เรื่องเล่าเมื่อความรักไม่ได้มีอยู่ทุกที่กับการการปฏิเสธความรักแบบนี้ก็ได้เนอะ

2293

ความรักไม่ได้มีเส้นทางที่ชัดเจนเสมอไป สำหรับบางคนบางครั้งมันก็แสดงให้เราเห็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงชัน ทางเดินที่เต็มไปด้วยพายุ และเส้นทางที่ช่างขรุขระเหลือเกิน และบ่อยครั้งมันก็จะแสดงสัญญาณที่ให้เราต้องหยุดทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคิดไว้ เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อมีใครสักคนปฏิเสธเรา และหลังจากวันนั้น มันก็จะเหลือแค่ตัวเราจนกว่าความรักครั้งใหม่จะผ่านมาให้โอกาสเราอีกครั้ง และนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกี่ยวกับความรัก เพราะมันคือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ไม่อย่างนั้น เราก็คงไม่สามารถนึกถึงการถูกปฏิเสธในอดีตที่ผ่านมาด้วยความขบขันได้

แต่เมื่อเราผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้แล้วได้พบเจอและเติบโตขึ้นมาจากอดีตแล้วละก็ เมื่อลองมองย้อนกลับไปเรื่องราวเหล่านั้นมันก็แค่เรื่องตลกขบขันเรื่องหนึ่งที่ผ่านเข้ามาและผ่านไปแล้วนั้นเอง วันนี้เราลองมาฟังเรื่องราวเหล่านั้นกันเลยดีกว่า

เรื่องแรกเจอกันตั้งนานเป็นได้แค่น้องสาว

มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่เรากำลังเรียนอยู่ มีผู้ชายที่เราแอบชอบมาชวนเราไปเดท ซึ่งมันดีมากมากและต่อมาเค้าเริ่มชวนเราไปเจอเพื่อนในกลุ่มของเค้าและเมื่อวาน เราได้ไปทานอาหารกับครอบครัวของเค้า แต่แล้วตอนที่เค้าแนะนำตัวเรากับครอบครัวประโยคสุดท้ายคือ “เราคือคนที่เค้าเจอและอยากดูแลให้เหมือนน้องสาวของเค้าตลอดไป” อะไรหว่า..แบบนี้ก็ได้เหรอเนี้ยคุยกันตั้งนานเป็นได้แค่น้องสาว

เรื่องที่สองห้องน้ำที่ใช้เวลาเดินทางนานที่สุด

ครั้งหนึ่งเราไปงานนัดเดทแบบไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนที่เพื่อนของเราจัดขึ้นมา ที่เจ็บสุดก็คือมีคู่เดททั้งหมด 14 คู่ซึ่งเราเป็นคนแรกที่มาถึงและเป็นคนสุดท้ายที่กลับเพราะคนอื่น ๆ ออกไปและคู่ของเราขอตัวไปห้องน้ำและหายไปเลยจนร้านปิด  “หรือห้องน้ำจะเปลี่ยนเป็นประตูมิตินะเธอถึงหายไปนานขนาดนั้น”

เรื่องที่สามผู้ช่วยที่ไม่ต้องการ

ตอนวัยรุ่นเราคิดว่าเราป็อปมากมากเลยมีใครหลายหลายคนเข้ามาจีบเราแต่เราก็ไม่ได้สนใครเป็นพิเษ จนกระทั่งหนุ่มทีเราแอบชอบมาคุยด้วยและนัดเราไปทานอาหารเย็นสุดหรูกับคำทิ้งท้ายว่า เค้ามีเรื่องที่อยากจะบอกเราในคืนนั้นและเราจะต้องประหลาดใจมากมาก เราตื่นเต้นมากและคิดไปว่า เค้าจะต้องขอเราเป็นแฟนแน่นอน แต่พอไปถึงร้านอาหารปรากฏว่า เค้าพาเพื่อนชายมาอีกคนและบอกว่าเพื่อนของเค้าชอบเรามากแต่ไม่กล้าเข้ามาคุยด้วยและ เค้าอาสามาช่วยทำให้เราได้พบและคุยกัน “จบกันเลยความฝันของเราเจอแบบนี้เข้าไปก็ไม่รู้ทำไง คุณผุ้ช่วยเราอยากบอกว่าเราชอบคุณมากกกจะต้องทำไงเนี้ย”

เรื่องที่สี่ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน
เรื่องที่ห้าหัวเราะไปก่อนนะ

ครั้งนึงเมื่อตอนเรายังเป็นวันรุ่น เราชวนคนที่ชอบไปออกเดทกันที่สวนสนุก เพราะมันน่าจะมีอะไรให้ทำเยอะและคงดีถ้าเราได้นั่งทานไอศครีมเย็น ๆ หลังจากเพิ่งออกไปเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ แต่แผนทั้งหมดไม่เป็นอย่างนั้น เพราะสิ่งแรกที่เราเข้าไปชมคือการแสดงตลกของคระหนึ่งซึ่งมันก็ดูปรกติแหละถ้าเธอไม่ได้หัวเราอย่างต่อเนื่องมันเหลือเชื่อมากมากเพราะเธอดูการแสดงอย่างสนุกสนานมากมากแต่หลังจากการแสดงจบลงเธอยังคงหัวเราะอยู่อย่างนั้น และหัวเราะไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้สนใจเราและคนรอบข้างเลย เราดูเวลาก็น่าจะสัก 5นาทีแล้วที่เธอยังไม่หยุดหัวเราะเลย เราเลยขอตัวกลับก่อน และเธอก็ไม่ได้พูดอะไรเราเลยแยกย้ายกันกลับตั้งแต่ตอนนั้น “หัวเราะขนาดนี้เราไปก่อนนะ..บาย”

เรื่องที่หกเซอร์ไพรส์วันเกิด

หลายปีก่อนเราคบอยู่กับผุ้ชายคนหนึ่งซึ่งเค้าเป็นคนที่ชอบทำอะไรเซอร์ไพร์เราเสมอในระหว่างที่เราศึกษาดูใจกัน แต่แล้วหลังจากที่เราตกลงคบกันได้ 2 ปีในวันครบรอบวันเกิดของเราปรกติเค้าจะมีเซอร์ไพร์ ให้เราต่างๆ นานาแต่ปีนี้เค้าบอกว่าไม่สามารถมาเจอเราในวันนั้นได้ซึ่งเราก็แอบคิดว่าเค้าต้องคิดทำอะไรสักอย่างให้เราแน่นอน เราเลยบอกไปว่าไม่เป็นไรและเราจัดงานวันเกิดโดย เรียกเพื่อนสนิทมาจัดงานเล็ก ๆ ที่ห้องซึ่งจะเริ่มงานตอนช่วง 20.00 แต่แล้วก่อนเวลางานจะเริ่มสัก 10 นาทีเค้าก็โทรมาและเราก็คิดว่าเค้าน่าจะแอบอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อที่จะทำเซอร์ไพร์เรา แต่เค้ากลับโทรมาบอกว่าเค้าขออยู่คนเดียวและอยากให้เราเข้าใจเค้านั้นคือเค้าบอกเลิกเราทางโทรศัพท์ ก่อนที่เราจะเริ่มจัดงานวันเกิดของเรา แค่10นาที “ปีนี้เซอร์ไพร์สุดสุดไปเลยละว่าไหมละ”

เรื่องที่เจ็ดรักนะไม่ใช่การแข่งขัน

ช่วงหนึ่งของการเรียน เราถูกเรียกว่าเด็กหน้าห้องหรือเด็กเรียนซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมันก็เป็นเรื่องดี จนกระทั้งเราได้คบกับแฟนของเราซึ่งเธอจะนั่งโต๊ะแถวหน้า และเรียนกได้คะแนนอันดับต้นๆ ของห้องมาตลอดซึ่งเราก็สนุกกับการได้อ่านหนังสือและทำคะแนนแข่งกันซึ่งเราไม่เคยชนะเธอเลย จนกระทั้งสอบปลายภาคครั้งสุดท้ายก่อนการเลื่อนชั้นปีมันเป็นช่วงที่เราต้องอ่านหนังสืออย่างหนักเพราะเราต้องการจะสอบเข้าที่เรียนซึ่งมันต้องใช้คะแนนสูงพอสมควร และแฟนของเราก็เข้ามาช่วยเราติวแต่แล้วเมื่อผลการสอบออกปรากฏว่า เราทำคะแนนได้ดีกว่าที่คิดไว้และมันดีกว่าอันดับชองแฟนเรา หลังจากนั้นเธอก็ไม่คุยกับเราอีกเลยเพราะคะแนนเราดีกว่า ทั้งที่เธอเป็นคนติวให้เรา “โถ่คุณครับความรักกับการสอบมันน่าจะคนละเรื่องกันนะเธอ”

เรืองที่แปดเรื่องความรักบางครั้งก็ต้องฝ่าฟันไปให้ได้

เราได้คุยกับเพื่อนทางจดหมายคนหนึ่งเราส่งอีเมล์และโทรคุยกับบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดเราก็ตกลงกันว่าจะมาเจอกันสักครั้งเราจึงชวนเค้ามาทานอาหารที่ห้องอพาร์ทเมนต์ของเรา เราคิดในใจว่าจะทำอย่างไรดีเพราะมันเหมือนเราเป็นคนเริ่มจีบเค้าก่อนและมันอาจจะดูไม่ดีแต่ตอนนี้ช่างมันไปก่อน เราเดินมาไกลมากแล้วเค้ามาถึงหน้าห้องของเราแล้ว ครั้งแรกที่เราเจอหน้ากันเราว่าเค้าหล่อมากมาก มากกว่าที่เราคิดเสียอีกเราดีใจมากและนั่งคุยกันหลังอาหารเย็นอยุ่นาน จนก่อนจะกลับเค้าก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า เค้ายินดีที่เราได้พบกันในวันนี้และชมเราต่าง ๆ นานาแต่มาสดุดตอนท้ายที่ว่า ฟันของเรานั้นไม่สวยและเค้าเป็นคนที่ตั้งใจว่าจะคบกับคนที่ฟันสวยเท่านั้นและเค้าก็ขอตัวกลับไป เราคิดอยู่นานและร้องออกมาว่า “อะไรนะนี้เราพลาดผู้ชายในฝันไปเพราะเราฟันไม่สวยเหรอเนี้ย ความรักดีดีมันช่างเป็นเรื่องที่ต้องฝ่าฟันจริงจริง”

แล้วเพื่อนๆละเคยถูกปฏิเสธอย่างไม่คาดคิดบ้างไหม เราอยากที่จะได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคุณมากขึ้น แบ่งปันกับเรา!

เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ