอย่างเอ็ดดี้ เรดเมย์น จึงได้ทำการคุมน้ำหนักให้ลดลงไปถึง 15 ปอนด์ และต้องฝึกบิดตัวค้างไว้ให้เหมือนกับบทที่แสดงโดยใช้เวลากว่า 4 เดือนเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนกับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับเซลล์ประสาทสั่งการเดียวกัน เอ็ดดี้ เรดเมย์นจะยืนอยู่หน้ากระจกเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อเรียนรู้ที่จะบิดใบหน้าของเขาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้เขายังต้องหลังค่อมไปมาระหว่างการถ่ายทำ ในที่สุดการแสดงบทบาทดังกล่าวได้ส่งผลต่อแนวกระดูกสันหลังของเขา
© Theory of Everything
อีกหนึ่งความพยายามของเหล่านักแสดงจาก Interview With The Vampire ที่ต้องห้อยหัวเป็นเวลา 30 นาทีก่อนเริ่มถ่ายทำเพื่อให้ช่างแต่งหน้าสามารถแต่งหน้าได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าว เพื่อให้เกิดของเหลวไหลไปที่ศีรษะ และเส้นแสงและเงาบนใบหน้าจะเริ่มชัดขึ้น หลังจากนี้ช่างแต่งหน้าใช้แนวของเส้นต่าง ๆ ที่เด่นชัดเหล่านั้นของนักแสดงเพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามของเหล่าแวมไพร์
©Interview With The Vampire
ขณะถ่ายทำ Lord Of The Rings ตอน Fellowship Of Ring บรรดาเหล่านักแสดงต้องบินไปยังที่สถานที่ถ่ายทำที่ไกลมากมากและอยู่บนภูเขาสูง โดยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งฌอน บีน ที่เล่นเป็นโบโรเมียร์ นั้นกลัวการนั่งเครื่องบินแต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เค้าจะไม่เดินทางขึ้นไปเพื่อแสดงและทำหน้าที่ของเค้า และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาใช้เวลา 2 ชั่วโมงต่อวันเดินทางขึ้นไปบนภูเขา โดยแต่งตัวเป็นโบโรเมียร์อยู่แล้ว
© The Lord of the Rings
ใน Captain Phillips วลีที่ว่า “ดูฉันสิ! ตอนนี้ฉันเป็นกัปตันแล้ว!” เป็นการแสดงด้นสดของนักแสดงที่เปิดตัวครั้งแรก Barkhad Abdi นั่นเป็นเหตุผลที่ Tom Hanks ดูประหลาดใจอย่างเป็นธรรมชาติในเฟรม อย่างไรก็ตาม หลังจากภาพยนตร์ออกฉายแล้ว Abdi ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขา “นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม”
© Captain Phillips
อีกหนึ่งเรื่องราวที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของหลายหลายคนนั้นก็คือ เมื่อ Keanu Reeves วิ่งขึ้นไปที่รถบัสในเรื่อง Speed เขาก็ชนเข้ากับประตูรถบัสและต้องทุบกระจกให้มันแตก ซึ่งมันเกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่ฉากนั้นถูกใช้ในภาพยนตร์ที่ออกฉาย
© Speed / 20th Century Fox
และอีกหนึ่งฉากที่โด่งดังและเป็นที่กล่าวขวัญในหนังเรื่องนี้คือ การกระโดดจากรถบัสผ่านช่องว่างของสะพานที่ขาดอยู่บนทางด่วน แต่อันที่จริงแล้วสะพานถูกประกอบเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ไม่ได้มีส่วนใดๆเลยที่ขาดหายไป แต่มันถูกลบออกไปด้วยเทคนิคทางดิจิทัล แต่ในฉากนี้รถบัสนั้นพุ่งขึ้นไปเหมือนบินขึ้นจริงๆ ด้วยการสร้างทางลาดแบบพิเศษเพื่อทำให้รถพุ่งลอยไปอย่างที่เห็น และรถบัสที่ขับมาถึงความเร็ว 61 ไมล์ต่อชั่วโมงก็เดินทางขึ้นไปในอากาศสูงถึง 109 ฟุต ยิ่งกว่านั้น จู่ๆ ล้อหน้าของมันแตะระดับความสูงจากพื้น 20 ฟุต ซึ่งสูงกว่าที่ใครจะคาดคิด รวมทั้งช่างกล้องด้วย ส่งผลให้ส่วนหน้าของรถโดยสารออกจากกรอบภาพนั้นเอง
© Speed / 20th Century Fox
ก่อนไปธนาคาร ตัวละคร Baby Driver สวมหน้ากากเหมือน Michael Myers ซึ่งสตูดิโอต้องการใช้หน้ากาก Michael Myers ดั้งเดิมจากวันฮัลโลวีน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ ตอนนั้นเองที่โปรดิวเซอร์โทรหา Michael Myers และเขาอนุญาตให้พวกเขาใช้หน้ากากที่ดูเหมือนใบหน้าของเขา
© Baby Driver / TriStar Pictures
ในฉากหนึ่งจากภาพยนตร์เรื่อง Alien Resurrection ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์โยนลูกบาสเกตบอลลงในห่วงจากจุดซึ่งยืนอยู่ในระยะไกลโดยหันหลังอีกต่างหาก และเพื่อให้การเคลื่อนไหวนี้เหมือนจริงที่สุด เธอต้องฝึกฝนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนบาสเกตบอล ซึ่งภาพที่เห็นในภาพยนตร์นั้นคือจังหวะที่เกิดขึ้นจากการโยนลูกบาสลงห่วงจริงๆ ถึงแม้ว่าจะต้องถ่ายทำอยู่นานมากก็ตาม
© Alien Resurrection / 20th Century Studios
ทราบไหมละว่าเจ้าสุนัขที่ปรากฏใน I Am Legend ถูกพบในที่พักพิงโดยครูฝึกสัตว์ และเพราะมันมีรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบแต่ มันแทบจะไม่รับฟังอะไรเลยดังนั้นผู้ฝึกสอนต้องทุ่มเทเวลาหลายสัปดาห์ในการสอนให้เธอปฏิบัติตามคำสั่งที่จำเป็น
© I Am Legend
และมนฉากบางอย่างอย่างในร้านที่ไม่มีผู้คนอยู่แล้วนั้น ที่เห็นเป็นหุ่นยืนอยู่นั้นหุ่นบางตัวในร้านวิดีโอก็เล่นโดยคนจริงๆ หากสังเกตดีๆ คุณจะเห็นพวกมันเคลื่อนไหว
© I Am Legend / Warner Bros.
ในฉากจากภาพยนตร์เรื่อง The Devil Wears Prada เมื่อมิแรนดาและแอนดี้นั่งเบาะหลังของรถในปารีส ทีมผู้สร้างได้ใช้รถ Mercedes S-class ที่ผ่าครึ่งจริงๆ เพื่อช่วยให้ตากล้องได้มุมที่ต้องการ
© The Devil Wears Prada / 20th Century Studios
ในฉากหนึ่งใน Fight Club ตัวละครที่เล่นโดย Brad Pitt และ Edward Norton กำลังทำสบู่ ซึ่งในฉากนั้นคือขั้นตอนจริง ๆ และนักแสดงก็ทำสบู่จริงๆออกมาหลังจากที่จบฉากนี้อีกด้วย
© Fight Club / Fox 2000 Pictures
สนามบินที่สร้างขึ้นสำหรับการถ่ายทำเรื่อง The Terminal โดยเฉพาะ โดยมันดูเหมือนสนามบินดึสเซลดอร์ฟของจริงมากมาก แต่มันถูกสร้างขึ้นในโรงเก็บเครื่องบินเก่าที่มีบันไดเลื่อนทำงาน 3 ชุดและเต็มไปด้วยร้านค้าขนาดใหญ่มากมาย เพื่อให้ดูสมจริงที่สุด
© The Terminal
ใน Millionaire ตัวแสเงหลังอย่าง Jamal ที่ตกลงไปในหลุมในห้องน้ำสาธารณะที่ดูเหมือนจริงมากมากเลยนั้น อันที่จริงกองมันคือเนยถั่วและช็อกโกแลตที่ถูกผสมเข้าด้วยกัน
© Celador Films
Star Wars: The Phantom Menace มีภาพของน้ำตกบนดาวนาบู แต่อันที่จริงคือเมืองจำลองที่สร้างขึ้นและสายน้ำที่เห็นนั้นมันคือเกลือที่ถูกปล่อยออกมาจากท่อส่งนั้นเอง
© Star Wars Episode I: The Phantom Menace / Lucasfilm
เราจะเห็นว่าหลักแล้วนอกจากเทคนิคพิเศษแล้วความทุ่มเทของเหล่านั้นแสดงและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างภาพให้ดูสมจริงที่สุดคือสิ่งที่เราต้องประหลาดใจเมื่อได้ทราบนั้นเอง
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ
