ในทุกวันนี้สิ่งที่พวกเราต้องมีมาเป็นอย่างแรกๆเลยก็คือความแข็งแกร่งของตัวเรานั้นเอง ซึ่งนอกจากที่เราเองจะต้องมีสุขภาพที่แข็งแกร่งแล้วเราเองก็ยังต้องมีทักษะต่าง ๆ ที่ต้องใช้อีกมากมายเพื่อช่วยให้ตัวของเรานั้นสามารถยืนอยู่ในจุดที่ปลอดภัยในการดูแลตัวเองจากสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาหรืออาจจะเป็นบุคคลที่เข้ามาเพื่อมองหาผลประโยชน์จากตัวเราหรืออาจจะต้องการบางสิ่งบางอย่างจากตัวเรา
วันนี้นอกเหนือจากบทเรียนเรื่องราวต่าง ๆที่เพื่อนเพื่อนสามารถเรียนรู้จากโรงเรียนทั่วไปพวกเราชาวสัพเพเหระก็ได้ลองหาเรื่องราวและทักษะอื่น ๆ ที่เพื่อนเพื่อนก็น่าจะต้องทราบกันเอาไว้ด้วยเพื่อว่าสิ่งเหล่านี้นั้นจะสามารถช่วยเพื่อนเพื่อนได้ในสักวันหนึ่งเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ก็เป็นไปได้
ในเวลากลางคืนหรือที่ที่ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมานั้น คุณควรจะเดินออกห่างจากกำแพงสักหนึ่งหรือสองช่วงตัว
เรื่องง่ายๆที่หลายคนไม่ทันสังเกตุอย่างการเดินไปไหนมาไหนนั้นพวกเราหลายหลายคนอาจจะไม่ทันรู้ตัวว่าอันที่จริงแล้วคนส่วนใหญ่มักจะเดินโดยให้ตัวของเราเองนั้นอยู่ชิดกับกำแพงหรือผนังด้านใดด้านหนึ่ง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเราถูกบอกว่าให้เดินชิดขวาหรือซ้ายเพื่อไม่ให้ตัวเรานั้นไปเกะกะหรือขวางทางใครที่กำลังรีบใช้เส้นทางเดียวกับเราอยู่ด้วยนั้นเอง แต่สำหรับในที่มืดหรือที่ลับตานั้นการเดินชิดกำแพงกับเป็นช่องทางให้คนอื่นสามารถเข้าหาคุณได้ง่ายขึ้นโดยการยืนซ่อนตัวอยู่ในมุมกำแพงอีกฝั่งและรอจังหวะที่คุณเดินผ่านไปเพื่อทำอะไรสักอย่างโดยที่คุณไม่ทันได้ระวังตัวนั้นเอง ดังนั้นการเว้นระยะห่างออกมาจากกำแพงจะทำให้คนที่ซ่อนอยู่ต้องใช้จังหวะในการเข้าถึงเราเพิ่มขึ้นด้วยและนั้นแหละที่จะทำให้เราสามารถคิดหรือทำอะไรได้มากขึ้น
การจอดรถในช่องจอดนั้นบางคนอาจจะถนัดในการหันหน้าเข้าหรือบางคนก็อาจจะหันหลังเข้า
การจอดรถหันหน้าหรือหันหลังมันไม่ได้มีสิ่งบ่งบอกว่าเป็นเรื่องผิดหรือถูกเพราะมันก็แค่การจอดรถ แต่พวกเราพบว่าการที่เราจอดแบบหันหลังเข้าไปนั้นมันทำให้เราได้สังเกตุสิ่งต่างๆ รอบข้างขณะเข้าจอดว่ามีใครหรืออะไรซ่อนอยู่บ้างหรือเปล่า อีกทั้งเวลาที่คุณจะขับรถออกไปจากที่จอดนั้นยังสามารถทำได้สะดวกกว่าเพราะสามารถมองออกมาจากตำแหน่งด้านหน้าที่มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังมาจากทางด้านซ้ายหรือขวา
การเลือกสถานที่จอดรถ
ต้องบอกเลยว่าสิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป เพราะคิดกันเอาเองว่าการจอดรถนั้นเราจอดที่ไหนก็เหมือนกันเพราะตัวรถเองนั้นก็มีระบบต่างๆป้องกันอยู่แล้วมันก็น่าจะปลอดภัย แต่การที่เราจอดรถในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีแสงสว่างหรือไม่ค่อยมีใครผ่านไปมานั้นก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอยู่ดีเพราะมันเป็นการเพิ่มเวลาหรือช่องทางให้คนที่ไม่ประสงค์ดีสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นยังไงละ อีกทั้งในที่มืดๆนั้นก็อาจจะมีการแอบซ่อนตัวเพื่อรอเราอยู่ก็เป็นได้นะ ดังนั้นเราควรเลือกสถานที่ที่จอดรถที่มีแสงสว่างมากพอเพื่อที่จะได้สังเกตุเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายนั้นเอง
ตรวจสอบรถของคุณอยู่เสมอ
ทุกการเดินทางมีเรื่องใหม่ๆเข้ามาหาเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ของเราร่วมทั้งเรื่องไม่คาดฝันด้วยดังนั้นเวลาที่เรานำรถออกไปใช้เราควรสมรวจรอบๆให้แน่ใจก่อนว่ารถยังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอีกทั้งการเดินมองรอบรถก่อนที่จะขับออกไปจากที่จอดยังทำให้เรามองเห็นร่องรอยต่างๆที่ที่อาจจะเพิ่งเกิดขึ้นก็ได้ อย่างเช่นรอยขีดขวนหรือรองรอยการเฉี่ยวชนที่เราคิดไม่ถึง ซึ่งถ้าเราตรวจสอบรอบรอบอยู่เสมอก็จะทำให้มั่นใจได้ว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นและสามารถติดต่อขอดูกล้องในสถานที่นั้นๆได้ทันที
ถึงแม้ว่าคุณจะเดินทางคนเดียวก็ตามเวลาเข้าพักที่โรงแรมเราก็อยากให้คุณขอกุญแจห้องไว้ 2 ชุด
ที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อให้คนอื่นๆเข้าใจว่าคุณอาจจะมีเพื่อนหรือใครอีกคนทำให้คุณตกเป็นเป้าหมายของคนที่ไม่ประสงค์ดีได้ยากขึ้นอีกสักหน่อยนะ
เวลายืนในลิฟท์คุณควรที่จะหันหน้ามองให้เห็นคนอื่นๆ
เวลาที่คุณยืนในลิฟท์หรือสถานที่ที่อาจจะมีเพียงแต่คุณกับคนแปลกหน้าการที่เรายืนและมองออกไปในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นคนอื่นๆอยู่ด้วยจะทำให้คุณปลอดภัยมากกว่าการที่คุณจะยืนหันหลังไม่สนใจใครเลย เ
การนั่งชิดริมหน้าต่างอาจจไม่ใช่สิ่งที่ควรทำในเวลากลางคืน
เนื่องจากคนที่นั่งข้างหรืออาจจะยืนอยู่ข้างๆทางเดินบนรถจะมองไม่เห็นคุณ เพราะคุณจะถูกบดบังจากคนที่อยู่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมทางเดินดังนั้นกรณีที่คุณต้องการขอความช่วยเหลือก็จะทำได้ยากมากกว่า ดังนั้นการเลือกที่นั่งด้านทางเดินจะทำให้คุณถูกมองเห็นได้ง่ายและยังสามารถลุกเดินออกไปได้ทันทีที่ต้องการอีกด้วย
อันนี้มันเป็นเพียงเกล็ดเล็กๆน้อยๆที่เรานำมาฝากเพื่อนๆเพื่อว่ามันจะช่วยให้เพื่อนเพื่อนสังเกตุเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวและแก้ไขสิ่งเหล่านั้นได้ทันทวงที
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ